เจาะลึกความขัดแย้งที่เข้มข้นยิ่งกว่ารสชาติกาแฟ เมื่อสองขั้วอำนาจในตลาดกาแฟไทยมูลค่ามหาศาลอย่าง บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์กาแฟระดับโลก "เนสกาแฟ" และ "ตระกูลมหากิจศิริ" ผู้กุมบังเหียน บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP)
อดีตพันธมิตรผู้ผลิตเนสกาแฟมายาวนานกว่าสามทศวรรษ ได้ก้าวเข้าสู่สมรภูมิพิพาททางกฎหมายอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมิเพียงแต่สั่นคลอนบัลลังก์เจ้าตลาด หากยังฉายภาพความซับซ้อนของความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ทวีความเข้มข้นเป็นมหากาพย์
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2533 เมื่อเนสท์เล่ตัดสินใจจับมือกับ นายประยุทธ มหากิจศิริ ผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงธุรกิจไทย ก่อตั้ง บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) ด้วยสัดส่วนการถือหุ้นฝ่ายละครึ่ง 50:50 เพื่อปูทางสู่การผลิตกาแฟสำเร็จรูป "เนสกาแฟ" วันนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ชวนย้อนไทม์ไลน์ตั้งแต่ต้น มีรายละเอียดดังนี้
พ.ศ. 2533
พ.ศ. 2564
พ.ศ. 2566
31 ธันวาคม พ.ศ. 2567
14 มีนาคม พ.ศ. 2568
มีนาคม - เมษายน พ.ศ. 2568
3 เมษายน พ.ศ. 2568
4 เมษายน พ.ศ. 2568
8 เมษายน พ.ศ. 2568
หัวใจสำคัญของความขัดแย้งครั้งนี้อยู่ที่ความเป็นเจ้าของแบรนด์ "เนสกาแฟ" แต่เพียงผู้เดียวของเนสท์เล่ ในขณะที่ตระกูลมหากิจศิริเป็นเจ้าของโรงงานผลิตผ่านบริษัท QCP ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรร่วมทุนกันมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ข้อพิพาทหลักๆ นั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องค่าธรรมเนียมและการยุติสัญญาร่วมทุน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการผลิตและการจำหน่ายเนสกาแฟในตลาดกาแฟสำเร็จรูปที่มีมูลค่าสูงถึง 1.7 หมื่นล้านบาท
สมรภูมิกาแฟหมื่นล้านแห่งนี้จึงมิได้เป็นเพียงแค่การต่อสู้ทางกฎหมายระหว่างสองคู่กรณี หากแต่เป็นการเดิมพันครั้งสำคัญต่ออนาคตของแบรนด์กาแฟอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค และยังเป็นบทเรียนอันล้ำค่าสำหรับความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงตามบริบทและผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน ซึ่ง "ฐานเศรษฐกิจ" จะติดตามความคืบหน้าของมหากาพย์กาแฟบทนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป
กึ้ง-เฉลิมชัย ปิดปากเงียบ! "มหากิจศิริ" ยังไม่พร้อมให้ข้อมูล ปมขัดแย้ง "เนสท์เล่" ผู้สื่อข่าวฐานเศรษฐกิจ ติดต่อไปยัง นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) บุตรชายของ นายประยุทธ มหากิจศิริ และผู้บริหารคนสำคัญของตระกูล เพื่อสอบถามถึงกรณีพิพาททางธุรกิจที่กำลังสั่นคลอนวงการระหว่าง บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด และ ตระกูลมหากิจศิริ
อย่างไรก็ตาม นายเฉลิมชัย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าว "ฐานเศรษฐกิจ" อย่างสุภาพว่า "ในตอนนี้ยังไม่สะดวกให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อพิพาทดังกล่าว หากมีความคืบหน้าใดๆ พร้อมที่จะติดต่อกลับไป"
ท่าทีดังกล่าวของฝั่ง "มหากิจศิริ" ยังคงรักษาความเงียบและไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับปมขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทำให้ข้อมูลและรายละเอียดของข้อพิพาทในขณะนี้ยังคงมาจากฝั่งของเนสท์เล่แต่เพียงผู้เดียว