'มหาวิทยาลัยโกลบิส' เร่งขยายสาขาเอเชีย-ตะวันออกกลาง ย้ำไทยคือฐานสำคัญสุดในโลก

17 ต.ค. 2568 | 22:15 น.

มหาวิทยาลัยโกลบิสเผยกลยุทธ์เชิงรุก ขยายศูนย์กลางสู่เอเชีย-ตะวันออกกลาง ยืนยัน 'ไทย' คือฐานศิษย์เก่าที่สำคัญที่สุดในเครือข่ายโลก

KEY

POINTS

  • มหาวิทยาลัยโกลบิสกำลังเร่งขยายศูนย์การเรียนรู้ในเอเชียและตะวันออกกลาง โดยมีแผนเปิดสาขาใหม่ที่ไทเป มุมไบ และโอมาน
  • ประเทศไทยถือเป็นฐานสำคัญที่สุดในโลกนอกประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากมีชุมชนศิษย์เก่าที่แข็งแกร่งและใหญ่ที่สุด
  • นักศึกษาไทยมีความสนใจในหลักสูตรเพิ่มขึ้น 18% และบัณฑิตกว่า 60% เลือกทำงานต่อที่ญี่ปุ่นหลังเรียนจบ ซึ่งช่วยตอบสนองความต้องการบุคลากรของญี่ปุ่น

ในโลกธุรกิจปัจจุบันที่เปลี่ยนไปเร็วอย่างกับจรวด การเรียน MBA แบบท่องจำตำราอาจไม่พออีกแล้ว มหาวิทยาลัย GLOBIS ซึ่งเป็นสถาบันธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ได้สร้างความแตกต่างด้วยการวางเป้าหมายตัวเองเป็นสถาบันที่มุ่งมั่นจะเป็นอันดับหนึ่งของโลก ด้วยการผสานหลักการบริหารธุรกิจเข้ากับสิ่งที่เรียกว่า "Technovate" และ "Kokorozashi" ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการสร้างผู้นำแห่งอนาคต

สูตรลับ Technovate x Kokorozashi ที่ผู้นำต้องมี

นาย โยชิโตะ โฮริ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยโกลบิส และประธานกรรมการบริหารบริษัทโกลบิส GLOBIS กล่าวว่า เชื่อว่าการสร้างผู้นำที่ประสบความสำเร็จในยุคที่เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน ต้องมีรากฐานที่มั่นคงทั้งด้านทักษะและความมุ่งมั่นจากภายใน

  • Technovate (การใช้เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์) คำนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของนวัตกรรม แต่คือการที่ผู้นำต้องเข้าใจและนำเทคโนโลยีมาใช้ อย่างมีกลยุทธ์ เพื่อมองเห็นโอกาสใหม่ ๆ และรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจได้ทันท่วงที
  • Kokorozashi (พันธกิจจากหัวใจ) นี่คือปรัชญาญี่ปุ่นที่สำคัญยิ่งกว่าการประสบความสำเร็จส่วนตัว เพราะมันคือการค้นพบ จุดมุ่งหมายชีวิต เพื่อสร้างผลกระทบที่ดีต่อสังคมในวงกว้าง GLOBIS เชื่อว่าผู้นำที่มี "โคโคโรซาชิ" ที่แข็งแกร่ง จะมีแรงขับเคลื่อนและความยั่งยืนมากกว่า

แผนธุรกิจโลก จากญี่ปุ่น สู่ไทย และทั่วโลก

GLOBIS เริ่มต้นจากการเป็นอันดับ 1 ในญี่ปุ่นและเอเชีย และกำลังเร่งเครื่องเพื่อขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยมีแผนกลยุทธ์ที่น่าสนใจ ได้แก่

1.ขยายศูนย์กลางการเรียนรู้ หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดสาขาในเอเชียและยุโรป ล่าสุด GLOBIS ได้เปิดตัวที่ จาการ์ตา (อินโดนีเซีย) และกำลังเล็งเปิดศูนย์กลางใหม่ใน ไทเป (ไต้หวัน), มุมไบ (อินเดีย) รวมถึงภูมิภาค ตะวันออกกลาง (โอมาน)

นาย โยชิโตะ โฮริ

2.กลยุทธ์การบ่มเพาะแบบ "คนรู้จัก" แทนที่จะใช้การตลาดแบบทั่วไป GLOBIS เลือกใช้วิธีสร้างชุมชนการเรียนรู้ในพื้นที่ (Local Community) โดยเริ่มจากการให้ผู้เรียนเข้าถึงผลิตภัณฑ์ดิจิทัลและหลักสูตร Pre-MBA ที่สามารถโอนหน่วยกิตได้ เพื่อสร้างความผูกพันและสนับสนุนผู้เรียนจนกว่าจะพร้อมเข้าเรียน MBA เต็มรูปแบบ

ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญต่อกลยุทธ์ระดับโลกของ GLOBIS คือ ฐานศิษย์เก่าที่แข็งแกร่งที่สุด ชุมชนศิษย์เก่าในไทยเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสนใจของคนไทยในหลักสูตรนี้

อีกทั้งบัณฑิตไทยกว่า 60% เลือกทำงานในญี่ปุ่น หลังเรียนจบ ซึ่งเป็นการช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันและเติมเต็มความต้องการบุคลากรในสังคมสูงวัยของญี่ปุ่น ประกอบกับญี่ปุ่นเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเรียน MBA ของคนไทย เนื่องจากมีความใกล้เคียงทางวัฒนธรรม ความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตที่ดี

ความกล้าที่แตกต่าง จุดแข็งของGLOBIS

สิ่งที่ทำให้ GLOBIS แตกต่างและน่าสนใจ มีมากกว่าแค่ใบปริญญา คือการสอนโดยผู้บริหารจริง คณาจารย์ 100% เป็นมืออาชีพที่ปฏิบัติงานจริงในภาคธุรกิจ ทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องที่นำไปใช้ได้ทันที

การันตีคุณภาพด้วยการคืนเงิน GLOBIS เป็นมหาวิทยาลัยเดียวที่กล้าเสนอ การคืนเงินค่าเล่าเรียน 100% หากผู้เรียนไม่พึงพอใจในคุณภาพการศึกษา ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ความมั่นใจในหลักสูตร

สุดท้ายระบบนิเวศผู้ประกอบการที่ครบวงจร GLOBIS ไม่ได้สอนแค่แผนธุรกิจ แต่มีกองทุนร่วมลงทุน (VC Fund) ของตัวเองซึ่งบริหารเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (3.2 หมื่นล้านบาท) เพื่อสนับสนุนผู้เรียนและศิษย์เก่าที่ต้องการตั้งบริษัทใหม่ ตั้งแต่ระดับบ่มเพาะ (G-Incubate) ไปจนถึงการให้เงินลงทุนผ่าน G-Challenge และ G-Growth เพื่อให้พร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์

'มหาวิทยาลัยโกลบิส' เร่งขยายสาขาเอเชีย-ตะวันออกกลาง ย้ำไทยคือฐานสำคัญสุดในโลก

นาย โยชิโตะ กล่าวต่อว่า ไม่ว่าคุณจะเลือกหลักสูตร MBA เต็มเวลา 1 ปี ที่ญี่ปุ่นเพื่อเร่งการเติบโตของอาชีพ หรือหลักสูตร MBA ออนไลน์แบบพาร์ทไทม์ 2 ปี เพื่อเรียนรู้ไปพร้อมกับการทำงาน GLOBIS ก็เตรียมแพลตฟอร์มที่มอบทั้ง ความรู้, ทุน และเครือข่าย ให้คุณพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำที่แตกต่าง

ด้าน นางสาวเฌอปราง อารีย์กุล นักศึกษาหลักสูตร Full-time MBA และแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ มหาวิทยาลัยโกลบิส (GLOBIS) กล่าวว่า การเปลี่ยนบทบาทจากสมาชิกวงไอดอลชื่อดังมาเป็นนักศึกษา MBA ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต

สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจเลือก GLOBIS คือหลักสูตรที่แตกต่างและลงตัว โดยเฉพาะการผสมผสานทักษะความเป็นผู้นำที่รู้เท่าทันนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและสังคม เข้ากับการพัฒนาเป้าหมายในชีวิต หรือ "Kokorozashi" ซึ่งหาไม่ได้จากมหาวิทยาลัยอื่น สำหรับเฌอปรางแล้ว นี่ไม่ใช่แค่การเรียนรู้ด้านธุรกิจ แต่คือโอกาสในการ รู้จักตัวเอง ค้นหาทิศทางการเติบโตที่ต้องการ และตระหนักว่าตนเองจะสามารถ สร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับสังคมโลกได้อย่างไร

นางสาวเฌอปราง อารีย์กุล

มหาวิทยาลัยโกลบิสก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2535 และเติบโตจนมีศิษย์เก่า MBA มากกว่า 11,200 คน จาก 83 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย ปัจจุบันจำนวนนักศึกษาไทยที่เลือกเรียนกับ GLOBIS เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในหลักสูตรที่แตกต่างและตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในหลักสูตร Full-time MBA, Part-time & Online MBA, Pre-MBA หรือ nano-MBA

GLOBIS มุ่งมั่นในการเสริมสร้างความรู้ ทักษะ และกรอบความคิดแบบ ผู้ประกอบการ ที่ยึดมั่นในวิสัยทัศน์และความคิดสร้างสรรค์ ให้แก่ผู้นำไทย เพื่อให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้บนเวทีระดับโลกในยุคที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล พร้อมนำพาองค์กรและเป็นผู้นำในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างแท้จริง