“ปิยะภัทร์” หรือ “คุณแอน” เล่าว่า ขณะนี้องค์กรกำลังวางแผนเดินหน้าเต็มที่ หลังจากก่อนหน้านี้มีตัวเลขติดลบ เนื่องจากการตั้งสำรองด้อยค่าของกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าไบโอก๊าซ ไบโอแมส ที่ผู้บริหารชุดเดิมลงทุนไว้ ซึ่งปัญหาเหล่านั้นได้ถูกบริหารจัดการจนเกือบ 100% แล้ว
หลังจากนี้ “คุณแอน” จะเดินหน้าสร้าง New Chapter ให้กับ PSTC ด้วยการลงทุนและขยายธุรกิจต่อเนื่อง เพื่อสร้างให้บริษัทกลับมามีรายได้และกำไร พร้อมการเติบโตอย่างยั่งยืน
จากธุรกิจ 5 กลุ่มหลัก คือ 1. โรงไฟฟ้า ซึ่งโฟกัสไปที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในรูปแบบโซล่าฟาร์ม และ Solar-Corporate PPA หรือ ธุรกิจที่ทำการลงทุนผลิตและขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์ ตามความต้องการของเจ้าของสถานที่ที่ว่าจ้าง 2. ธุรกิจ Oil & Gas จำหน่ายก๊าซ LPG ขายภาคยานยนต์ อุตสาหกรรม และครัวเรือน 3. กลุ่มธุรกิจ Liquefied Natural Gas (LNG) หรือ ก๊าซธรรมชาติเหลว ขายให้อุตสาหกรรมที่อยู่นอกแนวท่อ 4. ธุรกิจ EPC บริการงานออกแบบทางด้านวิศวกรรมครอบคลุมทั้งโรงไฟฟ้าและ Oil & Gas และ 5. ธุรกิจขนส่งน้ำมันทางท่อ จากสระบุรี ถึงขอนแก่น เพื่อกระจายไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปถึง สปป.ลาว
ใน 3 ปีต่อจากนี้ New Chapter ของ PSTC คือ การให้ความสำคัญกับธุรกิจพลังงาน เพราะเป็นธุรกิจที่ PSTC มีความเชี่ยวชาญ โดยให้ความสำคัญกับ 3 กลุ่มธุรกิจ คือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ตอนนี้ขยายทำโซล่ารูฟท็อปให้เอกชน มีการจำหน่ายขายไฟ ในรูปแบบของ Private PPA ธุรกิจกำลังเติบโตเรื่อยๆ
ธุรกิจที่สอง คือ กลุ่มธุรกิจ LNG นำเข้ามาจำหน่ายซัพพลายให้โรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่นอกแนวท่อ ทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงน้ำมันเตา โดยให้บริการแบบวันสต็อปเซอร์วิส ครอบคลุมตั้งแต่ ขั้นตอนการออกแบบ ดีไซน์สถานี LNG การซัพพลาย โดยบริษัทขนส่งและเอ็นจิเนียร์ LNG ของตัวเอง โดยบริษัทได้รับการแต่งตั้งจาก ปตท. ตอนนี้ขยายกลุ่มลูกค้าเยอะมาก โดยเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทำสัญญาระยะยาว 5-7 ปี
อีกธุรกิจที่ให้ความสำคัญ คือ การขนส่งน้ำมันทางท่อ กำลังจะทำเชิงพาณิชย์เร็วๆ นี้ และถือเป็นอินฟราสตรัคเจอร์ที่สำคัญของประเทศ เพราะไทยมีท่อน้ำมันไม่กี่ท่อ และที่ไปตะวันออกเฉียงเหนือก็มีเฉพาะของ PSTC และด้วยการขนส่งทางท่อ ทำให้สามารถช่วยลดมลพิษ ลดอุบัติเหตุ และลดคาร์บอน รวมทั้งยังทำให้ประชากรทางตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ราคาน้ำมันที่ดีขึ้น เพราะค่าขนส่งน้ำมันทางท่อดีกว่าการขนส่งในหมวดอื่นๆ
