ศึกหนัก MK GROUP ปรับทัพธุรกิจปี 2568 ผุดโมเดลใหม่ รับมือเศรษฐกิจ

13 พ.ค. 2568 | 09:00 น.
อัปเดตล่าสุด :13 พ.ค. 2568 | 09:25 น.

MK GROUP ผู้นำตลาดสุกี้เบอร์หนึ่งของไทย ประกาศแผนธุรกิจปี 2568 เน้นกลยุทธ์ "Value Strategy" ปรับโมเดลแบรนด์ในเครือ เสริมทัพธุรกิจค้าปลีกและโลจิสติกส์ ตั้งเป้าขยายสาขาในประเทศและต่างประเทศต่อเนื่อง

บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MK GROUP ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดสุกี้ในประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 60% จากมูลค่ารวมกว่า 2.3-2.5 หมื่นล้านบาท ประกาศเดินหน้ากลยุทธ์หลักในปี 2568 คือ "Value Strategy" มุ่งเน้นการสร้างความคุ้มค่าและส่งมอบประสบการณ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างรอบด้าน พร้อมปรับโมเดลธุรกิจในเครือ เสริมทัพด้วยแบรนด์ใหม่ และขยายสู่ธุรกิจที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อกระตุ้นความสนใจและสร้าง Engagement กับลูกค้าทั้งกลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่

นางสาวทานตะวัน ธีระโกเมน กรรมการผู้จัดการใหญ่ MK GROUP กล่าวว่า ตลอด 39 ปีที่ผ่านมา MK GROUP มุ่งมั่นเติมเต็มความสุขและส่งมอบสุขภาพที่ดีให้กับทุกครอบครัว ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

ศึกหนัก MK GROUP ปรับทัพธุรกิจปี 2568 ผุดโมเดลใหม่ รับมือเศรษฐกิจ

ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในปีนี้ แม้ภาพรวมธุรกิจอาหารในปีนี้จะยังมีความท้าทาย โดยเฉพาะร้านอาหารเชนขนาดใหญ่ แต่ MK GROUP พร้อมปรับตัวและวางแผนกลยุทธ์ที่ท้าทายยิ่งขึ้น

เจาะลึก 3 แนวทางหลักภายใต้ "Value Strategy"

  • Value Creation: สร้างความคุ้มค่าและประสบการณ์ใหม่ที่ตรงใจลูกค้า ผ่านการศึกษา Customer Insight อย่างลึกซึ้ง
  • Value Relationship: สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า ผ่านการทำ Segmentation การตลาดที่แม่นยำ การพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
  • Value Accessible: ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงความคุ้มค่าและคุณภาพของสินค้าและบริการได้ง่ายยิ่งขึ้น

ศึกหนัก MK GROUP ปรับทัพธุรกิจปี 2568 ผุดโมเดลใหม่ รับมือเศรษฐกิจ

ปรับทัพแบรนด์ดัง สร้างความคึกคัก

MK GROUP เตรียมสร้างความคึกคักให้กับแบรนด์ในเครืออย่างต่อเนื่อง อาทิ "MK Restaurants" ที่เตรียมออกแคมเปญใหม่ๆ หลังประสบความสำเร็จกับแคมเปญ "มงคล มูเก็ตติ้ง" ในช่วงตรุษจีน "Yayoi" เปิดตัวพรีเซนเตอร์ใหม่ "เจฟ ซาเตอร์" พร้อมเมนูพิเศษและเซตเทโชกุใหม่ๆ ตลอดปี

"แหลมเจริญซีฟู้ด" คงคอนเซ็ปต์อาหารทะเลสไตล์ไทย พร้อมโปรโมชั่น Family Set สุดคุ้ม "MK Buffet" เตรียมปรับราคาให้เข้าถึงง่ายขึ้นและเพิ่มเมนูใหม่ตอบโจทย์คนรักบุฟเฟต์ และ "HIKINIKU TO COME" ร้านแฮมเบิร์กสไตล์ญี่ปุ่นน้องใหม่ที่เน้นคุณภาพและราคาที่เข้าถึงได้

 

รุกธุรกิจค้าปลีก ขยายช่องทางหลากหลาย

ในส่วนของธุรกิจค้าปลีก MK GROUP ยังคงเดินหน้าสร้าง Brand Recall ผ่านผลิตภัณฑ์น้ำจิ้มสุกี้ และชุดสุกี้ต่างๆ รวมถึงล่าสุดกับบะหมี่เกี๊ยวกุ้งซุปสุกี้ CP x MK พร้อมเตรียมออกน้ำจิ้มรสชาติใหม่ และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายจากร้านสะดวกซื้อไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้กว้างขวางยิ่งขึ้น

MK GROUP ให้ความสำคัญกับการสร้าง Value Relationship อย่างแข็งแกร่ง ผ่านการทำ Segmentation การตลาดเชิงลึก (Data Personalization) โดยจะมีการเชื่อมต่อทุกแบรนด์ในเครือภายใต้ Group Member เป็นครั้งแรก พร้อมพัฒนาระบบ CEM (Customer Experience Management) เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดและสิทธิพิเศษที่ตรงใจลูกค้าในทุก Customer Journey รวมถึงการปรับกลยุทธ์การตลาดให้เข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว (Tourist Adaptation) และการทำตลาดระดับท้องถิ่น (Local Store Marketing)

ศึกหนัก MK GROUP ปรับทัพธุรกิจปี 2568 ผุดโมเดลใหม่ รับมือเศรษฐกิจ

ขยายสาขา ต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์

นายธีร์ ธีระโกเมน กรรมการผู้จัดการใหญ่ MK GROUP กล่าวว่า บริษัทฯ วางแผนขยายสาขาในประเทศเพิ่มอีก 15 สาขา แบ่งเป็น MK Restaurants 5 สาขา, Yayoi 3 สาขา, แหลมเจริญ 5 สาขา และ HIKINIKU TO COME 2 สาขา รวมถึงขยายสาขาแฟรนไชส์ในต่างประเทศ โดยแหลมเจริญมีแผนเปิดเพิ่ม 2 สาขาในมาเลเซีย และมองหาผู้ลงทุน Master Franchise ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากนี้ MK GROUP ยังมีแผนปรับโมเดลธุรกิจ โดยจะมีการปรับร้าน MK Restaurants บางสาขาเป็น MK Buffet และปรับโมเดลแหลมเจริญให้ทันสมัยและเข้าถึงง่ายขึ้น พร้อมให้ความสำคัญกับการใช้ AI ในการบริหารจัดการหลังบ้าน เพื่อลด Food Waste ควบคุมต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพ

อีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตาคือ M-SENKO ธุรกิจโลจิสติกส์ของ MK GROUP ที่ให้บริการคลังสินค้าและขนส่งสินค้าแช่เย็นแช่แข็ง มีแผนเพิ่มศักยภาพการให้บริการด้วยการเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าตามหัวเมืองหลัก ขยายบริการนำเข้าวัตถุดิบ (Importer) และตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Forwarding)

นางสาวทานตะวัน ธีระโกเมน กล่าวเพิ่มเติมว่า MK GROUP ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนในบริษัทและสินทรัพย์ที่น่าสนใจ เพื่อเติมเต็ม Portfolio ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคและแนวคิดธุรกิจที่สอดคล้องกัน นอกจากนี้ บริษัทยังยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนด้านสุขภาพ และตั้งเป้าลด Food Waste และลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์