นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 1 ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจค้าปลีก ผู้บริโภคทุ่มกำลังซื้อไปแล้ว จากปัจจัยเรื่องของเทศกาลสำคัญอย่างช่วงต้นปี สงกรานต์ เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวและมีการสังสรรค์ นอกจากนี้ยังมีการกระตุ้นกำลังซื้อจากภาครัฐผ่านโยบาล Easy e-Receipt ทำให้ช่วงไตรมาส 2 เป็นช่วงในการรับไม้ต่อขอความท้าทาย เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคชะลอกำลังซื้อลง
ไตรมาส 2 ฤดูกาลของการเปิดภาคเรียนในประเทศไทย ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะระวังการจับจ่ายในช่วงนี้เป็นพิเศษ เน้นซื้อสินค้าที่จำเป็นเท่านั้น ทำให้การจับจ่ายอาจจะซบเซาลง ท็อปส์ ในฐานนะร้านค้าปลีกต้องปลุกตลาดให้เกิดการจับจ่ายเพื่อการเติบโตของธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังต่อไป
ท็อปส์ดึงแคมเปญ “สะสมแสตมป์” หวังกระตุ้นกำลังซื้อ
การสะสมแสตมป์ถือเป็นกลยุทธ์ของธุรกิจค้าปลีกที่คุ้นเคยกันอย่างดี ถือเป็นหนึ่งในการสร้าง Loyalty Program เพื่อรักษาลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อและสร้างบานลุกค้าใหม่ ๆ จากประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป ท้อปส์ เคนมีการทำแคมเปญดังกล่าวเมื่อปีที่แล้วและได้ผลตอบรับเป็นการเติบโตในช่วง ไตรมาส 2 กว่า 10% ในปีนี้ถือเป็นการสานต่อจากความสำเร็จดังกล่าว
จึงไม่พลาดที่จะนำแคมเปญนี้กลับมาอีกครั้ง เพื่อนำเสนอประสบการณ์การช้อปปิ้งที่พิเศษกว่าเคย ต่อยอดสู่การสร้าง “Value-engagement Campaign มัดใจลูกค้าทุกเจน กับแคมเปญ“Winning Together” ครั้งแรกกับการดึง 3 ครีเอเตอร์คนไทยครีเอทลวดลายบนคอลเลกชันสินค้าพรีเมียมสุดพิเศษ ในแบบฉบับไม่ซ้ำใคร ผ่านคอนเซปต์ Sustainability x Thai Culture ด้วยการพัฒนาแคมเปญสะสมแสตมป์ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมของลูกค้าผ่านสินค้าพรีเมียมที่มีคุณค่าและดึงดูดใจ เพื่อสร้าง “Value-engagement Campaign” ด้วยแนวคิดบน 3 แกนหลักสำคัญ (3Es) ได้แก่
ทั้งนี้ แคมเปญสแตมป์ดังกล่าว ได้ถูกคิดขึ้นภายใต้กลยุทธ์ Winning Together โดยให้ความสำคัญกับการสร้างผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างห่วงโซ่ธุรกิจ ได้แก่ ลูกค้า ที่มองหาความคุ้มค่าด้านราคาและประสบการณ์ความเอ็กซ์คลูซีฟ, พาร์ทเนอร์ ที่ต้องการเพิ่มการมองเห็นแบรนด์และกลไกในการขับเคลื่อนยอดขาย ขณะที่ ท็อปส์ มุ่งเน้นการรักษาฐานลูกค้าเก่าด้วยลอยัลตี้โปรแกรม ควบคู่กับการขยายฐานลูกใหม่
โดยการใช้คาแรคเตอร์การ์ตูนเพื่อดึงดูดลูกค้านิวเจน นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุน ศิลปินไทย สร้างโอกาสและพื้นที่โชว์ศักยภาพด้านการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ นับเป็นการสานต่อความสำเร็จจากแคมเปญสะสมแสตมป์ในปีที่ผ่านมา ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นถึงสองดิจิตเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รวมถึงจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นถึง 4% อีกด้วย ตอกย้ำความสำเร็จของการเดินหน้าสู่การสร้างแคมเปญสะสมแสตมป์ในปีนี้ ให้ประสบความสำเร็จขึ้น มากขึ้นกว่าเดิม”
จากข้อมูลของท็อปส์ยังพบสถิติที่น่าสนใจคือ ลูกค้าท็อปส์เป็นลูกค้าผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยคิดเป็นสัดส่วน 71.8% และผู้ชายมีสัดส่วน 28.2% และพบว่า 75.2% ของลูกค้าอยู่ในช่วงอายุ 25 – 54 ปี อยู่ในช่วงกลุ่ม GEN X และ GEN Y สัดส่วนของลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 44% มีอาชีพเป็นพนักงานออฟฟิศ ผลการสำรวจกลุ่มลูกค้าท้อปส์ พบว่า กว่า 39% ชื่นชอบโปรโมชั่น กว่า 25% ชื่นชอบแคมเปญการสะสมแต้มเพื่อแลกของรางวัล สะท้อนเทรนด์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชื่นชอบการสะสมของพรีเมียมที่มีประโยชน์ วัสดุมีคุณภาพ สามารถใช้งานได้จริง และมีความเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร เชื่อมั่นแคมเปญดังกล่าวจะสามารถทำให้ท็อปส์ข้าวความท้าทายของไตรมาส 2 ไปได้