‘ธนิยะ’ พลิกโฉมรับไลฟ์สไตล์คนเมือง รับแลนด์สเคปสีลมเปลี่ยน

นางสาวศลิษา นภาธร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ธนิยะ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีโครงการค้าปลีกใหม่ๆ เกิดขึ้นบนถนนสีลม รวมถึงการเปิดศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในหัวถนนสีลม ซึ่งเป็นผลดีต่อศูนย์การค้าธนิยะในระยะยาว เพราะจะทำให้เกิดความคึกคักในย่านสีลมมากขึ้น ขณะที่ศูนย์การค้าธนิยะเองได้เริ่มรีโนเวทตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยธนิยะโฉมใหม่ จะอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกีฬากอล์ฟ ด้วยการเป็นศูนย์รวมร้านอุปกรณ์และสินค้าไลฟ์สไตล์

โดยรวบรวมร้านค้าแบรนด์กอล์ฟชั้นนำที่ครบครันและใหญ่ที่สุดในเอเชีย รองรับการเติบโตของดีมานด์ตลาดอุปกรณ์กอล์ฟทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเปิดตัว “S Club” ร้านมัลติแบรนด์ (Multi-Brand Store) รวบรวมแบรนด์สินค้าแฟชั่นแอคทีฟไลฟ์สไตล์มาไว้พร้อมบริการลูกค้าในที่เดียว

“เรารีโนเวทใหญ่ครั้งนี้เพื่อปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ รูปโฉมของร้านค้าภายในศูนย์การค้าก็ปรับให้เข้ากับเทรนด์และไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อกับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายและมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สอดรับกับดีมานด์ตลาดกอล์ฟที่เติบโตขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะในเอเชีย”

นอกจากนี้ธนิยะยังคงความเป็น Authentic Japanese Lifestyle ที่เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ร้านค้าของสะสม และงานอดิเรกต่างๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์อันโดดเด่นของธนิยะเอาไว้

โดยศูนย์การค้าธนิยะ ประกอบไปด้วยพื้นที่ค้าปลีก 2 อาคาร อาคารละ 4 ชั้น รวมพื้นที่เช่าทั้งหมดประมาณ 12,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น อาคาร Thaniya BTS ติดกับถนนสีลม มีขนาด 3,500 ตารางเมตร เน้นร้านค้าที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในย่านสีลม อาทิร้าน Don Don Donki ขณะที่อาคาร Thaniya Atrium ตั้งอยู่บนถนนธนิยะ มีขนาดประมาณ 8,500 ตารางเมตร เป็นร้านค้าอุปกรณ์กีฬากอลฟ์จากแบรนด์ชั้นนำทั้งในไทยและต่างประเทศ

“ความต้องการของนักกอล์ฟและคนในย่านสีลม และล่าสุดธนิยะได้เปิดตัวร้าน “S Club”-Active Lifestyle Multi-Brand Store เพื่อรวบรวมแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นต่างๆ มาไว้อย่างครบครัน อาทิ Malbon และ Bogner ทั้งยังเพิ่มพื้นที่คอมมูนิตี้ (Community Space)

สำหรับให้คนที่มีความชื่นชอบและสนใจเหมือนกัน สามารถมาใช้พื้นที่นี้ในการนัดพบ และแลกเปลี่ยนความชอบกันได้ นอกจาก S Club บริษัทได้เตรียมเปิดร้านค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ เอ๊าท์ดอร์ และ active เพิ่มขึ้นภายในปลายปีนี้ เพื่อขยายฐานสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น”

นางสาวศลิษา กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ชั้น 4 จะเป็นโซนร้านอาหารภายใต้คอนเซ็ปต์ Authentic Japanese โดยรวบรวมร้านอาหารที่หลากหลาย และมีเอกลักษณ์มาไว้ด้วยกัน ปัจจุบันมีร้านอาหาร 5 ร้านและจะทยอยเปิดอีก 5 ร้านภายในไตรมาส 3 ปีนี้ ปัจจุบันพื้นที่เช่าของธนิยะอยู่ที่ 80% และจะเพิ่มเป็น 100% ในสิ้นปีนี้

“ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลักของธนิยะคือ กลุ่มนักกอล์ฟทุกเจนเนอเรชั่น และกลุ่มคนที่ชื่นชอบอาหารและไลฟ์สไตล์ญี่ปุ่น ทั้งนี้เรายังมีกลุ่มลูกค้านักกอล์ฟรุ่นใหม่ และผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกีฬากลางแจ้ง (Active Lifestyle) กลุ่มนักสะสม และพนักงานออฟฟิศ ซึ่งเดิมอาจจะมีอายุระหว่าง 40-50 ปีภายหลังการปรับโฉมธนิยะได้ลูกค้าที่มีอายุ 20-30 ปี เพิ่มขึ้น โดยลูกค้าหลักจะเป็นคนไทย 70% และ 30% เป็นต่างชาติ

หน้า  16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,978 วันที่ 28 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2567