ตลาดสุกี้ในประเทศไทยร้อนแรงเกินกว่าที่เคยเป็นมา เมื่อสองแบรนด์ใหญ่ "MK สุกี้" และ "สุกี้ตี๋น้อย" ต่างออกโปรโมชั่นราคาดุเดือดแข่งขันกันในตลาดบุฟเฟต์ โดย MK สุกี้ที่ครองแชมป์ในตลาดมายาวนาน ได้ท้าทายตลาดด้วยโปรโมชั่นใหม่บุฟเฟต์ราคา 299 บาท
ขณะที่คู่แข่งอย่าง "สุกี้ตี๋น้อย" ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ก็ไม่น้อยหน้า เปิดตัวโปรโมชั่นราคาต่ำเพียง 199 บาท ทันที ทำให้การแข่งขันในตลาดสุกี้บุฟเฟต์นี้เต็มไปด้วยความดุเดือด ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้บริโภคเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากการแข่งขันนี้อย่างเต็มที่
ตลาดสุกี้ในเมืองไทยมีมูลค่ามากถึง 23,000 ล้านบาท โดย MK สุกี้จากบริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ยังคงเป็นผู้นำตลาดด้วยการครองส่วนแบ่งถึง 60% ของตลาดสุกี้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังๆ แบรนด์ "สุกี้ตี๋น้อย" ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในด้านบุฟเฟต์ก็เริ่มเป็นคู่แข่งที่ท้าทาย MK อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการนำเสนอราคาเข้าถึงง่ายและการเปิดร้านที่พร้อมให้บริการยาวนาน ซึ่งสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่และผู้ที่มีกำลังซื้อต่ำได้เป็นอย่างดี
ในเดือนมิถุนายน 2568 MK สุกี้เปิดตัวโปรโมชั่นใหม่ "MK Buffet อิ่มไม่อั้น" โดยกำหนดราคาเพียง 299 บาทสำหรับการรับประทานบุฟเฟต์ 90 นาที พร้อมให้เลือกเมนูต่างๆ ถึง 19 รายการ ทั้งเนื้อบริสเก็ตออสเตรเลีย หมูนุ่ม หมูสไลด์ และสาหร่ายทรงเครื่อง
โดยโปรโมชั่นนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 - 30 มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงไม่ค่อยดี และเป็นความพยายามของ MK ที่จะกระตุ้นกำลังซื้อและเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท
แม้ว่าจะเกิดปัญหาการบริการล่าช้าและของบางเมนูหมดในบางสาขา แต่ภาพรวมของการเปิดโปรโมชั่นนี้ยังคงได้รับความสนใจอย่างมากจากลูกค้า และยังสะท้อนถึงความต้องการของตลาดที่ต้องการบุฟเฟต์ที่ราคาไม่สูงเกินไป
ผลจากการเปิดโปรโมชั่น "อิ่มไม่อั้น" ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้า ยอดขายรวมเพิ่มขึ้นถึง 49% ภายในเวลาเพียง 4 วัน โดยเฉพาะสาขาที่มีโปรโมชั่นนี้ มียอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 100% แสดงให้เห็นถึงความนิยมในแบรนด์ MK สุกี้ที่ไม่เพียงแต่รักษามาตรฐานการบริการและคุณภาพ แต่ยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
การเปิดโปรโมชั่นนี้ไม่เพียงแค่เพื่อเพิ่มยอดขาย แต่ยังเป็นสัญญาณว่า MK พร้อมที่จะขยายกลยุทธ์ในตลาดบุฟเฟต์อย่างต่อเนื่อง แบรนด์นี้มั่นใจว่าจะสามารถสร้างความสำเร็จในตลาดบุฟเฟต์ได้ เพราะทั้งคุณภาพและมาตรฐานการบริการที่เหนือกว่า ทำให้ MK สุกี้มีแนวโน้มที่จะขยายผลในรูปแบบบุฟเฟต์ใหม่ๆ ที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
การลดราคาของ "สุกี้ตี๋น้อย" จาก 219 บาทเหลือ 199 บาท ทำให้ตลาดการแข่งขันในส่วนนี้ทวีความร้อนแรงขึ้นอย่างมาก สุกี้ตี๋น้อยใช้กลยุทธ์ราคาที่สามารถดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มที่มีงบประมาณจำกัดได้ดี และกลายเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจในตลาดบุฟเฟต์ราคาประหยัดนี้
การต่อสู้ในตลาดสุกี้ของทั้งสองแบรนด์ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลประโยชน์จากการแข่งขันนี้อย่างเต็มที่ โดยสามารถเลือกรับประทานอาหารในราคาที่คุ้มค่าที่สุด ทั้งในเรื่องของปริมาณและคุณภาพ พร้อมทั้งการขยายตัวของร้านอาหารที่พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ
กรุงเทพและปริมณฑล
ทั้งนี้สามารถตรวจสอบสาขาที่เข้าร่วมรายการและเงื่อนไขในการรับบริการบุฟเฟต์ของเอ็มเค สุกี้ที่นี่