วันนี้ (24 มิถุนายน 2568) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอมา ซึ่งโครงการ เที่ยวไทยคนละครึ่ง ก็อยู่ในงบประมาณดังกล่าว โดยมีการตั้งงบประมาณไว้ในวงเงิน 1,750 ล้านบาท
โดยสัปดาห์ที่แล้ว ททท. เปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการล่วงหน้า และเตรียมจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิได้จริงในวันที่ 1 ก.ค.นี้
ส่วนการเปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนและกรอกคอนเซนต์ฟอร์มยินยอมให้ธนาคารกรุงไทยตรวจสอบเพื่อป้องกันปัญหาการสวมสิทธิ์และการหลอกลวงและบัญชี จะเปิดให้ผู้ประกอบการมาลงทะเบียนในคืนนี้ เวลา 00.01 (25 มิย.2568) ผ่านเว็บไซต์ www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com ผู้ประกอบการลงทะเบียนและกรอกคอนเซนต์ฟอร์มยินยอมให้ธนาคารกรุงไทยตรวจสอบเพื่อป้องกันปัญหาการสวมสิทธิ์และการหลอกลวงและบัญชี
จากนั้นธนาคาร ใช้ เวลา 3 วัน ส่ง กลับ ททท. ภายใน วันที่ 29 มิถุนายนนี้ และ ททท. เอาขึ้นเว็บไซต์ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ และ ให้นักท่องเที่ยวจองได้ ในวันที่ 1 กรกฏาคมนี้ ตาม timeline และ ระบบของ กรุงไทย พร้อม วันที่ 1 ก.ค.นี้เช่นกัน
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ททท.เตรียมจะนำโครงการ เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 เข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดททท.ในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ ก่อนจะเปิดให้ประชาชนมาลงทะเบียนใช้สิทธิได้ หลังจากก่อนหน้านี้ททท.ได้เปิดให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้ามาลงทะเบียน ซึ่งมีผู้มีประกอบการเข้าร่วมโครงการมากถึง 8 พันราย โดยสิทธิที่มีอยู่ 5 แสนสิทธิจะเป็นแบบใครจองก่อนได้ก่อน
สำหรับรูปแบบการดำเนินโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ขณะนี้จัดทำไว้ 2 แบบ ได้แก่
1.รัฐบาลสนับสนุนแบ่งเป็นเที่ยวเมืองหลัก รัฐบาลสมทบให้ 40% ประชาชนจ่ายเอง 60% เที่ยวเมืองรองหรือเมืองน่าเที่ยว รัฐบาลสมทบให้ 50% ประชาชนจ่ายเอง 50%
2.แยกการใช้เดินทางเที่ยววันธรรมดาจันทร์-ศุกร์ รัฐบาลสมทบให้ 50% ประชาชนจ่ายเอง 50% แต่หากเที่ยววันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รัฐบาลสมทบให้ 40% ประชาชนจ่ายเอง 60%
โดยกำหนดจำนวนสิทธิให้ใช้ได้อยู่ที่ 5 สิทธิหรือคืนต่อคน ใช้จ่ายในโรงแรมที่พักสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน รวมถึงมีคูปองดิจิทัลใช้จ่ายในร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าโอทอป และแหล่งท่องเที่ยวได้ด้วย โดยคูปองมีมูลค่า 500 บาท
ด้านนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยว่าประโยชน์จากโครงการ และผลกระทบด้านเศรษฐกิจ เที่ยวไทยคนละครึ่ง จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางจากโครงการไม่น้อยกว่า 100,000 คน สร้างรายได้ให้แก่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวกว่า 14,125 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มขึ้น 2.67 ล้านคน/ครั้ง (เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกัน ก.ค.-ต.ค.) สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวมกว่า 35,033 ล้านบาท การจ้างงานกว่า 40,669 คน ภาษีที่ภาครัฐได้รับกว่า 1,863 ล้านบาท