ไฮเออร์ ชูรายได้ไตรมาสแรก 4 แสนล้าน โต 10% รับขยายสินค้ากลุ่มพรีเมียม

17 พ.ค. 2568 | 05:03 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ค. 2568 | 06:02 น.

ไฮเออร์ ชูรายได้ไตรมาสแรก 4 แสนล้าน โต 10.1% รับดันขยายสินค้ากลุ่มพรีเมียม ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ตอบโจทย์ความสะดวกสบายผู้บริโภค

บริษัท ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม จำกัด ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2568 โดยบริษัทยังคงรักษาระดับการเติบโตจากปี 2567 ได้ดี มีรายได้รวม 79.12 พันล้านหยวน (40.3 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 10.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในส่วนของกำไรสุทธิที่เป็นของบริษัทแม่อยู่ที่ 5.49 พันล้านหยวน (27,999 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 15.1% ขณะที่กำไรสุทธิที่เป็นของบริษัทแม่ไม่รวมรายการพิเศษ5.36 พันล้านหยวน (27,336 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 15.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนกระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 2.28 พันล้านหยวน (11,628 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 15.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ไฮเออร์ ชูรายได้ไตรมาสแรก 4 แสนล้าน โต 10%  รับขยายสินค้ากลุ่มพรีเมียม

ในไตรมาสแรกของปี 2568 อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของจีนยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยได้รับการสนับสนุนจากเงินอุดหนุนของรัฐบาลและนวัตกรรม ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม ได้พัฒนากลยุทธ์ระดับพรีเมียมและการจับคู่ผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับเทรนด์ด้านสุขภาพ ความสะดวกสบาย ประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน และเทคโนโลยีอัจฉริยะ

โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องทำความเย็น มีส่วนแบ่งตลาดออฟไลน์ถึง 64% เพิ่มขึ้น 10 จุดเปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ผลิตภัณฑ์ในรุ่นอัลตร้าพรีเมียม ยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ได้ที่ 85% และในกลุ่มผลิตภัณฑ์กรองน้ำ

ไฮเออร์ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์หลายรายการ รวมถึงเครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้าสองถังที่เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ หม้อต้มแก๊สควบแน่นที่มีฟังก์ชัน OT ปั๊มความร้อนแบบรวม และถังน้ำแบบขดลวด ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายปลีกขึ้น 264% เมื่อเทียบกับปีก่อน

Casarte ยังคงรักษาระดับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมั่นคงด้วยการเพิ่มขึ้นของรายได้ภายในประเทศมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในหมวดเครื่องปรับอากาศ เครื่องปรับอากาศ Casarte Star Pleasure แบบติดผนัง (รุ่น Exclusive) ที่มีเทคโนโลยีปรับสมดุลอุณหภูมิแบบสองทิศทาง

 

มียอดขาย 27,000 เครื่องในไตรมาสแรกของปี 2568 อยู่ในอันดับที่สองในช่วงราคาของประเภทเดียวกัน เครื่องปรับอากาศแบบตั้งพื้นซึ่งมีระบบควบคุมอิสระแบบสองระบบ มียอดขาย 10,000 เครื่องและอยู่ในอันดับแรกในช่วงราคาของประเภทเดียวกัน

พลิกโฉมการใช้ชีวิตด้วย AI สู่ประสบการณ์สมาร์ทไลฟ์สไตล์

ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม ได้เร่งการนำ AI มาใช้เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้บริโภค ในงาน AWE 2025 (Appliance & Electronics World Expo ที่จัดขึ้น ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน) บริษัท ได้เปิดตัวเทคโนโลยี “AI Vision” ซึ่งช่วยให้เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะไม่เพียงแต่ประมวลผลคำสั่งเสียง

แต่ยังสามารถตีความสภาพแวดล้อมด้วยการมองเห็น รวมถึงนำวิสัยทัศน์ของการทำงานบ้านแบบไม่ต้องใช้แรงคนเข้าควบคุมให้เข้าใกล้ความเป็นจริงมากยิ่งขึ้นการผสานการทำงานรวมกับ AI ตามสถานการณ์ของ SAN YI NIAO (ซาน อี้ เหนี่ยว) ยังช่วยให้สภาพแวดล้อม การใช้ชีวิตอัจฉริยะเป็นส่วนตัวมากขึ้น

 รายได้จากตลาดต่างประเทศเติบโต 12.6% 

ในไตรมาสแรกของปี 2568 ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ท้าทาย โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาระดับโลกและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของไฮเออร์ โดยบริษัทได้ขยายตัวได้ในตลาดเกิดใหม่ และยังเดินหน้าพัฒนาความสามารถในการผลิตในท้องถิ่นต่าง ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจในทุกภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ได้แก่

 1.ภูมิภาคอเมริกาเหนือ: รายได้จากแบรนด์ระดับไฮเอนด์เติบโตในระดับเลขสองหลัก ขณะที่รายได้จาก HVAC (การทำความร้อน การระบายอากาศ และการปรับอากาศ) เพิ่มขึ้นสามเท่าเมื่อเทียบกับ  ปีก่อน

2.ทวีปยุโรป: รายได้เพิ่มขึ้น 31.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน (รวมถึง Carrier Refrigeration Benelux B.V.) ซีรีส์เครื่องซักผ้า X11 อยู่ในอันดับที่ 1 ในช่วงราคามากกว่า 1,000 ยูโร ขณะที่ตู้เย็นสามประตู และหลายประตูมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% รักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้

3.ตลาดเกิดใหม่: การเติบโตที่แข็งแกร่งยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ซึ่งแบ่งตามภูมิภาค ได้แก่ เอเชียใต้เติบโตมากกว่า 30% เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า 20% และตะวันออกกลางและแอฟริกามากกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน

 จากดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน สู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่

ในไตรมาสแรกของปี 2568 การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลยังคงเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และความสามารถในการทำกำไรของไฮเออร์ สมาร์ทโฮม โครงการพัฒนาการค้าปลีก รวมถึงการจัดการสินค้าคงคลังดิจิทัลและการตลาดดิจิทัล

ช่วยทำให้การหมุนเวียนสินค้าคงคลัง ประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ และผลตอบแทนจาก การลงทุนด้านการตลาดที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาคือ บริษัทฯ สามารถลดอัตราค่าใช้จ่ายในการขายลงเหลือ 9.6% พัฒนาขึ้น 0.1 จุดเปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อน

ขณะที่อัตราค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลงเหลือ 3.1% เพิ่มขึ้น 0.1 %เมื่อเทียบกับปีก่อน ด้วยการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม ได้เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคและเร่งการร่วมสร้างผลิตภัณฑ์ระหว่างกัน ทำให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมที่รวดเร็วขึ้นโดยยังสามารถส่งมอบโซลูชันอัจฉริยะที่มุ่งเน้นผู้บริโภคเป็นสำคัญได้อีกด้วย