สมรภูมิค้าปลีก-ค้าส่งภูธรรับ ‘คนละครึ่งพลัส’ คึกคัก ห้างใหญ่เตรียมบูม 1 พ.ย นี้

30 ต.ค. 2568 | 09:17 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ต.ค. 2568 | 09:23 น.

บรรยากาศเริ่มกลับมาคึกคัก ‘คนละครึ่งพลัส’ ดันยอดค้าปลีก-ค้าส่งภูธรกระเตื้อง เงินกำลังให้เข้าสู่ระบบจากผู้บริโคสู่ร้านค้ารายย่อย ห้างใหญ่หวังยอดขายโตขึ้นอย่างน้อย 10-15% พร้อมบูม Local Low Cost เริ่ม 1 พ.ย 2568

KEY

POINTS

  • โครงการคนละครึ่งพลัสกระตุ้นบรรยากาศการค้าในต่างจังหวัดให้คึกคักขึ้น โดยร้านค้ารายย่อยเริ่มซื้อสินค้าไปสต็อก ส่งผลให้ยอดขายของผู้ประกอบการค้าส่งเติบโตขึ้น 
  • ห้างค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้โดยตรง ก็ได้รับอานิสงส์จากการที่ร้านค้ารายย่อยมาซื้อสินค้าไปจำหน่ายต่อเพื่อรองรับกำลังซื้อของผู้บริโภค
  • ผู้ประกอบการคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้ขยับขึ้นอีกอย่างน้อย 10-20%

นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์ จำกัด ผู้ประกอบการค้าปลีก-ค้าส่ง รายใหญ่ในภาคอีสาน เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ก่อนหน้านั้นที่รัฐบาลประกาศลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งพลัส ยอดขายของห้างภูธรยังนิ่ง ร้านค้ารายย่อยไม่ได้เริ่มซื้อของเตรียบรับโครงการมากนัก แต่ในช่วง 3-5 วันที่ผ่านมา บรรยากาศกลับคึกคัก

ยกตัวอย่างห้างตั้งงี่สุน มียอดขายเติบโตขึ้นมาก (Growth Rate) คาดการณ์เบื้องต้นโตขึ้นประมาณ 8–15% สอดคล้องกับช่วงวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ที่ผู้บริโภคเริ่มทยอยออกมาใช้สิทธิ์ซื้อสินค้ากับร้านค้าที่ร่วมโครงการ

“ตอนนี้หลายคนตื่นตัว ตื่นเต้น เริ่มออกไปใช้สิทธิ์คนละครึ่งพลัสและสนุกกับการได้ใช้เงิน แน่นอนว่าส่วนใหญ่จะซื้อสินค้าตามร้านค้าขนาดเล็ก ร้านอาหาร หรือร้านค้าที่ขายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ผงซักผ้า น้ำปลา น้ำตาล ฯลฯ นับว่าเป็นการฟื้นโครงการคนละครึ่งที่ฉลาดของรัฐบาล โดยมีกฎหมายควบคุมอย่างเข้มงวด”

เงินก้อนแรกของโครงการคนละครึ่งพลัส กำลังเข้าสู่ระบบการใช้จ่ายของประชาชนจริง ๆ ร้านค้ารายเล็กรายย่อยเริ่มขยับตัวและได้ประโยชน์ หลังจากซบเซามานาน ส่วนห้างขนาดใหญ่ที่รายได้เกินกำหนดและไม่สามารถร่วมโครงการได้ ก็ได้รับอานิสงส์ด้วย รวมถึงห้างแมคโคร, บิ๊กซี และโลตัส

นายมิลินทร์ กล่าวว่า ห้างใหญ่ต่างก็อยากได้เงินก้อนนี้แม้ผ่านร้านค้ารายย่อย ดังนั้น "Customer is the King" กำลังจะกลับมา ภายในเดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคม ปี 2568 ค้าปลีก-ค้าส่ง จะเกิดการแข่งขันสูง จากวิกฤตเศรษฐกิจที่ประเทศไทยอยู่ในภาวะคนป่วยแห่งเอเซีย จะสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้เล็กน้อย

แม้จะอยู่ในช่วงบรรยากาศความโศกเศร้า งานพระราชพิธีพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง แต่เชื่อว่าคนไทยสามารถรับมือ ปรับตัว ตั้งรับกับโดยดำเนินชีวิตประจำวันต่อได้ และคาดว่าการใช้จ่ายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 น่าจะได้เห็นความคึกคักมากขึ้น ซึ่งก็ตรงกับช่วงเวลาจัดโปรโมชันครั้งใหญ่ของห้างภูธรทั่วประเทศที่ได้จัดโครงการ Local Low Cost พอดี

ขณะที่ เภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้า รายใหญ่ในภาคเหนือ กล่าวว่า แม้ในภาพรวมความเคลื่อนไหวของร้านค้ารายย่อย กับการเข้ามาซื้อสินค้ารอรับลูกค้าในโครงการคนละครึ่งพลัสจะยังไม่คึกคักมากนัก เพราะอาจมีสต๊อกเดิมเหลือค้างอยู่ แต่ก็คาดหวังว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป จะเกิดแรงกระตุ้นในการซื้อสินค้ามากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 10-20%

ด้าน นายประกอบ ไชยสงคราม ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง บริษัท ยงสงวนกรุ๊ป จำกัด จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ปัจจุบันยงสวนเริ่มเห็นความเคลื่อนไหวในการมาซื้อสินค้าของเครือข่ายร้านค้ารายย่อย ที่ต้องการซื้อสินค้าไปตุนไว้บ้างแล้วแต่ยังไม่มากนัก ลูกค้าหลายราย (ซึ่งเป็นร้านค้า) ระบุว่า ยังมีสต๊อกสินค้าอยู่ในร้านจำนวนมากอยู่แล้ว คาดว่าหลังจากนี้ที่ประชาชนเริ่มใช้จ่ายเงินตามโครงการคนละครึ่งพลัส จะช่วยให้ยอดขายขยับขึ้นอย่างน้อย 10% โดยเฉพาะช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้