สรุป! กม. ห้ามร้านขายเหล้า–เบียร์ ให้คนเมา ฝ่าฝืนเสี่ยงร่วมจ่ายค่าเสียหาย

19 ธ.ค. 2568 | 04:16 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ธ.ค. 2568 | 04:28 น.

พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2568 เพิ่มข้อบังคับใหม่ ความเข้มงวดร้านค้า ห้ามจำหน่ายเหล้า–เบียร์ให้ผู้มีอาการมึนเมา ฝ่าฝืนไม่เพียงผิดกฎหมาย แต่ยังเสี่ยงถูกฟ้องร่วมจ่ายค่าเสียหาย

KEY

POINTS

  • ข้อบังคับใหม่ห้ามร้านค้าจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับบุคคลที่มีอาการมึนเมาอยู่แล้ว
  • หากร้านค้าฝ่าฝืนขายให้คนเมาจนไปสร้างความเสียหาย ร้านจะต้องร่วมรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายด้วย
  • ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากร้านค้าได้
  • ผู้ขายมีหน้าที่ต้องใช้ดุลยพินิจในการประเมินลูกค้า และสามารถปฏิเสธการขายได้หากเห็นว่ามีความเสี่ยง

ภายหลังการประกาศใช้ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2568 อย่างเป็นทางการ นับเป็นการยกระดับมาตรการกำกับดูแลการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เข้มงวดขึ้น หลังจากมีการขยายเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มเป็นช่วงเวลา 11:00 – 24:00 น.

โดยเฉพาะการเพิ่มความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการร้านค้า เมื่อกฎหมายฉบับใหม่เปิดช่องให้ผู้ได้รับความเสียหายสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายจากร้านค้าที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้ที่มีอาการมึนเมา จนก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 เพจสมาคมคราฟท์เบียร์ ได้ออกมาอธิบายสาระสำคัญของกฎหมายฉบับดังกล่าว พร้อมสรุปแนวทางการปฏิบัติสำหรับร้านค้าและผู้ประกอบการ เพื่อให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ควบคู่กับการรณรงค์ “การดื่มอย่างมีคุณภาพ” และความรับผิดชอบต่อสังคม

สมาคมฯ ระบุว่า ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 ร้านค้าสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในช่วงเวลา 11.00–24.00 น. และยังคงมีข้อห้ามในการจำหน่ายให้กับบุคคลบางกลุ่ม ได้แก่

  • บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ โดยผู้ขายสามารถขอให้ผู้ซื้อแสดงบัตรประจำตัวประชาชนได้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอายุ
  • บุคคลที่มีอาการมึนเมา ซึ่งผู้ขายต้องใช้ดุลยพินิจในการพิจารณา และสามารถปฏิเสธการขายได้หากเห็นว่ามีความเสี่ยง

ทั้งนี้ ข้อห้ามในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับบุคคลที่มีอาการมึนเมา ถือเป็น กฎใหม่ที่เพิ่มเข้ามาโดยเฉพาะใน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2568 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว

ในส่วนของบทลงโทษ กฎหมายได้ระบุไว้ใน มาตรา 29 ว่า หากผู้ขายหรือร้านค้าฝ่าฝืนข้อห้ามดังกล่าว และเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย เช่น ทรัพย์สินเสียหาย มีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ผู้ขายหรือร้านค้าจะต้อง ร่วมรับผิดชอบในการชดใช้ค่าเสียหาย และยังมีความผิดตามกฎหมายเพิ่มเติม โดยในวรรค 3 ของมาตราดังกล่าว เปิดทางให้ผู้ได้รับผลกระทบสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายจากร้านค้าได้โดยตรง

เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางกฎหมาย สมาคมคราฟท์เบียร์ได้เสนอแนวทางปฏิบัติสำหรับร้านค้าและผู้ประกอบการ อาทิ

  • การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในร้าน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในกรณีจำเป็น
  • การอบรมพนักงานให้มีความรู้ด้านกฎหมาย และสามารถพิจารณาบุคคลต้องห้าม รวมถึงการปฏิเสธการขายได้อย่างเหมาะสม
  • การติดป้ายแจ้งกฎหมายใหม่ให้ลูกค้าทราบอย่างชัดเจน
  • การรณรงค์ให้ลูกค้าใช้รถสาธารณะ หรือบริการเรียกรถ แทนการขับขี่ยานพาหนะด้วยตนเอง

ที่มา : สมาคมคราฟท์เบียร์