เปิดมุมมองจาก MI GROUP ที่วิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดในปี 2568 ว่าเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม MI GROUP กลับมองเห็น "สัญญาณบวก" ที่เริ่มปรากฏขึ้น พร้อมชี้แนะกลยุทธ์สำคัญให้นักการตลาดและแบรนด์ใช้เป็นเข็มทิศนำทางธุรกิจในภาวะท้าทายนี้
MI GROUP ได้ยก 4 ปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 ที่สะท้อนถึงพลังการฟื้นตัวและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ได้แก่
MI GROUP คาดการณ์ตลาดโฆษณาไทยปี 2568 จะเติบโตเพียง 2.2% มูลค่ารวมประมาณ 87,666 ล้านบาท ปรับลดจากคาดการณ์เดิม +4.5% แม้สื่อดิจิทัลจะยังเติบโตถึง 10% แต่เริ่มมีการแข่งขันสูงจนเกิดภาวะ "สงครามแย่งความสนใจ (Attention War)"
โดยสัดส่วน Media Mix ปี 2568 (ประเมินโดย MI LEARN LAB):
นายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่าบทเรียนสำคัญ นักการตลาดต้องวางแผน "สื่อผสม" อย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่ต่อเนื่องและทรงพลัง การพึ่งพาสื่อดิจิทัลเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป
MI GROUP ชี้ว่า ปีนี้ไม่ใช่เวลาของการยิงโฆษณากว้างๆ หรือจำกัดวงแคบเกินไป แต่ต้อง "เล็งแหลม" ไปยัง 8 กลุ่มเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและการจับจ่ายในหมวดต่างๆ ได้แก่:
แรงงานเกษตร (12 ล้านคน): เข้าถึงเทคโนโลยีและโซเชียลมากขึ้น เป็นกำลังซื้อสำคัญในตลาด FMCG และสินค้าจำเป็น ช่องทางแนะนำ: Facebook, TikTok, สื่อท้องถิ่น, อีเวนต์ชุมชน
แรงงานบริการ (5 ล้านคน): สร้างประสบการณ์บริการในชีวิตประจำวัน เข้าถึงสื่อผ่านมือถือสูง ช่องทางแนะนำ: Facebook, YouTube, สื่อนอกบ้าน, บูธกิจกรรมในแหล่งชุมชน/ที่ทำงาน
Gen Z (13 ล้านคน): Trend Setter ตัวจริง ต้องการการสื่อสารที่สร้างการมีส่วนร่วมและให้คุณค่าความเป็นตัวเอง ช่องทางแนะนำ: TikTok, IG, YouTube, X, Gaming-Discord, สื่อนอกบ้าน
พนักงานบริษัท (18 ล้านคน): ชนชั้นกลาง มีกำลังซื้อ มองหาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เปิดรับข้อมูลเยอะ แต่เลือกเชื่อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ช่องทางแนะนำ: Facebook, TikTok, YouTube, LinkedIn, สื่อนอกบ้าน, Roadshow ทดลองใช้/สมัครบริการ
กลุ่มใกล้เกษียณ/ผู้สูงวัย (18.6 ล้านคน): กลุ่มใหญ่ที่มีทั้งเวลาและกำลังซื้อ ต้องการความมั่นใจในแบรนด์และความคุ้มค่า ช่องทางแนะนำ: Line, TV, YouTube, Facebook, สื่อนอกบ้าน, บูธกิจกรรม (ตรวจสุขภาพ/แจกสินค้าตัวอย่าง)
Micro Sellers (4 ล้านคนขึ้นไป): เจ้าของร้านค้าออนไลน์/ออฟไลน์ ใช้ทุกเครื่องมือสร้างรายได้ แบรนด์ที่สนับสนุนพวกเขาจะได้รับพลังจากปากต่อปาก ช่องทางแนะนำ: Facebook Group, TikTok, ป้ายตลาด/หน้าร้านขายส่ง, อีเวนต์ฝึกอาชีพ/แจกแพ็กเกจเริ่มต้น
แรงงานต่างด้าว (มากกว่า 10 ล้านคน): เป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจ ต้องการสื่อสารผ่านภาษาและช่องทางที่พวกเขาใช้จริง ช่องทางแนะนำ: Facebook ภาษาถิ่น, YouTube, สื่อนอกบ้าน, ป้ายที่พัก/นิคมฯ/โรงงาน, บูธแจกซิม/สินค้าตัวอย่าง
นักท่องเที่ยวต่างชาติ (เป้าหมาย 36-39 ล้านคน): มองหาประสบการณ์ใหม่ สิ่งที่แตกต่าง คุ้มค่า และสร้างความประทับใจ ช่องทางแนะนำ: ป้ายสนามบิน/แหล่งท่องเที่ยว, Travel Platform, รีวิว
นายวิชิต คุณคงคาพันธ์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจตลาดต่างประเทศ (ทีม Bridge) เปิดเผยว่า สิ่งที่น่าจับตาคือแรงงานต่างด้าวกว่า 10 ล้านคน กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดคือพม่ากว่า 4 ล้านคน ถ้าเทียบกับหลายปีก่อนหน้าแรงงานต่างด้าวเข่ามาทำงานเพื่อส่งเงินกลับบ้าน แต่ในปัจจุบันหลายคนเข่ามาทำงานเพื่อมาอยู่ที่ไหนผันตัวจากลูกจ้างมาประกอบธุรกิจและมีการจับจ่ายมากขึ้น
"ปีนี้อาจไม่ใช่ปีทอง แต่ก็ไม่ใช่ปีถอย" การตลาดที่จริงใจและเข้าใจคนอย่างแท้จริง จะสร้างยอดขายและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน ผู้เล่นที่เข้าใจ "คน" ไม่ใช่แค่ "ข้อมูล" ใช้สื่ออย่างแม่นยำ และกล้าวางเกมที่แตกต่าง คือผู้ที่คว้าโอกาสท่ามกลางความไม่แน่นอน นายภวัต กล่าวทิ้งท้าย