รพ.พญาไท พหลโยธิน เปิดกลยุทธ์รุกตลาด Healthcare ยุคใหม่

22 ก.ย. 2568 | 20:25 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ย. 2568 | 03:23 น.

โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน พลิกโฉมสู่ Flagship Hub ด้าน Healthcare ชูกลยุทธ์ตอบโจทย์กลุ่มคนยุคใหม่ ตั้งเป้าเจาะตลาด Premium Mass พร้อมปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นการดูแลเชิงป้องกันและ Wellness

KEY

POINTS

  • รพ.พญาไท พหลโยธิน พลิกโฉมสู่ Flagship Hub ด้าน Healthcare ภายใต้แนวคิด “Value Personalized Care” เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงานที่ใส่ใจสุขภาพ
  • ชูกลยุทธ์ ‘You Pay What You Want’ มุ่งเติบโตด้วยปริมาณผู้ใช้บริการ (Volume) ไม่ใช่การขึ้นราคา เพื่อวางตำแหน่งเป็นโรงพยาบาลระดับ Premium Mass ที่เข้าถึงง่าย
  • ปรับทิศทางมุ่งเน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและส่งเสริมสุขภาวะ (Wellness) แบบองค์รวม ควบคู่ไปกับการรักษาพยาบาลที่มีมาตรฐาน

นายปาณิพันธ์ ตันตยาภรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบริหารธุรกิจรพ.พญาไท พหลโยธิน กล่าวว่า โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลหลักภายใต้เครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล ในกลุ่ม BDMS เปิดให้บริการมานานกว่า 50 ปี ทั้งด้านการดูแลสุขภาพและ Wellness Program สำหรับองค์กรและหน่วยงานต่างๆ กว่า 1,900 องค์กร ครอบคลุมการตรวจสุขภาพประจำปี การจัดการด้านอาชีวเวชศาสตร์ และโครงการเสริมสร้างสุขภาพเชิงป้องกันต่างๆ 

ล่าสุดได้พลิกโฉมสู่ Flagship Hub ด้าน Healthcare ยุคใหม่ของย่านพหลโยธิน ภายใต้แนวคิด “Value Personalized Care – ราคาเข้าถึงได้ บริการเข้าใจคุณ” เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม New Age ที่ใส่ใจสุขภาพและคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน นับได้ว่าปรับเปลี่ยนทิศทางครั้งสำคัญ มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ตั้งแต่การป้องกันและส่งเสริมสุขภาวะที่ดี ควบคู่ไปกับการรักษาพยาบาลที่มีมาตรฐานในราคาที่เข้าถึงได้และคุ้มค่า

“ในปี 2568-2569 เราได้วางเป้าหมายว่าโรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน จะต้องเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน โดยมีหัวใจสำคัญของกลยุทธ์นี้คือ ‘You Pay What You Want’ หรือการจ่ายในสิ่งที่ต้องการจริงๆ และเป็นการเติบโตด้วยปริมาณผู้ใช้บริการ (Volume) ไม่ใช่การเติบโตด้วยการทำให้ราคาแพงขึ้น เพราะเป้าหมายหลักของเราคือการเป็นโรงพยาบาลที่เข้าถึงได้ง่าย เมื่อเปรียบเทียบคุณภาพและมาตรฐานการรักษากับโรงพยาบาลอื่น พร้อมวางตำแหน่งทางการตลาดไว้ในระดับ Premium Mass”

รพ.พญาไท พหลโยธิน เปิดกลยุทธ์รุกตลาด Healthcare ยุคใหม่

นายปาณิพันธ์ กล่าวว่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน ได้ออกแบบพื้นที่และบริการโดยยึด "Patient Journey" เป็นศูนย์กลาง ใส่ใจในทุกจุดสัมผัส (Touch Point) ของผู้ป่วย เช่น การออกแบบเก้าอี้ แสงสว่าง หรือห้องพักผู้ป่วยที่เลือกได้ตามความต้องการ ทำหน้าที่เป็น "โค้ช" ด้านสุขภาพ และดูแลคนในสัดส่วน 90% ของชีวิตที่ยังไม่ป่วย กลุ่มลูกค้าหลักก็เปลี่ยนจากผู้สูงอายุมาเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน และกว่า 40% เป็นลูกค้าประกัน ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตขึ้น

ขณะที่ปัจจุบัน ให้บริการทั้งผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีสัดส่วนชาวไทย 94.5% กลุ่มใหญ่ที่สุดอันดับหนึ่งคือลูกค้าประกัน และชาวต่างชาติ 5.5 % จากตะวันออกกลาง เมียนมา ถัดมาจะเป็นกลุ่ม Expat ชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยอย่าง อินเดีย อเมริกา รวมถึงชาวกัมพูชาด้วย

ด้าน นพ.ธนารักษ์ สถาพรวรศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ รพ.พญาไท 1, รพ.พญาไท 2 และ รพ.พญาไท พหลโยธิน กล่าวว่า โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ใจกลางกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ใน ย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี (Yothi Medical Innovation District) ซึ่งมีโรงพยาบาลและสถาบันการแพทย์กว่า 30 แห่ง และใกล้กับ ย่านนวัตกรรมอารีย์ (Ari Innovation District) ซึ่งเป็นศูนย์รวมองค์กรธุรกิจและเทคโนโลยี 

โดยจะทำงานร่วมกับโรงพยาบาลพญาไท 1 และ 2 ในเครือ BDMS ได้อย่างราบรื่น (Seamless) ทำให้มีเครื่องมือและบุคลากรพร้อมสนับสนุนครบครัน และทิศทางของโรงพยาบาลที่มุ่งเน้นไปยัง Wellness และการป้องกันโรค มากขึ้น ถือว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้คนไข้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้มีสุขภาพดีขึ้น (Total Life Modification)

รพ.พญาไท พหลโยธิน เปิดกลยุทธ์รุกตลาด Healthcare ยุคใหม่

นอกจากนี้ ยังมีบริการที่ ‘beyond standard’ เช่น การตรวจยีน (Genetic) เพื่อหาความเสี่ยงโรค, การให้วิตามินเสริมเฉพาะบุคคล, และมีเครื่องมืออย่าง VO2 Max สำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายอย่างจริงจัง โดยหัวใจสำคัญยังคงเป็นการกลับสู่พื้นฐาน (Back to Basic) คือ กินดี อยู่ดี นอนหลับดี และไม่เครียด ซึ่งจะมีทีมแพทย์ Anti-aging, นักโภชนาการ, ระบบ Tele-consultation ให้บริการเชิงรุก เป็นต้น

พญ.ถนอมศิริ สติฐิต ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพหญิง รพ.พญาไท พหลโยธิน กล่าวว่า สำหรับเรื่องสุขภาพ ถึงอย่างไร "การป้องกันดีกว่าการแก้ไข" การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งสำคัญ เหมือนการนำรถเข้าศูนย์เช็คสภาพ ซึ่งโรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน ถือว่าตอบโจทย์ครบวงจร มีศูนย์ตรวจสุขภาพ (Check-up) ศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้อง (MIS Center) หลายสาขา (ศัลยกรรม, สูตินรีเวช, ระบบทางเดินปัสสาวะ, กระดูกและข้อ) มาทำงานร่วมกัน ทำให้ผู้ป่วยได้รับบริการแบบ One-stop service

ทั้งนี้ การลงทุนตรวจสุขภาพเพื่อค้นหาโรคตั้งแต่ระยะแรกเริ่มนั้นคุ้มค่ากว่าการรอให้ป่วยแล้วค่อยรักษาอย่างมหาศาล ช่วยให้ผู้ป่วยประหยัดและส่งเสริมให้เกิดการติดตามดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