วันนี้ (วันที่ 9 เมษายน 2568) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการ ก.พ. และสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จัดการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง ครั้งที่ 3/2568 ณ อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถนนเพชรบุรี โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม
การเป็นเจ้าภาพจัดประชุมในครั้งนี้ มุ่งสะท้อนบทบาทของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในการขับเคลื่อนประเทศ ผ่านพลังของการท่องเที่ยวและกีฬา ภายใต้แนวคิด "Tourism and Sports: Powerful Tools for National Development" โดยเฉพาะในปี 2568 ซึ่งถือเป็นปีแห่งการส่งเสริมอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ผ่านแคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” ที่มีเป้าหมายยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมหัวหน้าส่วนราชการในวันนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้สื่อสารกับทีมรัฐบาลทุกท่าน ถึงวิกฤตประเทศที่กำลังเผชิญ และเราจะร่วมกันทำงานเพื่อผ่านวิกฤตเหล่านี้ไปด้วยกันอย่างเข้มแข็ง
ท่ามกลางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้วง 1 – 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น เหตุการณ์แผ่นดินไหว และการขึ้นภาษีสินค้าไทยของสหรัฐฯ แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำงานของพวกเราทีมรัฐบาล จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและทุกท่านในที่นี้ ซึ่งเป็นกำลังหลักของรัฐบาล หาทางออกร่วมกันเพื่อพาประเทศ ก้าวผ่านเหตุการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่นี้ไปได้
ในอดีตที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ เป็นหนึ่งในความได้เปรียบและเป็นอุตสาหกรรมแห่งความหวัง ในฐานะเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาเสมอ ดิฉันจึงอยากขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผนึกกำลังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว
ทั้งจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและความกังวลเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นลำดับแรก ทั้งการตรวจสอบอาคาร โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว และสื่อสารข้อมูลที่น่าเชื่อถือให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเกิดความรู้สึกปลอดภัยในการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้
ขณะเดียวกัน เพื่อสร้างความยั่งยืนของการท่องเที่ยวและบริการในระยะยาว ดิฉันขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เร่งรัดการส่งเสริมเมืองรองเป็นเมืองน่าเที่ยวให้เต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตลอดทั้งปี
รวมถึงการจัดทำแผนยกระดับการท่องเที่ยวไทย สู่การท่องเที่ยวในรูปแบบพรีเมียมมากขึ้น เพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัว (Spending per Head) ไม่ต่ำกว่า 45,000 บาท/คน/ทริป และกระจายรายได้ไปยังผู้ประกอบการรายย่อยและชุมชน
ตลอดจนจัดทำแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวภาพใหญ่เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเชิงการแพทย์ ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม รัฐบาล ข้าราชการ และทุกภาคส่วน จะร่วมกันทำงานอย่างหนักเพื่อผ่านวิกฤตเหล่านี้ไปด้วยกัน
ในการประชุมครั้งนี้ นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้นำเสนอผลการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยแบ่งเป็น 2 ด้านหลัก ได้แก่
ด้านการท่องเที่ยว
เช่น การสร้างแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบโดยชุมชน การยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการ การผลักดันเมืองท่องเที่ยวสร้างสรรค์สู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก
เช่น การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ และการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย
ผ่านศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC) การจัดตั้งเครือข่ายอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา (อสทก.) และการใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับการบริหารความปลอดภัย เช่น แอพพลิเคชั่นของตำรวจท่องเที่ยวที่ชื่อว่า Thailand Police Tourist
ด้านการกีฬา
เช่น การแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ, กีฬานักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน, กีฬาโรงเรียนโลก และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพในทุกกลุ่มเป้าหมาย
โดยการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ เช่น กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและวิทยาศาสตร์การกีฬา
การขอความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อขับเคลื่อนพันธกิจอย่างบูรณาการ เพื่อให้การดำเนินงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เสนอประเด็นความร่วมมือที่สำคัญกับหน่วยงานต่าง ๆ ดังนี้
ด้านการท่องเที่ยว
ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อจัดกำลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ
ขอความร่วมมือจากกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)
ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมการท่องเที่ยว, กระทรวงพาณิชย์ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อปราบปรามบริษัทนำเที่ยวเถื่อน และธุรกิจที่เป็นตัวแทนอำพราง (Nominee)
เช่น การควบคุมเรือท่องเที่ยว, การควบคุมรถเช่า Bigbike, การออกประกาศห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำบริเวณธงแดง โดยประสานงานกับกรมเจ้าท่า กรมการขนส่งทางบก และกรมอุทยานฯ
ด้านการกีฬา
โดยประสานงานกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อปลูกฝังวินัยและสุขภาวะในเด็กและเยาวชน
โดยร่วมกับกระทรวงมหาดไทยในการผลักดันให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบรรจุกิจกรรมกีฬาและออกกำลังกายในแผนพัฒนาท้องถิ่น
เช่น ซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์ และวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ประชาชนและส่งเสริม Soft Power ด้านกีฬา
นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวในช่วงท้ายว่า “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมทำงานเชิงรุกและเชิงบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงาน เพื่อผลักดันศักยภาพของประเทศไทยในด้านการท่องเที่ยวและกีฬาให้เป็นพลังหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเรามุ่งหวังให้ปี 2568 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่แสดงศักยภาพของประเทศไทยในระดับโลกอย่างแท้จริง และเป็นปีที่คนไทยทุกคนจะได้ภาคภูมิใจในพลังของการท่องเที่ยวและกีฬาไทย