ดีป้า ยกระดับเกษตรกรไทยด้วยดิจิทัล ผ่านโครงการ OTOD Smart Living

21 พ.ค. 2568 | 09:59 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ค. 2568 | 12:01 น.

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เดินหน้าโครงการ OTOD Smart Living 1 ตำบล 1 ดิจิทัล ยกระดับทักษะด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแก่กลุ่มชุมชนและเกษตรกร 900 ครัวเรือนทั่วประเทศ

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2566 ดีป้าได้ดำเนินโครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (One Tambon One Digital: OTOD) มาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งส่งเสริมให้กลุ่มชุมชนและเกษตรก รสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ยกระดับกระบวนการผลิต เริ่มจากการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีโดรนเพื่อการเกษตร ต่อเนื่องด้วยแพลตฟอร์มเพื่อการเพาะปลูกสำหรับพืชมูลค่าสูงอย่างทุเรียน 

ดีป้า ยกระดับเกษตรกรไทยด้วยดิจิทัล ผ่านโครงการ OTOD Smart Living

ทั้งนี้ เล็งเห็นว่าภาคเกษตรกรรม ยังคงมีบทบาทอย่างมากกับระบบเศรษฐกิจของประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน ประชากรไทยกว่า 50% หรือกว่า 30 ล้านคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมการเกษตรต้องเผชิญกับปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง อุทกภัย ต้นทุนการผลิตที่สูง ราคาผลผลิตที่ผันผวน โดยกลุ่มชุมชนและเกษตรกรไม่ได้รับส่งเสริมสนับสนุนด้านดิจิทัลที่เหมาะสม จนไม่สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี

ด้วยเหตุนี้ ดีป้าจึงได้ดำเนินโครงการ OTOD Smart Living ยกระดับทักษะด้านดิจิทัลแก่กลุ่มชุมชนและเกษตรกรทั่วประเทศ ผ่านการส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเข้าใจและเกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็น กล้องวงจรปิดพลังงานแสงอาทิตย์ ไฟส่องสว่างอัจฉริยะพลังงานแสงอาทิตย์ แทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ โดรนเพื่อการเกษตร เทคโนโลยี IoT การเกษตรอัจฉริยะ และแพลตฟอร์มคาร์บอนด้านการเกษตร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภาคเกษตรกรรม 

นำกลไกการพัฒนาเมืองอัจฉริยะมาปรับใช้ในชุมชนเกษตร ซึ่งถือเป็นกลุ่มประชากรขนาดใหญ่ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างทั่วถึง โดยโครงการ OTOD Smart Living แบ่งการส่งเสริมและสนับสนุนออกเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วย

ดีป้า ยกระดับเกษตรกรไทยด้วยดิจิทัล ผ่านโครงการ OTOD Smart Living

1) Smart Living ระยะเวลาการส่งเสริม 1 ปี จำนวน 40 ชุมชน มีพื้นที่เป้าหมายเป็นกลุ่มชุมชนที่อยู่ในจังหวัด ที่มีเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ โดยจะได้รับการสนับสนุน 5 เทคโนโลยี ได้แก่ แทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ กล้องวงจรปิดพลังงานแสงอาทิตย์ ไฟส่องสว่างอัจฉริยะพลังงานแสงอาทิตย์ โดรนเพื่อการเกษตร และ IoT การเกษตรอัจฉริยะ 

2) Smart Living Plus ระยะเวลาการส่งเสริม 1 ปี จำนวน 5 ชุมชน มีพื้นที่เป้าหมายเป็นกลุ่มชุมชนที่อยู่ในจังหวัดที่มีเมืองอัจฉริยะ โดยจะได้รับการสนับสนุน 6 เทคโนโลยี ได้แก่ แพลตฟอร์มคาร์บอนด้านการเกษตร แทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ กล้องวงจรปิดพลังงานแสงอาทิตย์ ไฟส่องสว่างอัจฉริยะพลังงานแสงอาทิตย์ โดรนเพื่อการเกษตร และ IoT การเกษตรอัจฉริยะ

ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า โครงการ OTOD Smart Living ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะสู่ชนบททั่วประเทศ ไม่เพียงแต่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเข้ามายกระดับคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย และการเกษตรของชุมชน แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้อย่างเข้าใจ 

ดีป้า ยกระดับเกษตรกรไทยด้วยดิจิทัล ผ่านโครงการ OTOD Smart Living

"ดีป้าตั้งเป้าว่า OTOD Smart Living จะช่วยยกระดับความรู้และทักษะด้านดิจิทัลแก่ประชาชนไม่น้อยกว่า 2,700 คนจาก 900 ครัวเรือนทั่วประเทศ และสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 170 ล้านบาท ซึ่งพลังของชุมชนและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญเพื่อนำไปสู่เป้าหมายเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ และเศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน"