นายกฯ ปั้นท่องเที่ยวพะเยา สั่งตั้งสำนักงาน ททท. ดันเป็นพื้นที่พิเศษ

19 มี.ค. 2567 | 07:44 น.

นายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” ประชุมครม.สัญจร ไฟเขียว ตั้งสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จังหวัดพะเยา ภายในไตรมาส 4 ปี 2567 พร้อมดันเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

วันนี้ (19 มีนาคม 2567) ที่จังหวัดพะเยา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร มีมติอนุมัติให้ตั้งสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จังหวัดพะเยา ภายในไตรมาส 4 ปี 2567 

พร้อมทั้งให้มีการศึกษาเพื่อประกาศให้จังหวัดพะเยาเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวให้เข้าสู่จังหวัดพะเยามากขึ้น และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ ตลอดจนพัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายให้มีการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

นายเศรษฐา กล่าวว่า จังหวัดพะเยามีขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมที่ดีงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งเป็นองค์ประกอบในการยกระดับเมืองรองสู่เมืองหลัก โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างสนามบินจังหวัดพะเยา ณ อ.ดอกคำใต้ และติดตามสถานการณ์ ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก อ.ภูซาง ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงการค้า การคมนาคมและส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดพะเยาให้มากขึ้น 

 

นายกฯ ปั้นท่องเที่ยวพะเยา สั่งตั้งสำนักงาน ททท. ดันเป็นพื้นที่พิเศษ

น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 มีหลายโครงการที่ต้องการการผลักดันและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Wellness และการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ให้จังหวัดเชียงรายเป็นเมืองสุขภาพดี เมืองแห่งชาและกาแฟ และ เมืองแห่งกีฬา 

ขณะที่จังหวัดพะเยาจะส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนโดยร่วมมือกับเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวและภาคเอกชนผลักดันกิจกรรมการท่องเที่ยวสีขาวที่มีองค์ประกอบของความสะดวก สะอาด ปลอดภัย เป็นธรรม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้ BCG Economy Model

 

นายกฯ ปั้นท่องเที่ยวพะเยา สั่งตั้งสำนักงาน ททท. ดันเป็นพื้นที่พิเศษ

 

รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและอาหาร รวมถึงนำการแข่งขันกีฬาในระดับประเทศมาจัดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น สำหรับจังหวัดน่านจะขับเคลื่อนสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก และพัฒนาชุมชนในจังหวัดน่านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน 

ขณะที่จังหวัดแพร่จะมีการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ให้สนองตอบต่อการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดและระหว่างจังหวัด ตลอดจนส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคผ่านด่านบ้านฮวก จังหวัดพะเยาเพื่อการเดินทางสู่เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลให้ขยายวันพักในจังหวัดพะเยาให้มากขึ้น

 

นายกฯ ปั้นท่องเที่ยวพะเยา สั่งตั้งสำนักงาน ททท. ดันเป็นพื้นที่พิเศษ

ส่วนสถานการณ์ท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วยจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน และแพร่ พบว่า ในปี 2566 ทั้ง 4 จังหวัด มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ  เมื่อเทียบกับช่วงปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากการเติบโตของการท่องเที่ยวในเมืองรองจากการดำเนินมาตรการส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศของกระทรวงการท่องเที่ยว โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 

รวมถึงกระแสความนิยมในสังคมออนไลน์ (Social media) และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดที่กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ทั้งนี้ในปี 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปกลุ่มจังหวัดในภูมิภาคภาคเหนือกว่า 39.48 ล้านคน 

โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 34.87 ล้านคนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4.61 ล้านคน ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2567 การท่องเที่ยวในภาคเหนือจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนรวมทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 45 ล้านคน

 

นายกฯ ปั้นท่องเที่ยวพะเยา สั่งตั้งสำนักงาน ททท. ดันเป็นพื้นที่พิเศษ

 

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าฯ ททท. กล่าวว่า ททท. เล็งเห็นถึงประโยชน์และข้อดี หากมีการจัดตั้ง ททท.สำนักงานพะเยา จะทำให้เกิดการประสานงาน และร่วมทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้อย่างใกล้ชิด ในการให้คำปรึกษาต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวที่พร้อมขาย และการดำเนินงานด้านส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวของ จังหวัดพะเยาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

อีกทั้งยังเกิดการคล่องตัวในการปฏิบัติงาน และบูรณาการร่วมกัน เนื่องจากในปัจจุบันทุกภาคส่วนให้ความสำคัญต่อการ ส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้งกลุ่มนักธุรกิจ YEC ได้เข้ามามีบทบาทในการร่วมผลักดัน และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันสำนักงานนี้ยังเป็นหน่วยงานทำหน้าที่หลักประจำจังหวัดพะเยา ในการดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาด การท่องเที่ยวในท้องที่ได้อย่างทันท่วงที สามารถกำหนดทิศทางการตลาดการท่องเที่ยวให้กับจังหวัด และร่วมขับเคลื่อนโครงการ หรือกิจกรรมกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวสู่จังหวัดพะเยาได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวเข้าสู่จังหวัดพะเยาเพิ่มมากขึ้น