เวียดนามเร่งเครื่อง“รีสอร์ทครบวงจร”ผลักดันการท่องเที่ยว-MICE

23 ส.ค. 2568 | 10:46 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ส.ค. 2568 | 11:19 น.

เวียดนามเร่งผลักดัน "รีสอร์ทครบวงจร" ขนาดใหญ่ในหลายพื้นที่ วางยุทธศาสตร์ให้เป็น "โหนดเศรษฐกิจใหม่" ดันการท่องเที่ยว และธุรกิจ MICE ไม่ใช่แค่สถานบันเทิง-กาสิโน

KEY

POINTS

  • เวียดนามผลักดันโครงการ "รีสอร์ทครบวงจร" (Integrated Resort) ขนาดใหญ่ทั่วประเทศ เพื่อใช้เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเชื่อมโยงการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจ MICE เข้าด้วยกัน
  • มีการลงทุนในโครงการสำคัญ 4 แห่ง ในภูมิภาคต่างๆ เช่น Corona Resort ที่ฟู้โกว๊ก, The Grand Ho Tram Strip, Hoiana Resort ที่กว๋างนาม และ Van Don Resort ที่กว๋างนิงห์ เพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมหาศาล
  • รัฐบาลมีนโยบายสำคัญ คือ การทดลองอนุญาตให้คนเวียดนาม เข้าใช้บริการกาสิโนได้ในโครงการที่กำหนด เพื่อกระตุ้นตลาดในประเทศและ สร้างรายได้จากคนท้องถิ่น

ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เวียดนาม ได้ก้าวสู่การเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญของการลงทุนด้าน “รีสอร์ตครบวงจร” Integrated Resort (IR) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ไม่เพียงเพราะความต้องการขยายเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว แต่ยังสะท้อนวิสัยทัศน์ของรัฐบาลที่มองว่า IR ไม่ใช่แค่กาสิโน หากแต่เป็น “เครื่องจักรเศรษฐกิจ” ที่เชื่อมโยง การท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม MICE (Meetings, Incentives, Conferences, Exhibitions) เข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ ความเคลื่อนไหวของโครงการใหญ่ ๆ ที่เกิดขึ้นในหลายภูมิภาค กำลังสร้างภาพใหม่ให้เวียดนาม เป็นศูนย์กลางความบันเทิง การท่องเที่ยว และ ธุรกิจระดับนานาชาติ

“ฐานเศรษฐกิจ” เรียบเรียงโครงการ IR สำคัญต่างๆ ของเวียดนามมาให้เห็นภาพกัน  

หนึ่งในกรณีศึกษาที่สำคัญคือ Corona Resort & Casino บนเกาะฟู้โกว๊ก โครงการมูลค่ากว่า 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ได้รับการอนุมัติให้เป็น “กาสิโนนำร่อง” โดยอนุญาตให้คนเวียดนามเข้าเล่นได้ตามเงื่อนไขเฉพาะ ผลลัพธ์ที่ได้ระหว่างช่วงโควิด-19 คือ รายได้จากตลาด domestic มีสัดส่วนสูงเกินความคาดหมาย 

จนกลายเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า หากมีกติกาที่ออกแบบเหมาะสม ตลาดคนในประเทศก็สามารถขับเคลื่อน IR ได้ไม่แพ้นักท่องเที่ยวต่างชาติ กรณีของฟู้โกว๊ก จึงเป็นเหมือน “ห้องทดลอง” ที่ทำให้รัฐบาลมีข้อมูลจริงในการกำหนดนโยบายต่อไป

orona Resort & Casino บนเกาะฟู้โกว๊ก โครงการมูลค่ากว่า 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐของเวียดนาม

ขยับมาทางตอนใต้ The Grand Ho Tram Strip ในจังหวัดบ่าเรีย–หวุงเต่า ถือเป็น IR แรก ๆ ของเวียดนาม ที่มีบทบาทชัดเจนในการดึงทุนต่างชาติเข้ามา โดยมีนักลงทุนรายใหญ่ระดับโลกอย่าง Warburg Pincus และ VinaCapital เข้ามามีส่วนร่วม โครงการนี้ไม่เพียงเป็นกาสิโนริมชายฝั่ง แต่ยังถูกออกแบบให้เป็น “เมืองท่องเที่ยวครบวงจร”

                           The Grand Ho Tram Strip

ล่าสุดในปี 2025 มีการประกาศอัดเงินลงทุนเพิ่มอีกกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายโรงแรม สนามกอล์ฟ และโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ

การอัพเกรดครั้งนี้ ตอกย้ำว่า Ho Tram ไม่ได้ถูกมองเป็นเพียงแหล่งเสี่ยงโชค แต่เป็น “destination resort” ที่สามารถแข่งขันกับพัทยา หรือ ภูเก็ต ในตลาดท่องเที่ยวระดับภูมิภาคได้โดยตรง

ส่วนทางภาคกลาง Hoiana Resort & Golf ที่กว๋างนาม ใกล้เมืองมรดกโลกฮอยอัน เป็นอีกหนึ่งโครงการที่สะท้อนถึงความร่วมมือของกลุ่มทุนระดับโลก ทั้ง Chow Tai Fook Enterprises จากฮ่องกง และ LET Group (อดีต Suncity) ที่ร่วมลงทุนกับ VinaCapital ทำให้โครงการมีขนาดใหญ่ ครอบคลุมกาสิโน โรงแรมหรูหลายแบรนด์ และสนามกอล์ฟระดับมาตรฐานสากล ล่าสุดในปี 2025 VMS Group ได้เข้ามาถือหุ้นถึง 75% ของโครงการ

