ททท.กางแผนท่องเที่ยว ปี 2567 ปั๊มรายได้ 3 ล้านล้าน เปิดสำนักงานใหม่ซาอุ

21 ก.ค. 2566 | 07:46 น.

ททท.กางแผนท่องเที่ยว ปี 2567 ตั้งเป้าหมายเชิงเศรษฐกิจ ปั๊มรายได้ 3 ล้านล้าน จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคน เปิดสำนักงานใหม่ซาอุดีอาระเบีย

เป้าหมายการท่องเที่ยวของไทยในปี 2567 ททท.ตั้งเป้าหมายเชิงเศรษฐกิจ ในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวไว้ใน 3 ซีนาริโอ คืออยู่ระหว่าง 2.4-3.0 ล้านล้านบาท โดยยึดเป้าหมายการสร้างรายได้กรณีที่ดีที่สุด (Best Case) อยู่ที่ 3 ล้านล้านบาท ภายใต้ทิศทางการส่งเสริมตลาดในประเทศและต่างประเทศ ที่เน้นปรับยุทธศาสตร์สู่การท่องเที่ยวที่เน้นคุณค่าและความยั่งยืน

  • ดันรายได้ท่องเที่ยวปี 67 แตะ 3 ล้านล้านบาท

การสร้างรายได้ในปี 2567 แตะ 3 ล้านล้านบาท เป็นรายได้ จากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.92 ล้านล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคน ส่วนรายได้จากตลาดในประเทศหรือไทยเที่ยวไทย 200 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1.08 ล้านล้านบาท

ททท.กางแผนท่องเที่ยว ปี 2567 ปั๊มรายได้ 3 ล้านล้าน เปิดสำนักงานใหม่ซาอุ

ในส่วนของตลาดต่างประเทศ ททท.ตั้งเป้าหมายตำแหน่งทางการตลาดที่จะขับเคลื่อนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศสูงสุดติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก และอันดับของดัชนีความภักดีที่มีต่อประเทศไทยของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ติดอันดับ 1 ใน 3 โดยวางเป้าหมายการสร้างรายได้ในกรณีที่ดีที่สุดอยู่ที่ 1,921,000 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้กว่า 63%  หรือรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท มาจากตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ (ตลาดระยะใกล้) ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25.8 ล้านคน คิดเป็น 74% ของเป้ารวมนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากพื้นที่เอเชียตะวันออก 12.48 ล้านคน อาเซียน 10.51 ล้านคน เอเชียใต้ 2.1 ล้านคน และโอเชียเนีย 7.87 แสนคน

ส่วนตลาดระยะไกล ยุโรป แอฟริกา ตะวันออก กลาง ตั้งเป้าหมายในปี 2567 ในแง่ของจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 9.2 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 26% ของเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด สร้างรายได้ให้คิดเป็นสัดส่วน 37% หรือคิดเป็น 7.21 แสนล้านบาท

การส่งเสริมตลาดต่างประเทศ ททท.จะเน้นเพิ่มตลาดที่สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวมากกว่า 5 หมื่นล้านบาทให้ได้ใน 8 ตลาด ได้แก่ จีน มาเลเซีย เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย รัสเซีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา การเพิ่มตลาดที่สร้างนักท่องเที่ยวเข้าไทยจำนวนมากกว่า 1 ล้านคนให้ได้ 8 ตลาด ได้แก่ จีน เกาหลี อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม รัสเซีย สหรัฐอเมริกา

การมุ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพอย่างยั่งยืน ด้วยการรุกเปิดตลาดใหม่และดึงกลุ่มคุณภาพเดินทางเข้าไทย ตลอดทั้งปีและทำให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและปลอดภัย กระตุ้นการเดินทางเชื่อมโยง ทางบก ขยายช่องทางการส่งเสริมตลาด ผ่านคู่ค้ารายใหม่และรายใหญ่ของโลกควบคู่กับการใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการทำตลาด

  • เปิดเป้าหมายเจาะนักท่องเที่ยวระยะใกล้

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยว่า ในส่วนของตลาดระยะใกล้ ในปี 2567 ททท.วางเป้าหมายการสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ราว 1.2 ล้านล้านบาท ฟื้นตัว 94% จากปี 2562 หรือก่อนเกิดโควิด-19 โดยวางเป้าหมายการสร้างรายได้จากตลาดเอเชียตะวันออก 54.9% ตามมาด้วยตลาดอาเซียน 31.5% ตลาดเอเชียใต้ 8.6% และตลาดโอเชียเนีย 5%

ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ

การทำตลาดระยะใกล้ จะเน้นกลยุทธ “MOREs” การทำให้มากขึ้น คมขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ การร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ในการดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย การเปิดพื้นที่เมืองรองของประเทศนั้นๆเพิ่มขึ้น การทำงานร่วมกับพันธมิตรที่มีช่องทางสื่อสารระดับโลก เช่น Alipay, Ctrip การสร้างให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการท่องเที่ยวที่มีความหมายมากขึ้น

สำหรับการส่งเสริมการขายในปีหน้า นอกจากการร่วมงานเทรดโชว์แล้ว ยังวางแผนจัดโรดโชว์ (Amazing Thailand Road Show ใน 6 ประเทศ/เมือง เพื่อเจาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ กลุ่มลักชัวรี กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ได้แก่ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไต้หวัน-ฮ่องกง, เวียดนาม (ฮานอยและโฮจิมินห์) ส.ค.ปีหน้า และเอเชียใต้ (อินเดียหรือปากีสถานหรือบังคลาเทศ)ในเดือนส.ค.ปีหน้า