“คุณแอน” กล่าวว่า ธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มหลักที่กำลังขับเคลื่อนเต็มที่ใน 3 ปีหลังจากนี้ เป็นธุรกิจที่มีโอกาสสูง และจะทำให้บริษัทฯ มีรายได้ประจำ (recurring income ) สม่ำเสมอ ด้วยสัญญาระยะยาวกับคู่ค้า ซึ่งจะทำให้ PSTC มียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแน่นอน โดยปี 2566 ธุรกิจการจัดจำหน่ายก๊าซยังเป็นตัวทำรายได้สูงสุด แต่เมื่อการขนส่งน้ำมันทางท่อเริ่มเดินเครื่อง ตรงนี้จะเป็นรายได้ที่สำคัญ และมีกำไรทันที เนื่องการลงทุนมันฟิคคอสไปหมดแล้ว
ผู้บริหารหญิงคนนี้ บอกว่า ในการทำธุรกิจ เธอให้ความสำคัญกับ “โอกาส” ที่เข้ามาเสมอ ด้วยคติส่วนตัวที่ว่า if opportunity doesn’t knock build a door ...มองหาโอกาสอยู่เสมอ เมื่อไรที่มองไม่เห็นโอกาส ก็ต้องเป็นคนที่สร้างประตู เพื่อให้มันมีโอกาสตรงนั้นเกิดขึ้น และแน่นอนว่าทุกโอกาสที่เข้าไป มักจะมีอุปสรรครออยู่ แต่ถ้าประเมินความเสี่ยงแล้ว อุปสรรคกับมันมีมากกว่าโอกาส ก็จะปล่อย แต่ถ้าโอกาสมากกว่า แน่นอนว่า เธอพร้อมสู้เต็มที่
ด้วยแนวคิดที่มุ่งมั่นในเรื่องของ “โอกาส” และประสบการณ์ที่ทำงานในธุรกิจพลังงาน ทำให้ “คุณแอน” สามารถขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจของ PSTC ให้เดินหน้าได้ต่อเนื่อง
ขณะที่วิธีคิดและวิธีทำงานของหญิงเก่งคนนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการนำองค์กรไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว แต่เธอพาคนทั้งองค์กรให้เติบโตไปพร้อมๆ กันด้วย Happyness และต้อง Sustainability
“คุณแอน” บอกว่า เธอ empower ทีมงาม สร้างให้เขาเป็น business ownership ที่มีคุณภาพ เราต้องการสร้างทีมงานที่มีความเป็นผู้นำ ไม่ใช่ทีมงานที่เป็นผู้ตาม
“เราเป็น “Chief Happiness Officer” เราเคยเป็นลูกจ้างมาก่อน ทำให้รู้ว่าลูกจ้างต้องการอะไร ต้องการถูกปฏิบัติแบบไหน ต้องการวัฒนธรรมองค์กรและต้องการมีเจ้านายแบบไหน รวมทั้งต้องการให้เจ้านายดูแลเราอย่างไร เราจึงพยายามทำให้ผู้ร่วมงาน และทุกคนที่มีส่วนได้เสียมีความสุข”
วิธีคิดและวิธีทำงานที่พร้อมลุย... Work Smart, Play Smart ทำให้ “คุณแอน” ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำสูงสุดขององค์กรอย่างรวดเร็ว จากจุดเริ่มต้นที่เป็นพนักงานองค์กรเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท วันนี้เธอกลายเป็นซีอีโอ ที่ดูแลบริษัทพลังงานขนาดใหญ่ มีรายได้กว่า 2,600 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา นับจากนี้ เธอยังพร้อมลุยต่อ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้... “Happyness และ Sustainability”
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,836 วันที่ 17 - 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565