Hoiana Resort & Golf

 

การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นครั้งนี้ ช่วยเสริมเสถียรภาพทางการเงินและยกระดับธรรมาภิบาล ลดความกังวลที่เคยมีต่อการบริหารจัดการ และทำให้ Hoiana มีความพร้อมมากขึ้นที่จะดึงดูดตลาดพรีเมียมจากเอเชียตะวันออกและยุโรป

ในอีกด้านหนึ่งทางภาคเหนือโลก กำลังจะได้เห็นการก่อร่างของ Van Don Integrated Resort ในจังหวัดกว๋างนิงห์ ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของมรดกโลกฮาลองเบย์ โครงการนี้ดำเนินการโดย Sun Group มูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.3 หมื่นล้านบาท) และเพิ่งได้รับอนุมัติให้พัฒนาเป็น IR รุ่นใหม่

ความพิเศษของ Van Don คือ จะเป็นหนึ่งในไม่กี่โครงการที่รัฐบาลอนุญาตให้คนเวียดนาม สามารถเข้าเล่นกาสิโนได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งนอกจากจะสร้างความคึกคักให้กับเศรษฐกิจภาคเหนือแล้ว ยังมีศักยภาพจะกลายเป็น Entertainment Hub ที่รองรับทั้งนักท่องเที่ยวจีน นักธุรกิจจากฮานอย และ ตลาดในประเทศที่กำลังเติบโต

                       โครงการ IR ล่าสุด Van Don Integrated Resort

หากมองภาพรวมแล้ว โครงการ IR เหล่านี้ ไม่ได้เป็นเพียงการลงทุนเชิงอสังหาริมทรัพย์ หรือ ความบันเทิงเท่านั้น แต่กำลังทำหน้าที่เป็น “โหนดเศรษฐกิจใหม่” ที่ดึงเม็ดเงินมหาศาลเข้ามาเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการบิน โรงแรม ค้าปลีก และ บริการ MICE ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงสำหรับเวียดนาม

และนี่คือ ก้าวย่างสำคัญในการยกระดับประเทศจาก “จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวราคาย่อมเยา” สู่การเป็นศูนย์กลาง IR ระดับโลก ที่สามารถดึงดูดทั้งนักลงทุน และผู้เล่นในภูมิภาคเอเชียได้อย่างยั่งยืน

4 โครงการ IR ใหม่เวียดนาม

หากมองในเชิงโครงสร้าง เวียดนามไม่ได้มีกาสิโนกระจายแบบ “เล็ก ๆ หลายแห่ง” เท่านั้น แต่กำลังสร้าง IR ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และ MICE (Meetings, Incentives, Conferences, Exhibitions) เข้าด้วยกัน

• Corona Resort & Casino (ฟู้โกว๊ก) – โครงการนำร่องมูลค่ากว่า US$2.1 พันล้าน ที่ทำให้รัฐบาลเก็บข้อมูลจริงเรื่องพฤติกรรมผู้เล่นในประเทศ ผลรายได้จากตลาด domestic ในช่วงโควิดตอกย้ำว่า “ตลาดในประเทศ” มีศักยภาพหากออกแบบกติกาถูกจริต

• The Grand Ho Tram Strip (บ่าเรีย–หวุงเต่า) – IR แรก ๆ ของเวียดนามที่ได้รับการลงทุนจากกองทุนระดับโลกอย่าง Warburg Pincus และ VinaCapital ล่าสุดปี 2025 มีการประกาศอัดเงินเพิ่ม US$1 พันล้าน เพื่อขยายโรงแรม กอล์ฟ และโครงสร้างพื้นฐาน ตอกย้ำว่า Ho Tram ไม่ใช่แค่กาสิโน แต่เป็น “เมืองท่องเที่ยวริมชายฝั่ง”

• Hoiana Resort & Golf (กว๋างนาม–ฮอยอัน) – โครงการที่ลงทุนโดยพันธมิตรยักษ์ใหญ่อย่าง Chow Tai Fook Enterprises และ LET Group (อดีต Suncity) ร่วมกับ VinaCapital ครอบคลุมกาสิโน โรงแรม และสนามกอล์ฟ ล่าสุดปี 2025 VMS Group เข้าถือหุ้น 75% ทำให้โครงการมีเสถียรภาพด้านการเงินและธรรมาภิบาลมากขึ้น

• Van Don Integrated Resort (กว๋างนิงห์) – โครงการมูลค่า US$2 พันล้าน ของ Sun Group ที่เพิ่งได้รับอนุมัติในฐานะ IR รุ่นใหม่ โดยคาดว่าจะเป็น Entertainment Hub ของภาคเหนือ และสำคัญที่สุดคือเป็นหนึ่งใน IR ที่จะอนุญาตให้ “คนเวียดนามเข้าเล่นได้” ตามกติกาใหม่

อ้างอิง:

en.vietnamplus.vn

gamblinginsider.com

IAG

https://www.ggrasia.com/sun-group-says-approved-for-us2bln-van-don-resort-can-have-a-casino-serving-vietnam-locals