เปิด 8 เหตุผล สมาคมภัตตาคารไทยขอฟื้นโครงการ 'คนละครึ่ง'

09 ก.ย. 2568 | 06:04 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.ย. 2568 | 07:36 น.

เปิด 8 เหตุผล สมาคมภัตตาคารไทยขอฟื้นโครงการ 'คนละครึ่ง' ช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย ลดค่าครองชีพ สร้างรายได้หมุนเวียนในธุรกิจร้านอาหาร เกษตรกรและแรงงาน

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับภาวะซบเซาที่รุนแรง โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบหนักจากการลดลงของยอดขายอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 25-50% จากปีก่อนหน้า

ขณะเดียวกันหลายร้านอาหารต้องปิดกิจการและลดการจ้างงานเพื่อลดต้นทุน เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวและการจับจ่ายของประชาชนลดลงอย่างชัดเจน

สมาคมภัตตาคารไทยจึงเสนอให้รัฐบาลกลับมาพิจารณาฟื้นโครงการ 'คนละครึ่ง' อีกครั้ง เพื่อช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนและเพิ่มรายได้หมุนเวียนในเศรษฐกิจ ทั้งในภาคธุรกิจร้านอาหารและภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อาหารและบริการ

 

 

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า "ในภาวะเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่แบบนี้ โครงการ ‘คนละครึ่ง’ เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการช่วยเหลือทั้งประชาชนและธุรกิจร้านอาหาร

โดยเฉพาะร้านอาหารขนาดเล็กและกลางที่กำลังเผชิญกับความยากลำบาก การฟื้นโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นการจับจ่าย ใช้สอยและสร้างรายได้หมุนเวียนในภาคธุรกิจ อีกทั้งยังส่งผลดีต่อเกษตรกรและผู้ผลิตวัตถุดิบที่อยู่ในห่วงโซ่อุตสาหกรรมอาหารทุกระดับ"

เปิดเหตุผลที่สมาคมภัตตาคารไทยขอให้รัฐบาลฟื้นโครงการ 'คนละครึ่ง'

1.กระตุ้นการจับจ่ายของประชาชน
โครงการคนละครึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถกระตุ้นให้ประชาชนมีการใช้จ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งยอดขายร้านอาหารกำลังตกต่ำโดยเฉลี่ยถึง 25-50% จากปีก่อนหน้า การเพิ่มกำลังซื้อผ่านมาตรการนี้จะช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนและกระตุ้นการจับจ่ายในตลาดสินค้าบริโภคได้โดยตรง

2.ช่วยเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจร้านอาหารรายเล็กและขนาดกลาง

ร้านอาหารขนาดเล็กและขนาดกลาง ซึ่งมีจำนวนกว่า 700,000 แห่งทั่วประเทศ กำลังประสบปัญหาทางการเงินและบางแห่งต้องปิดตัวลง โครงการคนละครึ่งจะช่วยให้ร้านอาหารเหล่านี้สามารถฟื้นตัวและมีรายได้หมุนเวียนอีกครั้ง เนื่องจากจะเป็นการสนับสนุนผู้บริโภคให้กลับมาใช้บริการร้านอาหารมากขึ้น

3.กระตุ้นอุตสาหกรรมในห่วงโซ่อาหาร

โครงการนี้ไม่ได้ช่วยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีผลกระทบในวงกว้างไปถึงเกษตรกร ผู้ผลิตวัตถุดิบอาหาร ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าปลีกในตลาดสด ทั้งนี้เป็นการกระตุ้นการขับเคลื่อนของภาคอุตสาหกรรมอาหารให้มีการหมุนเวียนของรายได้ในระดับท้องถิ่น ช่วยให้ระบบเศรษฐกิจในทุกระดับสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นางฐนิวรรณ กุลมงคล

4.เพิ่มการจ้างงานและสร้างรายได้ในภาคบริการ

การสนับสนุนผ่านโครงการคนละครึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้บริการในร้านอาหาร ซึ่งส่งผลให้มีความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้น ช่วยสร้างงานในภาคบริการ โดยเฉพาะร้านอาหารที่ต้องเพิ่มจำนวนพนักงานและชั่วโมงการทำงานเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

5.กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและสร้างความยั่งยืน

ร้านอาหารและธุรกิจท้องถิ่นถือเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจในหลายจังหวัดทั่วประเทศ การให้ความสำคัญกับร้านอาหารรายเล็กและธุรกิจท้องถิ่นผ่านโครงการนี้จะช่วยสร้างการหมุนเวียนของรายได้ในท้องถิ่น ทำให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดและขยายตัวไปพร้อมกันกับเศรษฐกิจของชุมชน

6.กระตุ้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับประเทศ

เมื่อภาครัฐมีการสนับสนุนการใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่งรายได้ที่เกิดขึ้นจากการใช้จ่ายในร้านอาหารและภาคบริการจะส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ช่วยกระตุ้นการผลิตและการลงทุนในหลายๆ ภาคส่วน รวมถึงสร้างการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

7.การสนับสนุนจากทุกภาคส่วน

สมาคมภัตตาคารไทยเชื่อว่าโครงการนี้จะได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และประชาชน เนื่องจากเป็นมาตรการที่ตอบโจทย์ปัญหาของธุรกิจร้านอาหารอย่างแท้จริง และสามารถแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในระดับต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

8. การสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

โครงการคนละครึ่งเป็นเครื่องมือที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน โดยเฉพาะในภาคธุรกิจร้านอาหาร และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารและการบริการ การให้การสนับสนุนอย่างจริงจังจากภาครัฐจะทำให้นักลงทุนเห็นถึงความสามารถในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับทุกฝ่ายในวงกว้าง

โดยรวมแล้ว การฟื้นโครงการ 'คนละครึ่ง' ถือเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำและช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจร้านอาหารและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง