CHAYO มองบวก "วิทัย" ผู้ว่าแบงก์ชาติ เบาหนี้ประชาชน-กู้ดอกเบี้ยถูก

นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO เปิดมุมมองต่อผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ "นายวิทัย รัตนากร" ว่า มองจะเป็นผลดีต่อประชาชน เทียบจากผลงานในช่วงที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน นายวิทัยมีการออกโครงการที่เป็นการช่วยเหลือโดยเฉพาะรายย่อย

โดยนโยบายที่มุ่งเน้นคือเรื่องของสินเชื่อ ทั้งเพิ่มโอกาสให้รายย่อยสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย และได้อัตราดอกเบี้ยในระดับที่ไม่สูง รวมถึงพยายามช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนช่วยเหลือประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าการเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ แบงก์ชาติในครั้งนี้จะเดินหน้าสานต่อโครงการเหล่านี้ต่อ

"ต้องยอมรับว่าด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาแบบนี้ กำลังใช้จ่ายของประชาชนก็ลดลงไปด้วย และมีแนวโน้มว่าหนี้ครัวเรือนจะขยับเพิ่มมากขึ้น การมาของวิทัย ก็เชื่อได้ว่ามีโอกาสเห็นการเดินหน้าใช้เครื่องมือนโยบายการเงินมาช่วยเหลือประชาชนต่อ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี"

คัดหนี้ใหม่เข้าพอร์ต

ภาพรวมหนี้เสียในระบบในช่วงครึ่งหลังปี 68 นี้ ด้วยแนวคิดของภาครัฐในการตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เพื่อซื้อหนี้เสียออกจากระบบ โดยเฉพาะหนี้อุปโภคบริโภคของลูกหนี้รายย่อย ทำให้การอุ้มหนี้ครั้งนี้จะทำให้หนี้เสียที่จะทยอยออกมาประมูลในช่วงที่เหลือของปีนี้มีปริมาณลดลงจากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน

ทั้งนี้ ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน CHAYO ได้ปรับแผนการลงทุนในช่วงที่เหลือของปี 68 ใหม่ โดยอาจเลือกซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ (หนี้เสีย : NPL) ในแบบอนุรักษ์นิยมเพิ่มมากขึ้น ทำให้คาดว่าเฉลี่ยทั้งปีจะซื้อหนี้มูลค่ารวมทั้งปีประมาณ 3,000 - 4,000 ล้านบาท

จากเป้าหมายทั้งปี 68 นี้ที่วางไว้กว่า 10,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทได้มีการรับซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาเพิ่มแล้วมูลค่าประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ไม่มีหลักประกันทั้งหมด ผ่านการใช้เงินลงทุนราว 100 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังมีเงินลงทุนเหลือในมืออีกกว่าหลักพันล้านบาท

"โดยในการซื้อหนี้มากว่าจะสิ้นสุดกระบวนการต่างๆ ต้องใช้ระยะเวลาเกือบ 6 เดือน ถึงจะดำเนินการเก็บชำระจากลูกค้าได้ อีกทั้งด้วยการเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือประชาชนทำให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้า ดังนั้นการเรียกชำระหนี้อาจทำได้ไม่สูงนักเมื่อเทียบกับช่วงปกติ"

อย่างไรก็ตาม การปรับแผนธุรกิจของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องไปตามสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา สิ่งที่มุ่งเน้นนอกจากการบริหารการเงินของบริษัทแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าร่วมด้วย ต้องไม่เพิ่มภาระให้ลูกค้า และทำให้เขาสามารถยืนหยัดกลับขึ้นมาได้