ชงข้อเสนอรัฐบาลใหม่ ลุ้นส่งออกอาหาร 1.5 ล้านล้าน

16 เม.ย. 2566 | 02:30 น.

อุตสาหกรรมอาหารของไทยถือเป็นหนึ่งในครัวโลก ในปี 2565 ล่าสุดไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารอันดับ 13 ของโลก มีมูลค่าการส่งออก 1.51 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 22%

ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลภาคการส่งออกของไทยในภาพรวมชะลอตัวตามในเวลานี้ และการเมืองไทยที่กำลังจะได้รัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้ง ผู้ประกอบการอาหารของไทยต้องการการสนับสนุนอย่างไรบ้างนั้น “นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา” รองประธานกรรมการหอการค้าไทย นายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย และนายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป ให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ” ไว้อย่างน่าสนใจ

  • 2 เดือนแรกตุนแล้ว 2.2 แสนล้าน

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า ในปี 2566 สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปคาดการณ์ส่งออกสินค้าอาหารของไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 0-2% โดยช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ส่งออกแล้ว 221,440 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.9% โดยกลุ่มสินค้าอาหารที่ยังขยายตัวต่อเนื่องได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง, ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง และแห้ง,ไขมันและนํ้ามันจากพืชและสัตว์,นมและผลิตภัณฑ์นม เป็นต้น ส่วนที่ขยายตัวลดลง เช่น ผักสดแช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง, เครื่องเทศและสมุนไพร, ข้าวโพด,ซุปและอาหารปรุงแต่ง เป็นต้น ชงข้อเสนอรัฐบาลใหม่ ลุ้นส่งออกอาหาร 1.5 ล้านล้าน

 

สำหรับปัจจัยสนับสนุนสินค้าอาหารให้ขยายตัวที่สำคัญ ได้แก่ ภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคของภาคเอกชนไทยฟื้นตัว รวมถึงการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ, ความต้องการอาหารมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต ซึ่งประเทศไทยมีคุณภาพสินค้าที่ดี และราคาแข่งขันได้, ด้านต้นทุนพลังงานเริ่มลดลง ค่าระวางเรือขนส่งสินค้า และพื้นที่ระวางเรือเข้าสู่สมดุล, การขยายการเจรจาการค้ากับตลาดใหม่ๆ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากความตกลงทางการค้า

  • ปัจจัยเสี่ยงยังอื้อ

ขณะที่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ เช่น เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มถดถอยอย่างชัดเจน กำลังซื้อตํ่า, การส่งออกโดยรวมมีแนวโน้มชะลอตัวผลจากเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ลดลงจากภาวะเงินเฟ้อ,ค่าไฟฟ้า ดอกเบี้ย ที่เป็นต้นทุนธุรกิจมีแนวโน้มสูงขึ้น, ผู้ประกอบการบางกลุ่มยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ รวมถึงปัญหาหนี้สินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น, ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศทั่วโลก และภัยธรรมชาติอาจส่งผลต่อปริมาณวัตถุดิบในการผลิต และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และมาตรการกีดกันการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ

  • ชงข้อเสนอรัฐบาลใหม่

อย่างไรในส่วนของอุตสาหกรรมอาหาร มีข้อเสนอต่อรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา โดยเป็นข้อเสนอในภาพรวมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่เป็นผู้ประกอบการส่วนใหญ่ของประเทศ ได้แก่ การกระตุ้นการลงทุนของประเทศที่เป็นอีกเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยมุ่งเป้าดึงการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ๆ เช่น การแพทย์ และสุขภาพ พลังงานสะอาด อาหารแปรรูป และอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่อเนื่องในระยะยาว

วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา  นายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย และนายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป

นอกจากนี้ควรมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ให้สามารถปรับตัวรับความเสี่ยงผลจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยที่ทยอยปรับสูงขึ้น ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้นในภาวการณ์การแข่งขันและแรงกดดันด้านมาตรการกีดกันการค้าต่าง ๆ

การลดกฎระเบียบที่ซํ้าซ้อนซึ่งเป็นต้นทุนที่ลดความสามารถในการแข่งขัน และเน้นส่งเสริมยกระดับโครงสร้างการผลิต นวัตกรรมเทคโนโลยี รวมถึงงานวิจัยต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มมูลค่ารายได้ให้แก่สินค้าประชาชน และประเทศชาติ หาเทคโนโลยีใหม่ในการผลิตไฟฟ้า หรือการใช้พลังงานทดแทนที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น, การส่งเสริมนโยบาย BCG Economic Model ซึ่งสอดรับกับบริบทโลก พร้อมกันนี้ให้เร่งการเจรจาการค้าเสรีกับคู่ค้าสำคัญ และสร้างโอกาสทางการค้าในตลาดประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงตลาดที่มีกำลังซื้อสูง

“มาตรการต่าง ๆ ที่ใช้ในการหาเสียง ควรเน้นมาตรการระยะกลางและระยะยาวที่จะช่วยพัฒนาให้ประชาชนและธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น สร้างสิ่งแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจให้ประชาชนหารายได้เอง อีกทั้งควรจัดให้มีการจัดหาการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนและธุรกิจโดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกและสร้างความโปร่งใส ลดการใช้ดุลพินิจ หาแนวทางพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้เกิดความยั่งยืนที่แท้จริง”

ทั้งนี้หากได้รัฐบาลใหม่แล้วภาคเอกชนขอรัฐเปิดโอกาสในการร่วมแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นการแก้ไขปัญหาในความท้าทายที่เอกชนกำลังเผชิญอยู่ เช่น เรื่องค่าแรง ความผันผวนของค่าเงินบาท และต้นทุนค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น เพราะปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อภาคเอกชนและต่อเนื่องถึงภาคเศรษฐกิจ

หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3879 วันที่ 16 – 19 เมษายน พ.ศ. 2566