KEY
POINTS
ในยุคที่คนรุ่นใหม่ไม่รอ “โอกาส” แต่เลือกสร้างโอกาสด้วยตัวเอง การก้าวเข้าสู่ธุรกิจด้วยการ “ซื้อแฟรนไชส์” กลายเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่สะท้อนพลังของผู้ประกอบการเจเนอเรชันใหม่อย่างชัดเจน หลายคนไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นเจ้าของร้าน แต่ใช้วิสัยทัศน์และความเข้าใจตลาดผลักดันให้แบรนด์ไทยก้าวสู่เวทีโลก
เช่นเดียวกับเรื่องราวของ “DROP BY DOUGH” แบรนด์โดนัทโฮมเมดสัญชาติไทยที่เริ่มต้นจากคาเฟ่ขนาดเล็กในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2562 ด้วยจุดยืนที่เรียบง่ายแต่จริงใจ “อยากให้ร้านเป็นพื้นที่ที่ใคร ๆ ก็สามารถแวะมาใช้เวลาพักผ่อน กินโดนัท จิบกาแฟ และแบ่งปันความสุขเล็ก ๆ ร่วมกันได้”
จากร้านเล็กในเมืองหลวง สู่การขยายแฟรนไชส์ภายใต้แนวคิด “อบอุ่น เรียบง่าย และใส่ใจในทุกรายละเอียด” DROP BY DOUGH ได้รับการตอบรับดีจากลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ จนสามารถขยายสาขาในประเทศครบ 3 แห่ง ก่อนจะก้าวสู่ความสำเร็จครั้งสำคัญ เปิด สาขา Stand Alone แห่งแรกในต่างประเทศ ที่ ใจกลางย่าน Central ของฮ่องกง ซึ่งถือเป็น สาขาที่ 4 ของแบรนด์
“ชื่อ DROP BY DOUGH เกิดจากคำว่า Drop by แปลว่า ‘แวะมาเยี่ยม’ และ Dough คือหัวใจของการทำโดนัท” โอ๊ต – ณรงค์ฤทธิ์ ศรีตลานนท์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งกล่าวถึงที่มาของชื่อแบรนด์ “เราตั้งใจให้ร้านเป็นเหมือนพื้นที่ที่ใคร ๆ ก็สามารถแวะมาได้นะครับ จะมานั่งเล่น ทานโดนัท จิบกาแฟ หรือใช้เวลาสบาย ๆ กับครอบครัว เพื่อน หรือคนที่รัก ทุกเมนูของเราทำสดใหม่ทุกวัน เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสถึงความตั้งใจในทุกรสชาติ”
ขณะที่ โอ๊ตซึ – เฉลิมพล อัครภิญโญกุล กล่าวว่า จุดแข็งของแบรนด์อยู่ที่ “ความโฮมเมดที่มีเอกลักษณ์” และ “รสชาติที่เรียบง่ายแต่จริงใจ” ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้คนรักโดนัทจดจำ DROP BY DOUGH ได้ตั้งแต่คำแรก
การเลือก “ฮ่องกง” เป็นประเทศแรกในการขยายสาขาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทั้งคู่เผยว่าเป็นเมืองที่มีความผูกพัน และยังมีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ “ฮ่องกงเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพลังและความเร่งรีบ เราอยากให้โดนัทของเรากลายเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ผู้คนได้หยุดพัก เติมพลัง และรู้สึกอบอุ่นเหมือนแวะมาบ้านเพื่อนสักที่”
การเปิดตลาดต่างประเทศครั้งนี้ยังเป็นบทพิสูจน์ของการบริหารแฟรนไชส์ในรูปแบบใหม่ เพราะต้องเผชิญความท้าทายทั้งด้านซัพพลายเชน การบริหารทีมในต่างวัฒนธรรม และความแตกต่างด้านรสนิยมผู้บริโภค “เราใช้เวลาศึกษาตลาดฮ่องกงอย่างละเอียด ทั้งเรื่องรสชาติและสินค้าที่คนท้องถิ่นชอบ พร้อมทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่เข้าใจพื้นที่จริง ๆ เพื่อให้โดนัททุกชิ้นยังคงสะท้อน DNA ของแบรนด์เรา”
DROP BY DOUGH สาขาฮ่องกงยังเสิร์ฟเมนูที่คัดสรรพิเศษเพื่อเชื่อมโยงรสนิยมคนท้องถิ่นกับความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็น Pistachioooooo โดนัทไส้คัสตาร์ดพิสตาชิโอเข้มข้น โรยถั่วเต็มคำ และ Mango Kati เมนูโดนัทกลิ่นอายไทยที่ผสมมะม่วงกับกะทิอย่างลงตัว
รวมถึงเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Raspberry Rose, Classic Vanilla, Nutella Hazelnut และ Kyoto Matcha & Red Bean ที่ยังคงครองใจแฟนประจำของแบรนด์ทุกสาขา
พื้นที่ร้านกว่า 200 ตารางเมตรในสไตล์เรียบง่ายแต่พิถีพิถัน ผนังกระเบื้องดินเผาสีน้ำเงินและเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่อบอุ่น สร้างบรรยากาศให้ผู้คนได้ใช้เวลาพักใจระหว่างวัน “เราต้องการให้ร้านเป็นเหมือน Oasis เล็ก ๆ ของชาวเมืองที่วิ่งเร็ว ได้มานั่งจิบกาแฟ กินโดนัท และยิ้มให้ตัวเองสักหน่อย”
หลังประสบความสำเร็จจากการปักหมุดที่ฮ่องกง กำลังวางแผนขยายสู่เมืองอื่นในเอเชียที่มีวัฒนธรรมคาเฟ่เข้มแข็ง เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และไต้หวัน โดยเน้นขยายอย่างรอบคอบและรักษามาตรฐานคุณภาพให้ครบทุกสาขา
“DROP BY DOUGH ไม่ได้เป็นเพียงร้านโดนัท แต่คือพื้นที่ที่เราส่งต่อความสุขให้ผู้คนได้ใช้เวลาร่วมกัน เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่อบอุ่นและมีคุณค่า เราอยากให้แบรนด์นี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของใครสักคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”