นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เผยว่าททท.ได้คาดการณ์สถานการณ์เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทย ช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันอาสาฬบูชา และวันเข้าพรรษา ปี 2568 โดยคาดว่าบรรยากาศการเดินทางยังอยู่ในทิศทางที่ดี
โดยมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศทั้งสิ้น 3.13 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียนประมาณ 13,670 ล้านบาท และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของสถานที่พักแรม อยู่ที่ 64% แบ่งเป็นอัตราการเข้าพักเฉลี่ยที่เกิดจากนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 39 %
การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันอาสาฬบูชาและวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 10-13 กรกฎาคม 2568 คาดว่า บรรยากาศการเดินทางยังอยู่ในทิศทางที่ดี โดยมีจานวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศทั้งสิ้น 3.13 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียนประมาณ 13,670 ล้านบาท และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของสถานพักแรมอยู่ที่ 64 % แบ่งเป็นอัตราการเข้าพักเฉลี่ยที่เกิดจากนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 39 %
ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้ เน้นการเที่ยวภายในภูมิภาคหรือจังหวัดใกล้เคียง เพื่อพาครอบครัวเดินทางไปไหว้พระ ทำบุญตักบาตร และถวายเทียนพรรษาตามวัดต่างๆ เนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ตามความเชื่อและศรัทธาของพุทธศาสนิกชน และถือโอกาสเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนไปพร้อมกัน
สอดคล้องกับผลการสำรวจแผนการเดินทางในช่วงวันหยุดเทศกาล ไตรมาส 3/2568 ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่พบว่า ประชาชนที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ปี 2568 ส่วนใหญ่เลือกที่จะเดินทางท่องที่ยวในจังหวัดตัวเองและจังหวัดใกล้เคียงมากกว่าการเดินทางข้ามภูมิภาค
โดยเป็นการเที่ยวจังหวัดตัวเองมากถึง 34 % ไปจังหวัดใกล้เคียงแต่ไม่พักค้าง 4 % และมีการพักค้างคืน 3 % ขณะที่เดินทางข้ามภาคมีเพียง 3 %
ภูมิภาคที่มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้ามากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ภาคกลาง 841,800 คน-ครั้ง รองลงมาคือ ภาคตะวันออก 577,300 คน-ครั้ง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 606,400 คน-ครั้ง
ภูมิภาคที่มีรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ กรุงเทพมหานคร 4,630 ล้านบาท รองลงมาคือ ภาคตะวันออก 2,500 ล้านบาท และภาคกลาง 1,960 ล้านบาท
จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในช่วงวันหยุดนี้
5 อันดับเมืองหลักที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่มากที่สุด ได้แก่
5 อันดับเมืองน่าเที่ยวที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่มากที่สุด ได้แก่
โดยนอกจากจะมีงานแห่เทียนเข้าพรรษาที่มีความเป็นเอกลักษณ์เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่แล้ว ยังมีวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังที่ประชาชนนิยมเดินทางไปไว้พระ ทำบุญ ขอพรในช่วงวันหยุดกันอย่างเนืองแน่น
ส่วนจังหวัดที่มีอัตราการเข้าพักสูงสุด ได้แก่ อุบลราชธานี (OR = 87% เป็นของชาวไทย 86%) ประจวบคีรีขันธ์ (OR = 84% เป็นของชาวไทย 75%) สมุทรสงคราม (OR = 77% เป็นของชาวไทย 75%) บึงกาฬ (OR = 76% เป็นของชาวไทย 75%) และสุพรรณบุรี (OR = 76% เป็นของชาวไทย 75%)
1. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล ได้แก่ โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ซึ่งเปิดให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนจองสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 และเริ่มเดินทางท่องเที่ยวจริงได้ในวันที่ 4 กรกฎาคม ช่วยกระตุ้นบรรยากาศการเดินทางเที่ยวภายในประเทศในช่วงวันหยุดให้กลับมาคึกคักทั้งใน เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว
2. มีการจัดกิจกรรมเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและงานประเพณีเข้าพรรษาทั่วประเทศ ที่มี ทั้งความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่ อาทิ ประเพณีแห่เทียนพรรษา จ.อุบลราชธานี งานแห่เทียนพรรษาทางน้ำที่ลาดชะโด จ.พระนครศรีอยุธยา ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา จ.สระบุรี งานมหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง จ.สุรินทร์ งานประเพณีใส่บาตรเทียน จ.น่าน งานเวียนเทียนทางน้ำกลางกว๊านพะเยา งานเวียนเทียนตะคันอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นต้น ช่วยส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าร่วมกิจกรรมในพื้นที่ในช่วงวันหยุด
3. มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งที่จัดโดย ททท. และพันธมิตรในพื้นที่ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมตามความสนใจของนักท่องเที่ยว เช่น
รวมถึงการท่องเที่ยวทางรถไฟในช่วงวันหยุด อาทิ ขบวนรถนาเที่ยว Royal Blossom กับโปรแกรม พาตะลุยสวนสวยเมืองพัทยา “สวนนงนุช” และขบวนรถ KIHA 183 โปรแกรมท่องเที่ยว "เที่ยวเมืองอาร์ต โอ่งมังกร สะพาน 3 ยุค เมืองราชบุรี" (วันที่ 12 และ 13 ก.ค.68)
1. การระมัดระวังการใช้จ่ายทางการท่องเที่ยว เนื่องจากมีความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจปัญหาค่าครองชีพและหนี้สินครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง จำเป็นต้องลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ส่งผลต่อการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว
สะท้อนได้จากดัชนีความเหมาะสมในการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวที่มีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา (ม.ค.= 90.6, ก.พ.=87.3, มี.ค.= 84.3, เม.ย.=82.3, พ.ค.=80.0) (ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย)
2. การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของคนไทยที่มีกาลังซื้อ จากข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว คาดว่า ช่วงวันหยุดยาวนี้คนไทยมีแผนเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ 12% โดยส่วนใหญ่นิยมท่องเที่ยวในประเทศภูมิภาคเอเชีย อาทิ จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม เกาหลีใต้ ไต้หวัน
3. เนื่องจากวันเข้าพรรษาไม่ใช่วันหยุดของภาคเอกชน ทำให้วันหยุดไม่ต่อเนื่องไม่เอื้อให้เกิดการเดินทางแบบพักค้าง กอปรกับเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม มีวันหยุดยาวใกล้กันถึง 3 ช่วง ทาให้ประชาชนมีโอกาสวางแผนเลือกการเดินทางได้มากขึ้น
4. เป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (Low Season) ของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลภาคใต้ อุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามันปิดการเข้าชมเพื่อพื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นช่วงฤดูฝนไม่เหมาะกับการทำกิจกรรมทางทะเล ส่งผลให้มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าภาคใต้ในช่วงวันหยุดนี้น้อยภูมิภาคอื่น