'กูลิโกะ' ขยายพอร์ตสินค้าสุขภาพ เสิร์ฟ Pocky Rose ลดโซเดียม

25 เม.ย. 2568 | 09:06 น.
อัปเดตล่าสุด :25 เม.ย. 2568 | 10:40 น.

'กูลิโกะ' ลุย R&D-ESG ขยายพอร์ตสินค้าสุขภาพ เสิร์ฟ Pocky Rose ลดโซเดียม ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ หวังดันยอดขายโต 10%

นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบิสกิตในประเทศไทยปี 2567 มีมูลค่าราว 17,471 ล้านบาท เติบโต 10% ตามข้อมูลจาก Nielsen Full Year โดยกูลิโกะยังคงครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 แม้ว่าจะมีความท้าทายจากเศรษฐกิจและปัจจัยภายนอกต่างๆ

ปัจจัยที่เป็นความกังวลหลักในตลาดบิสกิตคือปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค โดยเฉพาะความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ ซึ่งอาจมีผลต่อการส่งออกและการแข่งขันในตลาดขนม 

นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ

รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบอย่างโกโก้ที่มีราคาสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ราคาของโกโก้ในปีนี้เริ่มดีขึ้น ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ผลิต โดยกูลิโกะมีการนำเข้าจากหลายประเทศในแอฟริกา และยังพิจารณาถึงการนำเข้าโกโก้จากแหล่งในประเทศ เช่น ภาคเหนือที่ผลิตโกโก้จากเกษตรกรรายย่อย แต่ยังคงพบปัญหาเกี่ยวกับการจัดหาวัตถุดิบจากเกษตรกรรายย่อยที่มีจำนวนน้อยไม่เพียงพอ ทำให้ต้องหาหลายเจ้า

นายเฉลิมพงษ์ กล่าวต่อวาการจับจ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาว่า แม้ว่าผู้บริโภคจะระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่ลดลง แต่กลับมีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและสิงคโปร์เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบขนมของประเทศญี่ปุ่น ทำให้กูลิโกะยังสามารถรักษาการเติบโตได้

ในด้านการแข่งขันในตลาดขนม มีผู้เล่นจำนวนมากเข้ามาในตลาด โดยมี 50-60 แบรนด์ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด ทั้งแบรนด์จากอินโดนีเซีย ไทย จีน และมาเลเซีย เป็นต้น ซึ่งทำให้การแข่งขันในตลาดนี้สูงขึ้นอย่างมาก

'กูลิโกะ' ขยายพอร์ตสินค้าสุขภาพ เสิร์ฟ Pocky Rose ลดโซเดียม

ปัจจุบัน กูลิโกะ ขยายตลาดไปยัง 12 ประเทศทั่วโลก โดยได้จำหน่ายสินค้าของตนในหลายประเทศที่สำคัญ เช่น แคนาดา ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา ออสเตรีย รวมถึงหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียน เช่น ไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย การขยายตลาดดังกล่าวทำให้กูลิโกะสามารถเข้าถึงลูกค้าในหลากหลายตลาดทั่วโลก

 

กลยุทธ์ “5 New” กูลิโกะ 

ในวาระครบรอบ 55 ปีในปี 2568 นี้ บริษัทจึงเตรียมเดินหน้าขับเคลื่อนความสุขของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์ “5 New” ประกอบด้วย 

1. New R&D ยึดจุดแกร่งของไทยกูลิโกะในการเป็นศูนย์การวิจัยและพัฒนา (R&D Center) 1 ใน 3 แห่งของกูลิโกะทั่วโลก เดินหน้าวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่โดยยืนบนพื้นฐานความต้องการของผู้บริโภค (Customer-Based R&D) เพื่อให้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละช่วงวัย 

