“ซีพีเอฟ”หนุนค้าปลีกขนาดเล็กก้าวสู่ดิจิทัลด้วยเทคโนโลยีจาก AWS

19 พ.ค. 2566 | 12:23 น.

“ซีพีเอฟ”ยกระดับธุรกิจ หนุนผู้ประกอบการค้าปลีกขนาดเล็กก้าวสู่ดิจิทัลด้วยเทคโนโลยีจาก AWS เพื่อเพิ่มยอดขาย

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการค้าปลีกขนาดเล็กในการใช้ข้อมูลสำหรับขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อเพิ่มยอดขาย ลดทรัพยากรในการดำเนินงานลง 20% และรองรับปริมาณงานเพิ่มขึ้นมากถึง 10 เท่าด้วยเทคโนโลยีจาก AWS

บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) ในเครือ Amazon.com เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจรของไทย ได้นำกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลมาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีชั้นนำจาก AWS โดย AXONS ซึ่งเป็นบริษัทที่สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีให้กับ ซีพีเอฟ ได้ทำการคัดเลือก AWS ให้เป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์และทำการย้ายระบบ SAP ของ ซีพีเอฟ ในประเทศไทยไปยัง AWS

ตลอดจนนำแพลตฟอร์ม SAP S/4HANA มาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ทำให้ ซีพีเอฟกลายเป็นธุรกิจที่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลที่มีความคล่องตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการให้บริการลูกค้า ปลดล็อกประสิทธิภาพของระบบซัพพลายเชน และสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ผ่านฟังก์ชั่น business-critical SAP workloads ใน AWS Cloud

การใช้เทคโนโลยีดังกล่าวนั้น ทำให้ AXONS สามารถขยายขอบเขตการให้บริการในรูปแบบใหม่ ๆ ให้กับ ซีพีเอฟ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ แอปพลิเคชั่นสำหรับสั่งวัถตุดิบด้านอาหาร จาก ซีพีเอฟ (เนื้อหมู เนื้อไก่) และแอปพลิเคชั่นวิเคราะห์ข้อมูลแบบดิจิทัล เป็นต้น ซึ่งบริการเหล่านี้สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อย ผ่านการวิเคราะห์ด้วยข้อมูล 

รวมทั้งการเข้าถึงการบริการด้านการเงินได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงในการเข้าสู่ยุคดิจิทัลให้เร็วขึ้น ทาง AXONS จะยกเลิกการใช้ On-Premise Data Center สำหรับ ซีพีเอฟ ในกลุ่มประเทศ กัมพูชา ลาว และเวียดนาม และย้ายแอปพลิเคชั่น mission-critical 

รวมทั้งแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น Farm Management Solution ไปยัง AWS ช่วยให้ ซีพีเอฟ สามารถปรับขนาดปริมาณงานให้เหมาะสมได้ดียิ่งขึ้นถึงสิบเท่า  รองรับการเติบโตของลูกค้าในภาคการค้าปลีกของไทย 7.5% ต่อปี อีกทั้งยังสามารถลดทรัพยากรด้านการดําเนินงานลงมากกว่า 20%

ก่อนหน้านี้ โครงสร้างพื้นฐาน On-premise ของ ซีพีเอฟ มีข้อจำกัดในการรองรับการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และการดำเนินงานร่วมกับกิจการใน 17 ประเทศ  ซีพีเอฟ เริ่มดำเนินการย้าย SAP ในส่วนของ SAP Business Warehouse SAP Business Planning and Consolidation และ SAP Business Intelligence solutions ไปยังคลาวด์ตั้งแต่ปี 2563  

สำหรับปีนี้ AXONS ดำเนินการย้ายระบบ SAP ไปยัง AWS ให้กับบริษัทในเครือของ ซีพีเอฟ ได้สำเร็จ ได้แก่ CP Meiji, CP Merchandising และบริษัทที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศ อีกทั้งยังนำ AWS มาใช้ในการประมวลผล จัดเก็บข้อมูลและบริการต่างๆ เพื่อปรับปรุงระบบการวางแผนทรัพยากรขององค์กร (Enterprise resource planning: ERP) ให้ทันสมัย  ส่งผลให้ ซีพีเอฟ สามารถเชื่อมต่อข้อมูลในส่วนงานต่าง ๆ 

อาทิ ซัพพลายเชน โรงงานแปรรูป และศูนย์บริการจัดเก็บและจัดส่งสินค้า เพิ่มขีดความสามารถในการมองเห็นภาพรวมการดำเนินงานมากขึ้น  และมีข้อมูลเชิงลึก เช่น ประสิทธิภาพการขายและความน่าเชื่อถือทางเครดิตของผู้ค้าปลีกเพื่อมาปรับปรุงการขาย ในอนาคตการเปลี่ยนแปลง SAP นี้จะช่วยให้ผู้ผลิตอาหารสามารถผสานความสามารถขั้นสูงของ AWS เช่น การวิเคราะห์ และ แมชชีนเลิร์นนิง (machine learning) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการให้บริการลูกค้า

การขับเคลื่อนการปรับปรุงระบบ SAP ของ ซีพีเอฟ ช่วยให้บริษัทสามารถแก้ปัญหาที่สำคัญของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและสร้างสรรค์ ตัวอย่างเช่น บริษัทได้เปิดตัวแอปพลิเคชันบน Line Official Account (OA) ชื่อ “ตลาดสด” แอปพลิเคชั่นดังกล่าวช่วยให้ผู้ประกอบการค้าปลีกขนาดเล็ก เช่น ร้านค้าแบบครอบครัว และร้านค้าที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชนที่โดยทั่วไปมักขาดเครื่องมือด้านการบัญชีและการวิเคราะห์ขั้นสูง เพื่อจัดการสินค้าคงคลัง ส่งเสริมยอดขาย และเพิ่มความสามารถในการสร้างกำไร 

