สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย วาง 5 โจทย์ใหญ่ "วิทัย รัตนากร" แก้หนี้-หนุน SME สู่ความเป็นธรรม

23 ก.ค. 2568 | 09:39 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2568 | 09:45 น.

เสียงสะท้อนจาก “แสงชัย ธีรกุลวาณิช” ประธานยุทธศาสตร์ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ให้การบ้าน "วิทัย รัตนากร" ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ มุ่งเน้นการสร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงสินเชื่อ การแก้ไขปัญหาหนี้เรื้อรัง และการกำกับดูแลสถาบันการเงิน เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจฐานรากและประเทศชาติอย่างยั่งยืน

"วิทัย รัตนากร" ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่ กับความคาดหวังจากภาคประชาชนและ SME ตามที่กระทรวงการคลังได้เสนอชื่อ นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบเป็นที่เรียบร้อย โดยนายวิทัยจะเข้ารับตำแหน่งต่อจาก ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ซึ่งจะครบวาระในวันที่ 30 กันยายน 2568 นี้

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย วาง 5 โจทย์ใหญ่ "วิทัย รัตนากร" แก้หนี้-หนุน SME สู่ความเป็นธรรม

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานยุทธศาสตร์ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ได้เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความคาดหวังของประชาชนและผู้ประกอบการ SME ทั่วประเทศต่อผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่ โดยเน้นย้ำว่า นโยบายการกำกับดูแลเสถียรภาพทางการเงินและสถาบันการเงินต่างๆ ของ ธปท. ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการทุกขนาด แรงงาน เกษตรกร และประชาชนทั่วไป

นายแสงชัยย้ำว่า ธปท. ควรเป็น "แบงก์ชาติของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน" โดยคำนึงถึงความทุกข์ยากของประชาชนและ SME ที่มักไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเข้าถึงสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ย และการค้ำประกันสินเชื่อ ซึ่งต้องไม่มุ่งอุดหนุนความมั่งคั่งของสถาบันการเงิน แต่ต้องมุ่งเพิ่มโอกาสให้ประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเข้าถึงสินเชื่อที่เป็นธรรม เพื่อก้าวข้ามกับดักความยากจน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย วาง 5 โจทย์ใหญ่ "วิทัย รัตนากร" แก้หนี้-หนุน SME สู่ความเป็นธรรม

นอกจากนี้ การสร้างความเป็นธรรมที่เป็นรูปธรรม ควบคู่กับการมีธรรมาภิบาลที่อภิบาลเศรษฐกิจ สังคม และประเทศอย่างมีคุณธรรม นิติธรรม ศีลธรรม โดยเน้นความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ถือเป็นความรับผิดชอบต่อผลประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนและประเทศชาติ เพื่อทลายกับดักหนี้ท่วมขังเรื้อรังให้กับ "ประชาชนเปราะบาง" และพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศร่วมกับทุกภาคส่วน

5 ประเด็นสำคัญที่สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยคาดหวังจากผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่

1.  "นิยาม SME" ที่ชัดเจนและเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน เรียกร้องให้มีการกำหนดนิยาม SME ที่ชัดเจนและเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้สามารถจัดเก็บ รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้วางยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ กรอบทิศทางการบริหารจัดการนโยบายเศรษฐกิจทั้งมหภาคและจุลภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการกำกับและส่งเสริม SME ให้เข้าถึงนวัตกรรมและแหล่งทุนต้นทุนต่ำอย่างเป็นระบบ

2.  "กับดักหนี้เรื้อรัง" และกลไกแก้หนี้ที่เป็นธรรม ชี้ถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนและหนี้ SME ที่อยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ (จากการสำรวจของ สสว. ไตรมาส 1/2568 พบว่า SME มีหนี้นอกระบบถึง 32%) คาดหวังกลไกการแก้หนี้แบบมีเจ้าภาพ การเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้อย่างเป็นธรรม ควบคู่กับการฟื้นฟูพัฒนา SME อย่างเป็นระบบ เพื่อยกระดับคุณภาพหนี้ครัวเรือน แก้ไขหนี้เสีย และขจัดหนี้นอกระบบ

3. "การกำกับสถาบันการเงิน" ให้โปร่งใสและเป็นธรรม เน้นย้ำเรื่องอัตราส่วนต่างดอกเบี้ยเงินฝากและดอกเบี้ยเงินกู้ (Spread) ที่เป็นธรรม การบังคับใช้ ป.พ.พ. มาตรา 224/1 เรื่องดอกเบี้ยปรับ การเยียวยาและรับผิดชอบลูกหนี้ที่มีการคิดดอกเบี้ยปรับผิดกฎหมาย การไม่ปฏิบัติตาม Market Conduct รวมถึงการบังคับทำประกันเพื่อพิจารณาสินเชื่อ และการกำกับค่าเงินบาทที่เหมาะสม

4. "ธรรมาภิบาลประชาชน" และระบบตรวจสอบ ธปท. เรียกร้องความโปร่งใสของระบบการปฏิบัติงานของ ธปท. ที่แม้จะเป็นอิสระและเป็นกลาง แต่ต้องไม่ปราศจากระบบการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและ SME ว่าปราศจากผลประโยชน์แอบแฝงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย การคิดดอกเบี้ย/ดอกเบี้ยปรับ รวมถึงประเด็นการใช้ บสย. ค้ำประกันแต่คิดดอกเบี้ยสูง และค่าธรรมเนียมที่ไม่เป็นธรรม

5. "เข้าถึง เข้าใจ และพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเชิงรุกด้วยนวัตกรรมทางการเงิน ต้องการให้ ธปท. รับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนและ SME อย่างรอบด้าน ไม่จำกัดเพียงบางกลุ่ม ทำงานเชิงรุกลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างจริงจัง เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ พร้อมส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงิน เช่น Factoring – Supply Chain Program เพื่อลดปัญหา Credit term และเพิ่มสภาพคล่องให้กลุ่ม Start up, SME รวมถึงกลุ่มที่ติด NPL การปรับโครงสร้างหนี้ และสินเชื่อเพื่อการ Refinance

ทั้งนี้นายแสงชัยแสดงความยินดีกับผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่ และเชื่อมั่นว่าจะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ในการคืนความเป็นธรรมและเพิ่มคุณค่าทางเศรษฐกิจใหม่ให้กับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน โดยเชื่อว่าบุคลากรของ ธปท. มีความรู้ความสามารถและความตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติ ประชาชน และ SME และหาก "แบงก์ชาติธรรมาภิบาลเข้มแข็ง ผู้บริหารแข็งแรง จะกังวลใจอะไรกับผู้นำท่านเดียวที่มาอย่างถูกต้องตามกระบวนการ"