เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ทุ่ม 159 ล้าน เปิด “น้ำพุดนตรี" สูงที่สุดในเอเชีย
เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ทุ่ม159 ล้าน รับลมหนาว เปิด “Musical Fountain“ น้ำพุดนตรี ที่สูงที่สุดในเอเชีย เป้าหมายโกยรายได้ช่วงไฮซีซัน 170 กว่าล้านบาทในปี 2566
สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรมต้อนรับลมหนาว Grand Opening Musical Fountain น้ำพุดนตรีที่สูงที่สุดในเอเชีย แลนด์มาร์คใหม่ สุดอลังการ! โดยนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดกิจกรรม
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การเปิดกิจกรรม Musical Fountain น้ำพุดนตรีที่สูงที่สุดในเอเชีย ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นับว่าเชียงใหม่ไนท์ ซาฟารีเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่และการที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีสร้างสรรค์พัฒนากิจกรรมใหม่ๆ ทั้งยังสร้างที่นี่ให้เป็นแลนด์มาร์คอีกหนึ่งจุดหมายของนักท่องเที่ยว พลาดไม่ได้ที่จะมาเช็คอิน เมื่อมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งสร้างสีสัน สร้างความสนุกสนานให้กับนักท่องเที่ยว และสร้างเศรษฐกิจที่ดีให้กับจังหวัดเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี
นายกฤษดา ลาพิมล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร และผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลาง ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า กิจกรรม Musical Fountain นี้ จัดขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ กระตุ้นการท่องเที่ยว และเป็นการสื่อสารองค์กรเชิงรุก ซึ่งเป็นกิจกรรมที่พัฒนาจากกิจกรรมเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยพัฒนาปรับปรุงขึ้นมาใหม่ทั้งระบบแสง สี เสียง และนำแนวคิดสมัยใหม่มาผสมผสานกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเป็นของขวัญให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนจังหวัดเชียงใหม่
และนับเป็นน้ำพุดนตรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมีความสูงถึง 30 เมตร สูงที่สุดในเอเชีย เป็นการแสดงน้ำพุดนตรี มีการฉายภาพบนม่านน้ำที่ตื่นตาตื่นใจ และกำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวในขณะนี้
อีกทั้งยังเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของนักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งสร้างสีสัน สร้างความสนุกสนานให้กับนักท่องเที่ยว และสร้างเศรษฐกิจที่ดีให้กับจังหวัดเชียงใหม่ในช่วง High season อีกด้วย
ทั้งนี้ยุทธศาสตร์ของประเทศเป็นเรื่องการสร้างรายได้กับการท่องเที่ยว น้ำพุดนตรีเป็นตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งจะมีความสำคัญสามารถจะเพิ่มคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีและจะมีการใช้จ่ายเม็ดเงินเพิ่มมากขึ้นในการท่องเที่ยวในลักษณะของธีมพาร์คหรือนวัตกรรมใหม่ๆนี้
คาดว่าช่วงไฮซีซั่นไนท์ซาฟารีจะมีรายได้จากการท่องเที่ยว เป้าหมายที่ตั้งไว้ 170 กว่าล้านบาทในปี 2566 เรามุ่งหวังว่านักท่องเที่ยวจากปกติประมาณ 30,000-40,000 คน/เดือน อยากให้เพิ่มขึ้นมาประมาณ 60,000 คนหรืออีกเท่าตัวหรือมากกว่านั้น ที่ผ่านมาในปี 2566 นักท่องเที่ยวทั้งหมด 370,000 คน ในปี 2567 ไฮน์ไลฟ์ของน้ำพุดนตรี ที่จะเป็นมนต์เสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาชมคาดว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นถึง 700,000 กว่าคนหรือ 1,000,000 คน สำหรับน้ำพุดนตรีใช้งบประมาณกว่า 159 ล้านบาท
สำหรับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี รองรับผู้มาเที่ยวชมประมาณ 5,000-6,000 คน รอบรถวิ่งอยู่ 10 คัน หมุนเวียนวันละ 10 รอบ
โดยกิจกรรมในฤดูกาลท่องเที่ยวนอกจากน้ำพุดนตรี จะมีกิจกรรมท่องโลกเสมือนจริง “Jurassic @ night safari”ซึ่งเป็นการนำนวัตกรรมใหม่ๆ ยุค Jurassic รวมถึงไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่าง ๆ ในรูปแบบสามมิติ (3D)
โดยทั้งหมดจะปรากฏขึ้นทั้งในรถบัสที่สร้างสภาพแวดล้อมเสมือนถิ่นที่อยู่อาศัยของไดโนเสาร์ ในยุค Jurassic รถเคลื่อนที่ ให้เด็กนั่งในรถเข้าไปศึกษาเรียนรู้ในการย้อนยุคการศึกษา ไดโนเสาร์ ทำให้เรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ของโลก