นายเพชร หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด ผู้ผลิต “น้ำมันพืชกุ๊ก” เปิดเผยว่า ผลประกอบการครึ่งปีแรกของบริษัทและกลุ่มพูลผลโดยรวมถือว่าดีเกินเป้าหมาย แม้ในครึ่งปีหลังจะยังมีความผันผวนจากหลายปัจจัย
แต่ภาพรวมขณะนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ดี และทุกบริษัทในกลุ่มมีผลประกอบการที่ดีการเติบโตส่วนหนึ่งมาจากการเร่งสต็อกสินค้าของลูกค้าหลายรายที่กังวลเรื่องสงครามการค้าและภาษีนำเข้าโดยเฉพาะลูกค้าส่งออกที่ต้องการซื้อสินค้าเข้าคลังในช่วงที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าภาษีจะถูกปรับขึ้นหรือไม่
ซึ่งลูกค้าบางส่วนรีบสั่งซื้อเพื่อลดความเสี่ยงจากภาษีนำเข้าที่อาจสูงถึง 25-30% หรือมากกว่านั้น แม้จะยังไม่มีความแน่นอนในรายละเอียดภาษี และนโยบายสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศอื่น ๆ อาจไม่ได้เป็นเส้นตรงหรือเท่ากันทุกบริษัท
สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดในปีนี้ ล่าสุดบริษัทเปิดตัว Friend of COOK “ต้าห์อู๋ พิทยา แซ่ฉั่ว” และ “ออฟโรด กันตภณ จินดาทวีผล” สองหนุ่มสุดฮอต มาเป็นตัวแทนในเรื่องสื่อสารเรื่องราวของน้ำมันพืชกุ๊ก เพื่อขยายฐานสู่คนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “สุขฟินได้ทุกวัน” ซึ่งเป็นแคมเปญหลักที่จะใช้สื่อสารกับผู้บริโภคตลอดปีนี้
การเปิดตัวกลยุทธ์ Friend of COOK ผ่าน 2 หนุ่มฮอต เพราะคาแรคเตอร์ของทั้งคู่ ที่กล้า “ฟิน” กล้า “ลอง” ไม่กลัวที่จะลองอะไรสนุกๆ เช่นเดียวกับที่น้ำมันพืชกุ๊กที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายทั้งน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน และน้ำมันคาโนลา ที่สามารถเลือกใช้ได้ทั้ง เมนูทอด ผัด
รวมถึง deep fried จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของกุ๊กให้มีความทันสมัย พร้อมขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญทั้งคู่ยังเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่สนใจการทำอาหาร มีภาพลักษณ์สดใส ร่าเริง และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสอดคล้องกับ DNA ของน้ำมันพืชกุ๊ก ที่มีการพัฒนาคุณภาพสินค้าเพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภคอยู่เสมอ จะช่วยตอกย้ำคีย์เมสเสจหลักว่าการปรุงอาหารด้วยน้ำมันพืชกุ๊ก คือ “ความสุขที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน”
หลังจากการเปิดตัว Friend of COOK ต้าห์อู๋ และ ออฟโรด ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของแบรนด์น้ำมันพืชกุ๊ก ทั้ง Facebook และ IG COOK Healthy Family พบว่า ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับของทั้งคู่ ที่ให้การตอบรับด้วยการทวีตบนแอปพลิเคชัน X ถึง 100,000 ครั้งภายใน 1 วัน
จากนี้บริษัทได้เตรียมกิจกรรมดีๆ อีกมาก เพื่อร่วมสนุกกับกลุ่มแฟนคลับและผู้บริโภคทั่วไป
ทั้งนี้ทั้งคู่ถือเป็นตัวแทนไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการกิน การเที่ยว และการใช้โซเชียลมีเดียได้เป็นอย่างดี
ทำให้กลุ่มแฟนคลับรู้สึกว่าน้ำมันพืชกุ๊ก เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตจริงของพวกเขา ทั้งการทำคอนเทนต์อาหารง่ายๆ ในบ้าน ไปจนถึงเมนูครีเอทีฟที่แชร์กันได้ในโลกออนไลน์ ตอกย้ำให้เห็นว่าการรับประทานอาหารอร่อย อาหารที่ชอบ เป็นความสุขที่เรียบง่าย ช่วยทำให้ผ่อนคลายและมีความสุขได้ ซึ่งน้ำมันพืชกุ๊ก เป็นตัวช่วยในการทำให้อาหารทุกจานให้อร่อย และมีสุขภาพดี
นายเพชร กล่าวอีกว่า สำหรับภาพรวมตลาดน้ำมันพืชถั่วเหลืองบรรจุขวดในประเทศไทย ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 28-30% เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยหลักมาจากราคาที่เหมาะสม และมีการปรับเปลี่ยนคุณภาพสินค้า เช่น น้ำมันแคนโนลา ที่เน้นเรื่องความกรอบเป็นจุดขาย เจาะกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นที่ใช้นำมันในการทำอาหาร
“ตลาดน้ำมันพืชยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหากธุรกิจร้านอาหารซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้หลักได้รับผลกระทบ ก็ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทด้วยเช่นกัน แต่สำหรับบริษัทเราเน้นตลาดอุตสาหกรรมอาหารและการส่งออกเป็นหลัก สินค้าที่ส่งออกไปมีหลากหลาย เช่น น้ำมันในปลาทูน่า น้ำสลัด เป็นต้น
อย่างไรก็ดีโดยรวมในปีนี้ คาดว่าจะมียอดขายใกล้เคียง 5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งมียอดขายประมาณ 4 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตราว 25% โดยการขยายตัวมาจากการเพิ่มกำลังการผลิต และความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งในตลาดภายในประเทศและตลาดส่งออก”
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,104 วันที่ 12 - 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568