  • เปิดสำนักงานททท.ซาอุดีอาระเบีย

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.) กล่าวว่า ในปีหน้าททท.วางเป้าหมายการดึงนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกล ในแง่ของจำนวนนักท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วน 25%

ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร

ส่วนการสร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วน 35% จากเป้าหมายการสร้างรายได้จากตลาดต่างประเทศในภาพรวมที่ 1.92 ล้านล้านบาท โดยจะโฟกัสใน 3 กลยุทธ์หลักเข้ามาทำเพิ่มเติมในทุกตลาด ได้แก่

1. Ecosystem Sustainability เน้นเรื่องของการสร้างสรรค์โปรดักซ์และบริการด้านการท่องเที่ยว ที่ขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน และการร่วมมือกับพันธมิตรทำเรื่องการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ

2. Fantastic Four เน้นเจาะกลุ่ม LGBTQ+ กลุ่มแอคทีฟซีเนียร์ กลุ่มมิลเลนเนียล นักเดินทางกลุ่มสตรี กลุ่มลักชัวรี กลุ่มครอบครัว กลุ่มดิจิทัลโนแมด กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส กลุ่มฮันนีมูนและแต่งงาน

3. Go Beyond A Million เจาะกลุ่มตลาดที่มีศักยภาพ กระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้าไทยได้มากกว่า 1 ล้านคน และการเพิ่มวันพักเฉลี่ยและค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่ตลาดยุโรป มีวันพักเฉลี่ยอยู่ที่ 19.40 วัน มีรายได้เฉลี่ยต่อทริป 71,718 ล้านบาท ตลาดตะวันออกกลาง มีวันพักเฉลี่ย 16.17 วัน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริป 99,172 บาท และตลาดอเมริกา วันพักเฉลี่ย 15.26 ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 76,297 บาทต่อทริป

ขณะเดียวกันททท.ยังมีแผนจะเปิดสำนักงานททท.ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 1 ประเทศ คือ ซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากมีการเติบโตสูงหลังจากไทยได้ฟื้นความสัมพันธ์กับซาอุตั้งแต่ปีที่ผ่านมา

โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-10 ก.ค. 2566 ไทยมีนักท่องเที่ยว จากตะวันออกกลางกว่า 268,576 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวจากซาอุดีอาระเบีย 76,652 คน ซึ่งมาเป็นอันดับ 1 แล้ว ตามมาด้วยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ 49,905 คน การเปิดสำนักงาน ททท.ที่ซาอุดีอาระเบีย จะกระตุ้นตลาดนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งททท.ตั้งใจจะเปิดสำนักงานนี้ภายในปีหน้า 

  • 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยว ได้ทุกวัน

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยว่า ททท.ตั้งเป้าหมายส่งเสริมให้เกิดการเดินทางเที่ยวในประเทศ 200 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1.08 ล้านล้านบาท

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์

ททท. ให้น้ำหนักไปที่การกระตุ้นให้เที่ยวไทยทันที เพิ่มความถี่และการกระจายตัวท่องเที่ยวหลากหลายพื้นที่มากขึ้น เป็น 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยว ได้ทุกวัน ตลอดทั้งปี เพื่อสร้างรายได้ให้ทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียม ควบคู่กับการนำเสนอจุดแข็งสู่จุดขาย ของ Soft Power (5F) และนำเสนอสินค้าเชิงประสบการณ์ผ่านอัตลักษณ์ของ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ เกิดเป็น Meaningful Travel ประกอบด้วย

  • ภาคเหนือ ชวนสัมผัส “เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ” ผสานความร่วมสมัย ผ่าน Northern Thailand Soft Power ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ กระตุ้นค่าใช้จ่ายด้วย Art & Craft ขยายฤดูกาลท่องเที่ยว
  • ภาคกลาง เสิร์ฟความสุขง่าย ๆ ใกล้ตัวจากสุขภาพดี เรื่องราวดีๆ งานดี เที่ยวดี และสบายใจดี ให้กับผู้เยี่ยมเยือน ภายใต้แนวคิด 4HD (4 Happy-Definition)
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดประสบการณ์อาหารถิ่น และ Michelin Guide ชวนคนไทยเที่ยวอีสานในคอนเซปต์ “อีสาน...ไปไสกะแซ่บ มากกว่าอาหาร คือ  ประสบการณ์” ผ่าน 20 เมนูแซ่บ จาก 20 จังหวัดภาคอีสาน  
  • ภาคตะวันออก นำเสนอคุณค่าประสบการณ์ท่องเที่ยวผ่านเรื่องราว “Story สบ๊ายสบาย Plus” ด้วยประสบการณ์ท่องเที่ยว ยืนหนึ่งเรื่องกิน ฟินเรื่องเที่ยวเต็มเหนี่ยวสายมู และเรียนรู้เรื่องรักษ์
  • ภาคใต้ ไปหรอยแรง ตอกย้ำประสบการณ์ท่องเที่ยวหลากหลาย 14 สไตล์ 14 จังหวัด ให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวภาคใต้ตามสไตล์ตัวเองได้ตลอดทั้งปี