ผู้ประกอบการค้าปลีกสามารถใช้ Line OA “ตลาดสด” เพื่อทำการสั่งซื้อสินค้าจาก ซีพีเอฟ และเข้าถึงการวิเคราะห์ข้อมูลฟรี ซึ่งปกติมักจะถูกใช้ในซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่เท่านั้น

นอกจากนี้ Line OA “ตลาดสด” ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับสต็อกและยอดขาย สามารถคาดการณ์ความต้องการและให้คำแนะนำเกี่ยวกับระดับสต็อกที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มยอดขายสูงสุด ตลอดจนเสริมศักยภาพให้กับผู้ประกอบการค้าปลีกโดยการให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์และเครดิตดิจิทัลเพื่อให้เติมสินค้าได้ทันท่วงที ถือเป็นอีกวิธีที่ช่วยในการเร่งยอดขายอีกด้วย

ทั้งนี้  AXONS ได้ร่วมมือกับ AWS ในการจัดตั้งโครงการเสริมทักษะเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะด้านคลาวด์ของพนักงานของซีพีเอฟ สนับสนุนการขับเคลื่อนองค์กรสู่ดิจิทัล

ในปีนี้ ซีพีเอฟ ตั้งเป้าหมายฝึกอบรมพนักงาน 20,000 คนเพิ่มทักษะดิจิทัลขั้นพื้นฐาน และมีบุคลากรด้านเทคนิคและอื่นๆ กว่า 100 คนที่ผ่านหลักสูตร AWS Cloud Practitioner Essentials จากนั้น AXONS จะเปิดให้พนักงานจากทีมโครงสร้างพื้นฐานและทีมนักพัฒนาเข้าร่วมหลักสูตรในห้องเรียนซึ่งครอบคลุมถึงเรื่อง AWS Cloud Architecture ระบบคอนเทนเนอร์ และความปลอดภัย

นายสรรเสริญ สมัยสุต กรรมการผู้จัดการและผู้บริหาร AXONS กล่าวว่า  การย้ายระบบ SAP ของ ซีพีเอฟ ไปยัง AWS ช่วยให้บริษัทและคู่ค้าที่เป็นผู้ประกอบการค้าปลีกปรับปรุงการดำเนินงานของพวกเขาในทั่วทั้งภูมิภาค ด้วยความคล่องตัวและความสามารถของ AWS  ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ให้กับ ซีพีเอฟ ได้รวดเร็ว และช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ในการเข้าถึงเครื่องมือขั้นสูงสุดของคลาวด์ได้โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย

ส่งผลให้ร้านค้าแบบครอบครัว และธุรกิจขนาดเล็กสามารถดำเนินธุรกิจของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำกำไรมากขึ้น ตลอดจนสามารถวิเคราะห์อาหารที่ประชากรในประเทศไทยชื่นชอบ เป็นต้น

“เทคโนโลยีคลาวด์กำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหาร ปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน และขับเคลื่อนการเติบโตในธุรกิจที่หลากหลาย” วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ AWS กล่าว

“การใช้ SAP บน AWS นั้นAXONS ได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับ ซีพีเอฟ เพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพในการดำเนินงานทั่วทั้งองค์กร รวบรวมข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ และทำการตัดสินใจจากข้อมูล นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ยังใช้ AWS เพื่อส่งเสริมการขยายตัวทั่วโลกและพัฒนาบริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็สร้างโอกาสทางการเงินให้กับผู้ประกอบการค้าปลีกขนาดเล็กเช่นกัน”

ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) เป็นผู้ให้บริการคลาวด์ที่ครอบคลุมและกว้างขวางที่สุดในโลก AWS ขยายการให้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการทำงานบนคลาวด์ทุกรูปแบบ ซึ่งในปัจจุบันมีบริการอย่างเต็มรูปแบบกว่า 200 รายการ 

สำหรับการคำนวณ การจัดเก็บข้อมูล ฐานข้อมูล ระบบเครือข่าย การวิเคราะห์ การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning: ML) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things: IoT) โทรศัพท์มือถือ การรักษาความปลอดภัย ไฮบริด เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง (Virtual Reality: VR) และการรวมวัตถุเสมือนเข้ากับสภาพแวดล้อมจริง (Augmented Reality: AR) สื่อและการพัฒนาแอปพลิเคชัน การใช้งาน และการจัดการจาก 99 Availability Zones (AZs) ใน 31 ภูมิภาค 

พร้อมประกาศแผนสำหรับ Availability Zones เพิ่มเติมอีก 15 แห่ง และ AWS Regions อีก 5 แห่งในแคนาดา อิสราเอล มาเลเซีย นิวซีแลนด์ และไทย ลูกค้ากว่าล้านรายรวมไปถึงสตาร์ทอัพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว องค์กรขนาดใหญ่ และหน่วยงานภาครัฐ ต่างเชื่อมั่นใน AWS ในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานของพวกเขาให้มีความคล่องตัวมากขึ้นและมีต้นทุนที่น้อยลง เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS ได้ที่ aws.amazon.com