ห้างเซ็นทรัล ชิงกำลังซื้อไตรมาส 3 ปี 68 คาดยอดช้อปพุ่ง 3 เท่า

04 ก.ย. 2568 | 22:00 น.

ห้างเซ็นทรัล และ Central App ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เร่งเครื่องเต็มสูบ สร้างสีสันเศรษฐกิจไตรมาส 3 เดินหน้าจัดแคมเปญเอาใจสายช้อปศึกวันเลขเบิ้ล (Double Digit Day) จัดเต็ม 10 วันเท่านั้น ระหว่างวันที่ 2-11 กันยายน 2568 ตั้งเป้ากวาดลูกค้า-ดีลฮันเตอร์ทั่วประเทศ

KEY

POINTS

  • ห้างเซ็นทรัลจัดแคมเปญ “CENTRAL 9.9 SALE” เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อช่วงไตรมาส 3 ของปี 2568
  • คาดการณ์ว่ายอดใช้จ่ายจากกลุ่มลูกค้าที่ช้อปหลายช่องทาง (Omni Customer) จะสูงกว่าลูกค้าปกติถึง 3 เท่า
  • ชูกลยุทธ์ออมนิแชนแนล (Omnichannel) ที่เชื่อมต่อการช้อปปิ้งทั้งหน้าร้านและออนไลน์เป็นจุดแข็งหลัก
  • ใช้การตลาดดิจิทัลครบวงจรผ่านโซเชียลมีเดียและอินฟลูเอนเซอร์เพื่อเข้าถึงลูกค้าอย่างแม่นยำ

นางสาวรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เผยว่า “เพราะลูกค้าเปลี่ยนใจได้ทุกวินาที ทำให้ทุกธุรกิจในวันนี้ทำแบบเดิมไม่ได้ โดยเฉพาะในโลกค้าปลีกที่หมุนไว เราจึงต้องนั่งในใจลูกค้า ใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด ทั้ง ด้านสินค้า การบริการ และโปรโมชัน เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าเราจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด และเข้าสู่ปลายปีนี้เราเตรียมเทศกาลและอีเว้นต์ รับช่วงไฮซีซั่นค้าปลีก 4 เดือนสุดท้ายก่อนจบปี 2568

เริ่มเดือนกันยายนนี้ ด้วยแคมเปญช้อปวันเลขเบิ้ล ที่เป็นหนึ่งในโปรโมชันที่นักช้อปไทยให้ความสนใจในทุกครั้ง จัดต่อเนื่องมาถึงครั้งนี้ กับ “CENTRAL 9.9 SALE” ที่ตั้งใจจัดให้ลูกค้าพร้อมสร้างความสนุกให้กับวงการค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ ซึ่งสิ่งที่เราแตกต่างจากที่อื่นคือ ระบบ Omnichannel Ecosystem และการวางจุดยืนในการทำการตลาดบนโลกออนไลน์เป็น No.1 Omnichannel Retailer in Premium Segment อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทุกกลุ่มช้อปง่ายๆ ผ่านแพลตฟอร์มที่ลูกค้าสะดวก และจากข้อมูลเราพบว่าห้างเซ็นทรัลมีลูกค้าที่เป็น Omni Customer (ลูกค้าที่ช้อปผ่านหลายช่องทาง มากกว่าหนึ่งแพลตฟอร์ม) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มนี้มียอดช้อปสูงกว่าลูกค้าปกติถึง 3 เท่า”

