KEY
POINTS
นาย โจว หยุนเจี้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ กรุ๊ป กล่าวว่า ไฮเออร์ ผู้ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกและแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 16 ปีช้อน ประกาศก้าวสำคัญด้านการลงทุนในประเทศไทย เปิดโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศแห่งใหม่ ณ จังหวัดชลบุรี มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 324,000 ตารางเมตร
ออกแบบภายใต้แนวคิดการผลิตยุคใหม่ ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Manufacturing) และระบบจัดการทันสมัย ตอบรับทั้ง ยุทธศาสตร์ S-Curve และ Thailand 4.0 เพื่อรองรับทั้งตลาดในประเทศและการส่งออก ด้วยกำลังการผลิตกว่า 6 ล้านเครื่องต่อปี
พร้อมยกระดับบทบาทของไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในอาเซียน และต่อยอด ศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก โดยในเฟสแรกจะเริ่มเดินสายการผลิตในเดือนกันยายน พร้อมตั้งเป้า 3 ปี (2568-2570) ผลิตกว่า 12.5 ล้านเครื่อง มูลค่าราว 63,650 ล้านบาท
นาย โจว หยุนเจี้ย กล่าวต่อว่า "ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม New S-Curve ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคต โดยมีอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในเสาหลักที่มีศักยภาพสูง
การลงทุนครั้งใหญ่นี้จึงไม่เพี้ยงสะท้อนความเชื่อมั่นของไฮเออร์ที่มีต่อเศรษฐกิจไทย แต่ยังตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นฐานการผลิตเชิงยุทธศาสตร์ของอาเซียน ที่เชื่อมโยงครบทั้งห่วงโช่อุปทาน การผลิต การวิจัยและพัฒนา ไปจนถึงการส่งออกสู่ตลาดโลก
อีกทั้งยังเป็นหมุดหมายสำคัญของความร่วมมือไทย-จีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตในปีนี้ ซึ่งสะท้อน ถึงความมั่นใจของนักลงทุนจีนต่อศักยภาพ ความมั่นคง และบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ของไทยบนเวที่เศรษฐกิจโลก
โดยการลงทุนในโรงงานแห่งใหม่นี้สอดรับกับยุทธศาสตร์ S-Curve และนโยบาย Thailand 4.0 ด้วยการยกระดับสู่มาตรฐานการผลิตใหม่ ผ่านเทคโนโลยี Smart Manufacturing และระบบจัดการที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) พร้อมวางแผนการผลิตไว้เป็น 3 เฟสอย่างเป็นระบบ
โดยเฟสแรกจะเริ่มเดินสายการผลิตเครื่องปรับอากาศในเดือนกันยายน 2568 จำนวน 3 ล้านเครื่อง มูลค่าประมาณ 14,700 ล้านบาท ก่อนจะขยายกำลังผลิตเป็น 3.5 ล้านเครื่อง มูลค่า17,800 ล้านบาทในปี 2569 และแตะระดับสูงสุดที่ 6 ล้านเครื่อง มูลค่าราว 31,150 ล้านบาทภายในปี 2570
ซึ่งจะทำให้โรงงานแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค และมีบทบาทสำคัญในการรองรับความต้องการทั้งในประเทศและการส่งออกไปยังตลาดโลก โดยเราเน้นส่งออกไปต่างประเทศมากกว่า 70% เช่น ยุโรป อเมริกาเหนือ ตะวันออกกลาง อาเซีย เป็นต้น
Haier มีเป้าหมายชัดเจนที่จะมุ่งสู่การเป็น แบรนด์เครื่องปรับอากาศยอดขายอันดับ 1 ของโลก ด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 13% โดยมีแผนเพิ่มยอดขายในประเทศไทยในปี 2568 ให้ได้ 5,500 ล้านบาทสำหรับเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน และ 1,108 ล้านบาทสำหรับเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์
บริษัทได้ลงทุนสร้าง โรงงานแห่งที่ 2 ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นโรงงานที่มุ่งเน้นการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างงานในท้องถิ่นกว่า 3,000 ตำแหน่ง โรงงานแห่ง นี้ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการเสริมศักยภาพการผลิตและส่งออกเพื่อรองรับความต้องการของตลาดในอาเซียน ตะวันออกกลาง และตลาดโลก
การลงทุนของ Haier ในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย ทั้งด้านแรงงาน โครงสร้างพื้นฐาน และระบบนิเวศทางอุตสาหกรรม นอกจากนี้ Haier ยังมีแผนที่จะพัฒนาโรงงานให้เป็น Smart Factory เต็มรูปแบบ พร้อมตั้งศูนย์ R&D เพื่อยกระดับการผลิตและคุณภาพสินค้า ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ไทยก้าวขึ้นเป็น ศูนย์กลางการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะในอาเซียน