KEY
POINTS
นายพัฒนพงษ์ รานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ดีวานา เวลเนส จำกัด เปิดเผยว่า อุตสาหกรรม Wellness ทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 6.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมูลค่าเศรษฐกิจ Wellness ของไทยพุ่งขึ้นกว่า 28% ในปี 2023 และมีศักยภาพแตะ 1 ล้านล้านบาท ในปี 2024 ซึ่งสอดรับกับความต้องการของคนเมืองยุคใหม่ที่เผชิญกับความเครียดและโรคจากวิถีชีวิต (Lifestyle Disease)
การเปิดตัว “Wellness Community Hub” จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ต้องการตอบโจทย์ Pain Point ดังกล่าว ด้วยการสร้างพื้นที่ที่เข้าถึงได้และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคน โดยประเดิมด้วยงาน Open House ในคอนเซ็ปต์ Full Moon Balance & Lunar Energy ซึ่งมีกิจกรรมหลากหลายที่เน้นการสร้างสมดุลร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นเวิร์กช็อปโยคะ, ศิลปะบำบัด, หรือการปรุงเมี่ยงคำที่สอดคล้องกับหลักสมุนไพรไทย
ปัจจุบัน ดีวานา มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติถึง 80% โดยเฉพาะชาวเอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลาง ขณะที่ลูกค้าชาวไทยมีเพียง 20% ดังนั้นโมเดล Wellness Community Hub จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่มุ่งจะขยายฐานลูกค้าในกลุ่มคนไทย (Local) และชาวต่างชาติที่พำนักในไทย (Expats) ให้มากขึ้นในอนาคต
สำหรับแผนการตลาดในช่วงที่เหลือของปี 2568 บริษัทฯ มีแผนจะเปิดร้านค้าปลีก (Concept Store) เพิ่มอีก 1 สาขาใจกลางกรุงเทพฯ ที่ CentralWorld ชั้น G เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น นอกจากนี้ ดีวานายังมีแผนระยะยาวที่จะลดการใช้พลาสติกและเพิ่มสัดส่วนวัสดุที่ยั่งยืนในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อมุ่งสู่การดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นายธเนศ จิระเสวกดิลก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาดและผู้ร่วมก่อตั้งดีวานา กล่าวทิ้งท้ายว่า การเปิดตัวคอมมูนิตี้ฮับในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การจัดกิจกรรม แต่คือการประกาศบทบาทของดีวานาในฐานะ Wellness Leader ของไทยและเป็นหนึ่งในฮับสำคัญของเอเชีย โดยนอกจากการตั้งเป้ายอดขายแล้ว บริษัทยังต้องการผลักดันการสมัครสมาชิกและสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ เช่น ธนาคาร โรงพยาบาล และบริษัทประกันชีวิต เพื่อขยายการเข้าถึงและส่งเสริมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมให้แพร่หลายยิ่งขึ้น