เปิดรายละเอียดโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2566/67

08 พ.ย. 2566 | 08:50 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ย. 2566 | 11:56 น.

เปิดรายละเอียดโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2566/67 หลัง ครม.อนุมัติในหลักการมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก กรอบวงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 10,601.96 ล้าน

จากกรณีที่ ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2566/67 และอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 10,601.96 ล้านบาท

ภายหลังจาก ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2566/67 โดยใน วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ หรือ นบข. เพื่อพิจารณาเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000  และวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 นำเสนอ ครม.เพื่ออนุมติอย่างเป็นทงการ

 

เปิดรายละเอียดโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2566/67

หากพลิกไปดูมติที่ประชุม ครม.เมื่อวานนี้  (7 พฤศจิกายน 2566)

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2566/67 และอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 10,601.96 ล้านบาท ดังนี้

1. โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2566/67 วงเงินจ่ายขาดรวมทั้งสิ้น 10,120.71 ล้านบาท จำแนกเป็น (1) ค่าฝากเก็บ 4,500.00 ล้านบาท (2) วงเงินชดเชย 2,177.01 ล้านบาท และ (3) กรณีมีการระบายข้าวโครงการฯ รัฐบาลจ่ายคืนและชดเชยให้ ธ.ก.ส. วงเงิน 3,443.70 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. และ ธ.ก.ส. ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป

2. โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2566/67 วงเงินจ่ายขาดรวมทั้งสิ้น 481.25 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. และ ธ.ก.ส. ขอรับจัดสรรงบประมาณจ่ายประจำปีต่อไป

สาระสำคัญ

มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2566/67 จำนวนทั้งสิ้น 2 โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 55,038.96 ล้านบาท จำแนกเป็น วงเงินสินเชื่อ 44,437.00 ล้านบาท วงเงินจ่ายขาด 10,601.96 ล้านบาท ดังนี้

1. โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2566/67 (โดย ธ.ก.ส.)

  • วิธีการ ธ.ก.ส. จ่ายสินเชื่อตามโครงการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรในพื้นที่ปลูกข้าวทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อชะลอข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉางเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร 3 ล้านตันข้าวเปลือก โดยกำหนดข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการฯ และวงเงินสินเชื่อต่อตัน ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 12,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 10,500 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 10,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 9,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 10,000 บาท
  • ค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือก กำหนดให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวในอัตรา 1,500 บาทต่อตันข้าวเปลือก โดยเกษตรกรที่เก็บข้าวเปลือกในยุ้งฉางตนเองได้รับเต็มจำนวน สำหรับสถาบันเกษตรกรที่รับซื้อข้าวเปลือกเข้าโครงการฯ ได้รับในอัตรา 1,000 บาทต่อตันข้าวเปลือก และเกษตรกรผู้ขายข้าวได้รับในอัตรา 500 บาทต่อตันข้าวเปลือก
  • การระบายข้าวเปลือก กรณีที่มีการระบายข้าวเปลือกให้ ธ.ก.ส. สำรองจ่ายค่าขนย้ายข้าวเปลือกที่ ธ.ก.ส. ตามวงเงินที่สำรองจ่ายและชดเชยต้นทุนเงินให้ ธ.ก.ส.
  • วงเงินงบประมาณ รวมทั้งสิ้น 44,557.71 ล้านบาท จำแนกเป็นวงเงินสินเชื่อ 34,437.00 ล้านบาท และวงเงินจ่ายขาด 10,120.71 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าฝากเก็บ 4,500.00 ล้านบาท วงเงินชดเชย 2,177.01 ล้านบาท และกรณีมีการระบายข้าวโครงการฯ รัฐบาลจ่ายคืนและชดเชยให้ ธ.ก.ส. วงเงิน 3,443.70 ล้านบาท โดยให้ ธ.ก.ส. ขอจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณต่อไป

 2. โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2566/67 (โดย ธ.ก.ส.)

  • วิธีการ สนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ข้าวชุมชน เพื่อรวบรวมข้าวเปลือกเพื่อจำหน่าย และ/หรือเพื่อการแปรรูป วงเงินสินเชื่อเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท คิดเป็นข้าวเปลือก 1 ล้านตันข้าวเปลือกและจำนวนสินเชื่อคงเหลือภายในระยะเวลาโครงการฯ ไม่เกินวงเงินสินเชื่อเป้าหมาย โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับร้อยละ 4.85 ต่อปี (ปัจจุบัน MLR ร้อยละ 5.875 ต่อปี) โดยสถาบันเกษตรกรรับภาระดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี รัฐบาลรับภาระชดเชยดอกเบี้ยให้สถาบันเกษตรกร ร้อยละ 3.85 ต่อปี
  • วงเงินงบประมาณ รวมทั้งสิ้น 10,481.25 ล้านบาท จำแนกเป็นวงเงินสินเชื่อ 10,000.00 ล้านบาท และวงเงินจ่ายขาดเพื่อชดเชยดอกเบี้ย 481.25 ล้านบาท โดยให้ ธ.ก.ส. ขอจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณต่อไป

ล่าสุด วันนี้ 9 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566  เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (บนข.) ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระกทรวงพาณิชย์ เพื่อสรุปเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1000 ปี  66 67 ล่าสุด