เจ๋ง! การบินไทย ไตรมาส 3 ปีนี้ โกยกำไร 4.4 พันล้าน ดัน 9 เดือนกำไรทะลุ 2.6 หมื่นล้าน

14 พ.ย. 2568 | 01:16 น.
อัปเดตล่าสุด :14 พ.ย. 2568 | 01:47 น.

การบินไทยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 โกยกำไร 4,421 ล้านบาท หลังกลับเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ ดันผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปีนี้ กำไรทะลุ 2.6 หมื่นล้าน ชี้แม้กำไร Q 3 จะลดลงกว่าปีก่อน แต่จากการควบคุมต้นทุน ส่งผลให้ EBITDA สูงถึง 12,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

การบินไทย ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 โกยกำไร 4,421 ล้านบาท หลังกลับเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ ดัน 9 เดือนกำไรทะลุ 2.6 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 73.4% ชี้แม้ Q 3 กำไรจะลดลง 64.6% จากปีก่อน แต่จากการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด ส่งผลให้บริษัทกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (EBITDA) สูงถึง 12,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

วันนี้ (วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) ประกาศผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2568 (กรกฎาคม-กันยายน 2568) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 4,421 ล้านบาท แม้จะลดลง 64.6% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากปี 2567 มีรายการพิเศษเป็นรายได้สุทธิจำนวน 10,119 ล้านบาท (เช่น กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิและกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้) และรายได้ ในไตรมาส 3 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) จํานวน 44,398 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,430 ล้านบาท (-3.1%)

สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทการบินไทย ฯ มีกำไรสุทธิรวม 26,394 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.4% จากปีก่อน และมี EBITDA จำนวน 43,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.0% โดยสะท้อนถึงการเติบโตของรายได้รวม 3.7% และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างเหมาะสม ซึ่งทำให้อัตราส่วนผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (Return on Assets) เพิ่มขึ้นจาก 6.06% ในปีก่อนเป็น 8.91%

ผลประกอบการ การบินไทย ไตรมาส 3 ปี 2568

ในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) จำนวน 44,398 ล้านบาท ลดลง 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การลดลงนี้มีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารที่ลดลง 3.8% และรายได้จากค่าระวางขนส่งลดลง 5.9% ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคาที่เพิ่มขึ้นและการแข็งค่าของเงินบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ให้ลดลงถึง 7.2% โดยหลักมาจากต้นทุนค่าน้ำมันเครื่องบินที่ลดลงถึง 15.1% เนื่องจากราคาน้ำมันเฉลี่ยปรับลดลง 8.4% และเงินบาทแข็งค่าขึ้น 7.2% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ผลจากการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวดนี้ ส่งผลให้การบินไทยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (EBITDA) สูงถึง 12,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) สูงถึง 8,557 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ความสำเร็จดังกล่าวมาจากการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางการกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้ง

การบินไทย

ในด้านการดำเนินงาน อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 76.8% (จาก 76.1% ในปีก่อน) และปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 4.0% โดยบริษัทฯ ได้กลับมาให้บริการเส้นทางยุโรป เช่น บรัสเซลล์ (ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2567) และเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางยอดนิยม เช่น เซี่ยงไฮ้และเดนปาซาร์

การดำเนินงานที่สำคัญของบริษัทการบินไทย ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2568 

1. ความสำเร็จครั้งสำคัญด้านองค์กรและสถานะทางการเงิน

  • การกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ: หุ้น "THAI" ได้กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้งเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ภายหลังจากที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในการดำเนินงานฟื้นฟูกิจการ
  • ผลกำไรจากการดำเนินงานที่ดีขึ้น: บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) สูงถึง 8,557 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,365 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • การควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ: ค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ลดลงร้อยละ 7.2 โดยหลักมาจาก ค่าน้ำมันเครื่องบินที่ลดลงถึง 15.1% เนื่องจากราคาน้ำมันเฉลี่ยลดลงร้อยละ 8.4 และเงินบาทแข็งค่าขึ้นร้อยละ 7.2 เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

2. การดำเนินงานด้านปฏิบัติการและการขยายเครือข่าย

  • การเพิ่มปริมาณการผลิตและขนส่ง:
    • ปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1
    • ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0
  • อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) สูงขึ้น: อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารปรับตัวสูงขึ้นเป็น 76.8% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 76.1%
  • การขยายเส้นทางบิน: บริษัทฯ ได้กลับมาให้บริการเส้นทางสู่ยุโรป คือ บรัสเซลล์ (ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2567) รวมถึงเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางที่เป็นที่นิยม เช่น เซี่ยงไฮ้ และเดนปาซาร์ เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น
  • การรับมอบเครื่องบิน: มีการรับมอบเครื่องบินแบบแอร์บัส A330-300 จำนวน 1 ลำ เพื่อเสริมเส้นทางบินที่มีศักยภาพสูง ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีเครื่องบินที่ใช้ดำเนินงานทั้งสิ้น 78 ลำ

3. ความร่วมมือทางธุรกิจ

  • ความร่วมมือด้าน Digital Ecosystem: ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส จำกัด เพื่อพัฒนา Digital Ecosystem โดยจะเปิดตัวบริการเข้าถึงข้อมูลบัตรโดยสาร (Boarding Pass) และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ผ่าน Samsung Wallet
  • พันธมิตรด้าน MRO: ลงนาม MOU กับบริษัท AAR Components Services (ประเทศไทย) เพื่อกําหนดกรอบความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจด้านโครงสร้างลําตัวอากาศยาน และการซ่อมบํารุงบริภัณฑ์อากาศยาน ตลอดจน การใช้ทรัพยากรร่วมกัน และสนับสนุนในด้านงานซ่อมบํารุงอากาศยาน ในการเป็นพันธมิตรด้านโครงสร้างลำตัวอากาศยานและการซ่อมบำรุง

4. การลงทุนและการบริหารจัดการสินทรัพย์

  • การลงทุนในเครื่องบิน: ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีรายจ่ายเพื่อการลงทุนในส่วนที่เกี่ยวกับเครื่องบินจำนวน 10,567 ล้านบาท โดยหลักมาจากการเปลี่ยนสัญญาจากเช่าเป็นซื้อเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-300ER จำนวน 4 ลำ การเปลี่ยนสัญญานี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หนี้สินระยะยาวลดลง
  • การจัดการสินทรัพย์: รับรู้ค่าเผื่อผลขาดทุนจากการด้อยค่าของเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-200ER จำนวน 2 ลำ ที่ปลดระวาง