LG สวนหมัดจีน ไม่หวั่นสงครามราคา ชูคุณภาพ-นวัตกรรม สู้ศึกเครื่องใช้ไฟฟ้าไทย

29 ก.ย. 2568 | 22:15 น.

LG ประกาศไม่ร่วมสงครามราคาจากแบรนด์จีน แต่ทุ่มงบ 800 ล้านบาทต่อปี เน้นคุณภาพ การวิจัย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในไทย พร้อมปั้นบุคลากรเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

KEY

POINTS

  • LG ประกาศไม่เข้าร่วมสงครามราคากับแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีน โดยจะมุ่งเน้นการแข่งขันด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และบริการเป็นหลัก
  • บริษัททุ่มงบลงทุน 800 ล้านบาทต่อปี เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มศักยภาพการผลิต และใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนา (R&D)
  • มีแผนเพิ่มสัดส่วนการจัดซื้อชิ้นส่วนจากผู้ผลิตในไทยเป็น 80-90% ในระยะยาว เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินและเสริมความแข็งแกร่งของฐานการผลิต

นายอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า LG คาดว่าธุรกิจช่วงปลายปีจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์หลักอย่างเครื่องปรับอากาศและตู้เย็นที่มียอดขายดีตามฤดูกาล

ทั้งนี้ บริษัทยังคงติดตามนโยบายของภาครัฐชุดใหม่เพื่อประเมินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่น โครงการ "ช้อปดีมีคืน" ส่วนการเข้ามาของแบรนด์จีนจะทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง LG ยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมสงครามราคา แต่จะมุ่งเน้นที่ คุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการเป็นหลักโดยเชื่อว่ากลยุทธ์นี้จะสร้างมูลค่าในระยะยาวและไม่ส่งผลเสียต่อภาพรวมตลาด

เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ดังกล่าว LG ได้จัดสรรงบลงทุน 800 ล้านบาทต่อปี โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่และเพิ่มศักยภาพการผลิต นอกจากนี้ยังมีการนำเข้าเครื่องจักรจากเกาหลีมาเป็นต้นแบบ เพื่อให้วิศวกรไทยได้พัฒนาต่อยอด ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต

นอกเหนือจากการลงทุนด้านการผลิตแล้ว LG ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรและสิ่งแวดล้อม โดยมีการจัดสรรงบประมาณ  300 ล้านบาทของการลงทุนทั้งหมดในส่วนนี้

ด้านนาย วราพงษ์ อูปแก้ว ผู้อำนวยการโรงงาน บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (ระยอง) กล่าวว่า LG ใช้กลยุทธ์ การจัดหาวัตถุดิบจากหลากหลายแหล่ง (Multi-sourcing) ทั้งจากเกาหลี เวียดนาม และไทย โดยกำลังพิจารณาเงื่อนไขจากสหรัฐฯ ที่กำหนดให้ชิ้นส่วนต้องมีแหล่งกำเนิดในประเทศถึง 70% หากเงื่อนไขดังกล่าวไม่เป็นไปตามข้อกำหนด LG ก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนแหล่งจัดหา ในระยะยาว

นายอำนาจ สิงหจันทร์

โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนการจัดซื้อจากผู้ผลิตในไทยเป็น 80-90% เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินบาท นอกจากนี้ยังมีแผนขยายพื้นที่โรงงานเพื่อรองรับการย้ายฐานการผลิตของโรงงานอื่นที่ต้องการเข้ามาในประเทศไทย

LG ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรและสิ่งแวดล้อม โดยจัดสรรงบลงทุนถึง 30% ของทั้งหมดในส่วนนี้ จุดแข็งสำคัญของ LG ในไทยคือพนักงานที่มีคุณภาพสูงและมีความผูกพันกับองค์กรในระยะยาว ซึ่งสะท้อนจากสวัสดิการที่ดีเยี่ยม เช่น อาหารกลางวันและอาหารเย็นฟรี

นอกจากนี้ LG ยังใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทเติบโตได้อย่างยั่งยืนในตลาด สำหรับข้อมูลการผลิตผลิตภัณฑ์หลักในปี 2567 ได้แก่

  1. เครื่องซักผ้า ( คิดเป็น 39% ของกำลังการผลิต)
  • ผลิตภัณฑ์: เครื่องซักผ้าฝาบน เครื่องซักผ้าถังคู่ เครื่องอบผ้าฝาบน
  • กำลังการผลิต: 2.28 ล้านเครื่อง
  • สายการผลิต: 3 สายการผลิต ประกอบด้วย เครื่องซักผ้าฝาบน 2 สาย และ เครื่องอบผ้า 1 สาย

LG สวนหมัดจีน ไม่หวั่นสงครามราคา ชูคุณภาพ-นวัตกรรม สู้ศึกเครื่องใช้ไฟฟ้าไทย

  1. เครื่องปรับอากาศ ( คิดเป็น 45% ของกำลังการผลิต)
  • ผลิตภัณฑ์: เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน เครื่องปรับอากาศแบบติดหน้าต่าง เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์
  • กำลังการผลิต: 2.7 ล้านเครื่อง
  • สายการผลิต: 5 สายการผลิต ประกอบด้วย เครื่องปรับอากาศภายในบ้าน 4 สาย เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ 1 สาย

LG สวนหมัดจีน ไม่หวั่นสงครามราคา ชูคุณภาพ-นวัตกรรม สู้ศึกเครื่องใช้ไฟฟ้าไทย

  1. คอมเพรสเซอร์ (คิดเป็น 16% ของกำลังการผลิต)
  • ผลิตภัณฑ์: คอมเพรสเซอร์แบบโรตารี่ คอมเพรสเซอร์ดูอัลอินเวอร์เตอร์
  • กำลังการผลิต: 9.2 แสนชิ้น
  • สายการผลิต: 2 สายการผลิต