เปิดอาณาจักรเนสกาแฟ 1.7 หมื่นล้าน ข้อพิพาทเนสท์เล่-ตระกูลมหากิจศิริ

09 เม.ย. 2568 | 15:04 น.
อัปเดตล่าสุด :09 เม.ย. 2568 | 15:18 น.

เจาะลึก 'เนสกาแฟ' ธุรกิจกาแฟ 1.7 หมื่นล้านที่ร่วมทุนมายาวนาน 30 ปี พร้อมเปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นและผลประกอบการ QCP หลังศาลแพ่งมีนบุรีสั่งห้ามเนสท์เล่ผลิตและจำหน่ายเนสกาแฟในไทยหลังข้อพิพาทกับตระกูลมหากิจศิริ

ข้อพิพาทระหว่าง "เนสท์เล่" บริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ระดับโลก กับบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) ภายใต้การนำของตระกูล "มหากิจศิริ" กำลังส่งผลกระทบต่ออาณาจักรกาแฟภายใต้แบรนด์ Nescafé (เนสกาแฟ)  มูลค่ากว่า 1.7 หมื่นล้านบาทในประเทศไทย

คำสั่งห้ามจากศาลแพ่งมีนบุรี

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 ศาลแพ่งมีนบุรีได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามมิให้เนสท์เล่ ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เนสกาแฟแต่เพียงผู้เดียว ดำเนินการผลิต ว่าจ้างผลิต จำหน่าย และนำเข้าผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปภายใต้เครื่องหมายการค้า Nescafé ในประเทศไทย

คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ QCP ยื่นฟ้องต่อศาล ภายหลังที่เนสท์เล่ได้แจ้งยุติสัญญาการให้สิทธิในการผลิตเนสกาแฟกับ QCP ในปี 2564 ซึ่งการยุติสัญญาดังกล่าวได้ถูกรับรองโดยศาลอนุญาโตตุลาการสากลว่ามีผลทางกฎหมายตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2567

ความสัมพันธ์ 30 ปี ระหว่างเนสท์เล่กับตระกูลมหากิจศิริ

ตั้งแต่ปี 2533 จนถึงปี 2567 ผลิตภัณฑ์เนสกาแฟได้ถูกผลิตในประเทศไทยผ่าน QCP ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนแบบ 50/50 ระหว่างเนสท์เล่และตระกูลมหากิจศิริ โดยมี "ประยุทธ มหากิจศิริ" เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น

ภายใต้สัญญาการร่วมทุนนี้ เนสท์เล่มีอำนาจในการบริหารงาน การผลิต การจัดจำหน่าย รวมทั้งการทำการตลาดผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ โดยเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตเนสกาแฟนั้นเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของเนสท์เล่

ผลประกอบการของ QCP

บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2532 ด้วยทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท โดยมีผลประกอบการดังนี้:

  • ปี 2566: รายได้รวม 17,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.4% จากปี 2565

  • กำไรสุทธิปี 2566: 3,067 ล้านบาท ลดลง 9.8% จากปี 2565

  • กำไรสุทธิปี 2565: 3,403 ล้านบาท

  • กำไรสุทธิสูงสุดในปี 2564: 3,704 ล้านบาท

ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในปี 2566 เพิ่มขึ้น 3.7% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของรายได้ ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานลดลงเป็น 3,831 ล้านบาทจาก 4,254 ล้านบาทในปี 2565

โครงสร้างผู้ถือหุ้น QCP

บริษัทมีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท แบ่งเป็น 50 ล้านหุ้น โดยมีผู้ถือหุ้น 6 ราย ได้แก่:

  1. นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ถือหุ้น 41.80% (20.9 ล้านหุ้น)

  2. เนสท์เล่ เอส.เอ สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ถือหุ้น 30.00% (15 ล้านหุ้น)

  3. วิโทรปา เอส.เอ สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ถือหุ้น 19.00% (9.5 ล้านหุ้น)

  4. นางสุวิมล มหากิจศิริ ถือหุ้น 5.00% (2.5 ล้านหุ้น)

  5. นายประยุทธ มหากิจศิริ ถือหุ้น 3.20% (1.6 ล้านหุ้น)

  6. บริษัท เนสท์เล่เทรดดิ้ง ประเทศไทย จำกัด ถือหุ้น 1.00% (0.5 ล้านหุ้น)

คณะกรรมการบริษัทประกอบด้วย 7 คน ได้แก่ นายประยุทธ มหากิจศิริ, นางสุวิมล มหากิจศิริ, นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ, นางสาวอุษณา มหากิจศิริ, นายรามอน เมนดิวิล กิล, พันตำรวจโทกรวัชร์ ปานประภากร และนายสุวิทย์ คำดี