ในยุคที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อม ทั้งภาวะโลกร้อน การลดลงของพื้นที่ป่า และปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่ทวีความรุนแรง “มีวนา” (MiVana) แบรนด์กาแฟอินทรีย์รักษาป่า ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท มีวนา จำกัด ในเครือกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ กำลังสร้างจุดเปลี่ยนให้กับสังคมไทย ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ “มีวนา ปลูกมาจนโต... MiVana Living Together, Growing Together” โดยแคมเปญไม่ได้หยุดแค่เรื่องกาแฟ แต่มุ่งสู่การคืนชีวิตให้ผืนป่า และคืนสมดุลให้ชุมชน ผ่านพลังของผู้บริโภคกาแฟทุกแก้ว
สำหรับแคมเปญนี้เปิดให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมง่าย ๆ เพียงดื่มกาแฟอินทรีย์รักษาป่ามีวนาทุก ๆ 7 แก้ว เท่ากับร่วมปลูกต้นไม้ 1 ต้น ในพื้นที่ป่าต้นน้ำจังหวัดเชียงราย มีเป้าหมายในการปลูก ต้นกาแฟและไม้ยืนต้นรวมกว่า 10,000 ต้น ภายในสิ้นปี 2568 โดยสามารถเข้าร่วมได้ที่ร้านมีวนาทั้ง 3 สาขา ได้แก่ มีวนา แฟล็กชิพสโตร์ (ซอยศรีนครินทร์ 57 ข้างพาราไดซ์ พาร์ค)มีวนา บ้านสาทร (ซอยนราธิวาสฯ 7) มีวนา สนามบินดอนเมือง (เทอร์มินอล 1 ชั้น 3 ตรงข้าม Gate 1-7)
ทั้งนี้เมื่อยอดสะสมต้นกล้าแตะครบทุก ๆ 1,000 ต้น จะมีการมอบ ส่วนลด 15% สำหรับเมนูกาแฟในวันถัดไป ให้ลูกค้าที่ร่วมแคมเปญ (ยกเว้นสาขาสนามบินดอนเมือง)
โครงการกาแฟอินทรีย์รักษาป่า “มีวนา” เกิดจากการพัฒนาแนวคิด “Organic Shade Grown Forest Coffee” หรือกาแฟอินทรีย์ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ โดยเน้นการ อยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคน ป่า และกาแฟ
ตลอดระยะเวลากว่า 13 ปีที่ผ่านมา มีวนาทำงานร่วมกับ เกษตรกรใน 7 หมู่บ้านของเชียงราย ได้แก่ บ้านขุนลาว, บ้านห้วยไคร้, บ้านห้วยคุณพระ, บ้านดอยช้าง, บ้านใหม่พัฒนา, บ้านผาแดงหลวง และบ้านร่มเย็น ครอบคลุมพื้นที่ต้นน้ำแม่ลาว แม่สรวย และแม่กรณ์
นางสาวดรรชนี คุณาวิชยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีวนา จำกัด กล่าวว่า การทำธุรกิจที่ยั่งยืน ต้องเริ่มจากการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนต้นน้ำ แคมเปญนี้คือการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ผืนป่า และสามารถปลูกป่าได้ทุกวัน ผ่านการดื่มกาแฟ
ปัจจุบัน มีวนา มีพื้นที่ป่ากาแฟทั้งสิ้น 6,531 ไร่ และมีต้นกาแฟทั้งหมด 1.6 ล้านต้น โดยสมาชิกเกษตรกร มีวนา จะปลูกกาแฟด้วยวิถีวนเกษตรอินทรีย์ ควบคู่ไปกับการปลูกไม้ยืนต้นให้ร่มเงา และไม้เศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ ความหลากหลายทางชีวภาพ ให้ระบบนิเวศกลับมามีความสมดุลอีกครั้ง ที่สำคัญจะช่วยส่งผลในการลดปัญหาการเกิดไฟป่าและ ฝุ่น PM 2.5 และยังช่วยลดปัญหาน้ำท่วมจากน้ำป่าไหลหลาก เพราะมีต้นไม้ช่วยดูดซับน้ำไว้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเกษตรกรในพื้นที่ช่วยกันดูแลป่าต้นน้ำนี้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายส่งเสริมของมีวนา
หลังจากพัฒนาโครงการร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว มีวนาได้ร่วมมือกับสำนักพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (BEDO) เพื่อประเมินมูลค่าระบบนิเวศในพื้นที่ ซึ่งมีมูลค่ารวมถึง 555.47 ล้านบาท/ปี สะท้อนให้เห็นถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงและอ้อม
จากการดำเนินโครงการนี้ จึงทำให้มีวนามีจุดยืนที่แตกต่างและชัดเจนในการเป็นแบรนด์กาแฟอินทรีย์รักษาป่า ที่ยังคงเดินหน้าปกป้องและฟื้นฟูผืนป่าต้นน้ำร่วมกับเกษตรกร 7 หมู่บ้าน เพื่อสร้างระบบนิเวศให้ คน สัตว์และป่า อยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล เติบโตแบบยั่งยืน และมีความสุขไปด้วยกัน