2. New Innovation สร้างนวัตกรรมผ่านสินค้าและการทำการตลาด สร้างความแปลกใหม่และสีสันให้ตลาด ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่อีกราว 8-10 รายการในปีนี้ ผ่านสินค้า 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม Premium Range และกลุ่ม Thai Taste 

 3. New Market ขยายฐานลูกค้าจากกลุ่ม B2C สู่การบุกตลาด B2B มากยิ่งขึ้น ด้วยการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมอัลมอนด์ โคกะรสชาติต่างๆ ไปยังร้านคาเฟ่และคอฟฟี่เชน ที่มีสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องใช้นมอัลมอนด์เป็นส่วนผสม

รวมถึงพิจารณาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ พร้อมทั้งจัด Event Marketing ดึงดารา-เซเลบ จัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับคนรุ่นใหม่ ตอกย้ำจุดยืนของบริษัทที่ใส่ใจสุขภาพด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Health & Wellness) ของผู้บริโภค 

นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ

4. New ESG Drive ขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ของบริษัทด้วยกิจกรรมใหม่ๆ ด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง อาทิ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่โรงงานผลิตหลักของบริษัท คือโรงงานบางกะดี ปริมาณ 2.8 เมกะวัตต์พีก (MWp) ต่อวัน ซึ่งติดตั้งเสร็จสิ้นและเริ่มดำเนินงานเต็มรูปแบบตั้งแต่ ก.พ.ที่ผ่านมา 

5. New Partner & Collaboration เดินหน้าจับมือพันธมิตรใหม่ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อร่วมสร้างประสบการณ์การบริโภคที่แตกต่าง

ที่ผ่านมา ในปี 2568 บริษัทได้ขับเคลื่อนกลยุทธ์ 5 New ไปแล้วหลายด้าน อาทิ การจับมือ Butterbear ทำสินค้าพรีเมียมที่ระลึก การใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภค ทั้งการเพิ่มสารอาหารและลดโซเดียมในผลิตภัณฑ์ขนม การออกผลิตภัณฑ์ Limited Edition อย่าง Pocky Rose

รวมถึงการจัด Event Marketing อย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่วิจัยและพัฒนาเสร็จสิ้นแล้ว เตรียมปล่อยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ Pretz รสแกงเขียวหวานไก่ ซึ่งคาดว่าจะวางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคมนี้

 “ประเทศไทยถือเป็นฐานธุรกิจที่สำคัญของเอซากิ​ กูลิโกะ หรือบริษัทแม่กูลิโกะในญี่ปุ่น ต่อการดำเนินธุรกิจทั่วโลก เราถือเป็นก้าวแรกของบริษัทแม่ในการสร้างธุรกิจระหว่างประเทศ เป็น 1 ใน 3 ประเทศที่มี R&D Center เป็นของตัวเอง รวมถึงเป็นหนึ่งในฐานการผลิตเพื่อส่งออกที่สำคัญ 

เราจึงต้องมีการพัฒนาธุรกิจที่เข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง ในโอกาสครบรอบ 55 ปี เราไม่ได้มองแค่ฐานลูกค้าเดิมที่เป็นกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน แต่เรามองไปถึงตลาดใหม่ๆ ทั้งกลุ่ม Gen Z, Gen Alpha กลุ่มคนรักสุขภาพ ไปจนถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มองผลิตภัณฑ์ของกูลิโกะที่จำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเป็นของฝากชั้นยอด

เราเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ 5 New จะช่วยตอบโจทย์การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมทั้งส่งมอบความสุข สามารถครองใจผู้บริโภคในฐานะแบรนด์ที่ใส่ใจ Health & Wellness อย่างต่อเนื่อง” 

 สำหรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ Overseas ของบริษัท เอซากิ กูลิโกะ (บริษัทแม่กูลิโกะในญี่ปุ่น) ให้ขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย 91,000 ล้านเยน หรือเติบโต 10% เมื่อเทียบกับปี 2567 ส่วนประเทศไทยตั้งเป้าเติบโต 2 หลัก