นางสาวรวิศรา กล่าวเสริมว่า “นอกจากลูกค้า Loyalty ที่เราอยากขอบคุณในความไว้วางใจที่มีให้กันมาอย่างยาวนาน ห้างเซ็นทรัลยังคงมุ่งขยายฐานลูกค้าใหม่เพื่อสร้างโอกาสเติบโตให้กับธุรกิจ ทำการตลาดใหม่ๆ เพื่อสื่อสารกับลูกค้าทั้งสื่อใน – นอกห้าง รวมถึงเหล่า KOL, KOC และอินฟลูเอนเซอร์ ที่ช่วยนำเสนอคอนเทนต์ ไอเดียช้อปสนุก ๆ สร้างบรรยากาศการช้อปปิ้งให้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น รวมถึงยังได้ร่วมกับ Meta นำโซลูชัน Omnichannel Ads มาปรับใช้แคมเปญนี้ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างให้เราเข้าถึงลูกค้าได้แม่นยำมากขึ้น”

ห้างเซ็นทรัล ชิงกำลังซื้อไตรมาส 3 ปี 68 คาดยอดช้อปพุ่ง 3 เท่า

 ห้างเซ็นทรัล และ Central App ชู 4 จุดแข็ง ที่ออกแบบเพื่อตอบโจทย์นักช้อป ได้แก่

• BRAND VARIETY จัดเต็ม! แบรนด์ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ หมุนเวียนจัด Flash Deal สุดเอ็กซ์คลูซีฟการันตีสินค้าแท้ตรงปกจากห้างเซ็นทรัล อาทิ DIOR, M.A.C., YSL, TOM FORD, VIVIENNE  WESTWOOD, KENZO, ADIDAS, PUMA, NIKE, GARMIN, TEFAL, CENTRAL HOME เป็นต้น

• CREATIVITY คือหนึ่งในกิมมิกที่ดึงดูดลูกค้าให้สนใจในแคมเปญ ซึ่งพลังความสร้างสรรค์ของแคมเปญที่ไม่ใช่แค่ลดราคาแต่ต้องสร้างความสนุกและการมีส่วนร่วมในการช้อปปิ้ง ในคอนเซ็ปต์ “ดีลดี ไม่พึ่งดวง - BEST DEALS REQUIRE NO LUCK” ช่วยให้เกิดการพูดถึงในวงกว้าง • THE BEST SERVICE สะดวกทุกการช้อปปิ้ง ด้วยบริการเหนือระดับที่ใส่ใจทุกรายละเอียด เช่น บริการห่อของขวัญชิ้นพิเศษ พร้อมส่งไวทันใจ ผ่าน Grab Express หรือบริการ Click & Collect

• SEAMLESS EXPERIENCE รองรับทุกไลฟ์สไตล์การช้อปปิ้ง ด้วยกลยุทธ์ออมนิชาแนลที่เชื่อมต่อทุกแพลตฟอร์มอย่างไร้รอยต่อ ทั้งห้างเซ็นทรัล 29 สาขา

ห้างเซ็นทรัล ชิงกำลังซื้อไตรมาส 3 ปี 68 คาดยอดช้อปพุ่ง 3 เท่า

แคมเปญ “CENTRAL 9.9 SALE 2025” สะท้อนการทำการตลาดเต็มรูปแบบ ผ่านการสื่อสารกับลูกค้าทุกช่องทาง ผสานกับกิจกรรมส่งเสริมการขาย โปรโมชันแรง การสื่อสารแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มอย่างครบวงจร เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ การดำเนินกลยุทธ์ครั้งนี้จึงไม่เพียงกระตุ้นกำลังซื้อและสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งไร้รอยต่อ

แต่ยังตอกย้ำบทบาทของห้างเซ็นทรัล ในฐานะ“ต้นแบบห้างค้าปลีกแห่งวงการรีเทล” ที่ยกระดับประสิทธิภาพงานด้านการตลาดและการปรับกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำ เช่น การนำนวัตกรรม Omnichannel Ads จาก Meta มาประยุกต์ใช้กับการติดตามผลจาก Multi-channel Tracking สู่ Omni-channel Tracking ส่งผลให้ธุรกิจเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ทั้งยอดขายที่เพิ่มขึ้น การบริหารงบประมาณที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ การสร้างเสริมความสัมพันธ์ระยะยาว (Lifetime Value) กับลูกค้าอย่างยั่งยืน