ประกันรายได้ข้าวงวด19 มาแล้ว จ่ายเงิน22ก.พ.นี้

18 ก.พ. 2566 | 10:23 น.

ประกันรายได้ข้าว งวดที่ 19 มาแล้ว   ราคาข้าวเปลือกเริ่มนิ่ง แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี  ธ.ก.ส.โอนเงิน 22ก.พ.นี้ หอมมะลินอกพื้นที่รับชดเชยสูงสุด

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 19 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 11 – 17 ก.พ. 2566 ปรากฏว่า ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสูงกว่าราคาประกันรายได้เกือบทุกชนิดข้าว ยกเว้นข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่และข้าวเปลือกเจ้า

ประกันรายได้ข้าวงวด19 มาแล้ว จ่ายเงิน22ก.พ.นี้

โดยข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่  มีเกณฑ์กลางตันละ 13,632.23 บาท เกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างตันละ 367.77 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 5,884.32 บาท และข้าวเปลือกเจ้า มีเกณฑ์กลางตันละ 9,899.37 บาท เกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างตันละ 100.63 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 3,018.90 บาท

สำหรับข้าวเปลือกปทุมธานี และข้าวเปลือกเหนียว มีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสูงกว่าราคาประกัน ดังนี้ ข้าวเปลือกปทุมธานี เกณฑ์กลางตันละ 11,090.32 บาท และข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางตันละ 12,460.47 บาท สำหรับข้าวเปลือกหอมมะลิ  ไม่มีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง เนื่องจากสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว โดยจะจ่ายเงินให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์งวดที่ 19  ในวันที่ 22 ก.พ.66 

ประกันรายได้ข้าวงวด19 มาแล้ว จ่ายเงิน22ก.พ.นี้

ผู้แทนสมาคมโรงสีข้าวไทย และสมาคมค้าข้าวไทย ให้ข้อมูลว่า ราคาข้าวเริ่มปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน จากการชะลอของตลาดส่งออกที่มีการส่งมอบในช่วงต้นปีสูงถึงประมาณ  0.8 ล้านตัน ในช่วงเดือน ม.ค.66 ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.65) เพิ่มขึ้นกว่า 40% เพื่อให้สามารถรักษาตลาดในการแข่งขันราคากับประเทศคู่แข่งได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เกษตรกรส่วนใหญ่เก็บเกี่ยวข้าวรอบที่ 1 เกือบหมดแล้ว อยู่ระหว่างการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ยังคงเหลือในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งฤดูกาลเพาะปลูกจะช้ากว่าภาคอื่นๆ อยู่อีกประมาณ 60,000 ครัวเรือน หรือประมาณร้อยละ 2 ของเกษตรกรที่เพาะปลูกเท่านั้น

 

ทั้งนี้ ในงวดที่ 1 - 18 ที่ผ่านมา มีเกษตรกรได้รับเงินส่วนต่างประกันรายได้แล้วจำนวน 2.596 ล้านครัวเรือน จำนวน 7,847.73 ล้านบาท และ การช่วยเหลือไร่ละพันบาท เกษตรกรได้รับเงินแล้วกว่า 4.624 ล้านครัวเรือน จำนวน 53,896.82 ล้านบาท สำหรับเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ แต่ยังไม่ได้รับเงิน ขอให้ ติดต่อ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้าน เพื่อให้ ธ.ก.ส. ตรวจสอบต่อไป 

ทั้งนี้ กรมการค้าภายใน ได้เพิ่มการติดตามดูแลการซื้อขายข้าวเปลือก ทั้งในเรื่องของการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ รวมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดความชื้น ซึ่งหากพบเห็นว่า ท่าข้าวหรือโรงสีใด ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ กดราคารับซื้อ โกงน้ำหนัก หรือมีพฤติกรรมใดๆ ที่เป็นการเอาเปรียบชาวนา สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569