เจน 2 ‘ชาพะยอม’ สยายปีกลุย ขยายแฟรนไชส์ไทย-ต่างประเทศ

09 มี.ค. 2567 | 08:10 น.

Gen 2 “ชาพะยอม” เดินหน้านำทัพร้านชาพร้อมดื่มสยายปีกรุกไทย-ต่างแดน มั่นใจปักหมุดครบ 3,000 สาขาทั่วโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า หลังยกเครื่องรีแบรนด์ ลงทุนเครื่องจักร เพิ่มกำลังผลิต สร้างแบรนด์ผ่านออนไลน์ พร้อมลุยทำตลาดอาหารพร้อมทาน “เชฟเท่ง แกงใต้สำเร็จรูป”

นายเพทาย ไตรจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูริสิริ จำกัด ทายาทรุ่นที่ 2 “ชาพะยอม” แบรนด์เครื่องดื่มชาไทยแท้จากภาคใต้ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าตลาดชาไทยยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากจำนวนแบรนด์ชาที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งเจ้าเล็กและเจ้าใหญ่ จุดแข็งของชาไทย คือเป็นที่รู้จักและจดจำได้ง่าย เข้าถึงคนทุกวัย อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่ากังวล คือการเข้ามาของแบรนด์ชาจากต่างประเทศ เช่น ชานมไข่มุกหรือชาไต้หวัน ทำให้ส่วนแบ่งตลาดชาไทยลดลง ดังนั้นแบรนด์ชาไทยต้องปรับตัว และมั่นใจว่าชาไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ยังสามารถครองใจผู้บริโภคได้ แต่ต้องไม่หยุดนิ่ง พัฒนาสินค้าและบริการ

ปัจจุบันชาพะยอมมีสาขารวม 2,100 สาขาทั่วโลก โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มอีก 200 สาขาในปี 2567 และจะมีสาขารวม 3,000 สาขาในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยชาพะยอมมีแผนขยายธุรกิจแฟรนไชส์ในต่างประเทศมากขึ้น จากตอนนี้สามารถขยายธุรกิจแฟรนไชส์ชาพะยอมไปแล้วใน 9 ประเทศได้แก่ ออสเตรเลีย 2 สาขา, เมียนมา 16 สาขา, กัมพูชา 14 สาขา, มาเลเซีย 10 สาขา, สิงคโปร์ 7 สาขา, บรูไน 22 สาขา, ฟิลิปปินส์ 2สาขา, ดูไบ 2 สาขา, แคนาดา 1 สาขาและอยู่ระหว่างเจรจาอีก 2 ประเทศ ได้แก่สหรัฐอเมริกาและเวียดนาม

เจน 2 ‘ชาพะยอม’  สยายปีกลุย ขยายแฟรนไชส์ไทย-ต่างประเทศ

 “ชาพะยอมที่ขยายไปต่างประเทศจะมุ่งเจาะกลุ่มนักลงทุนที่สนใจลงทุนในธุรกิจชาไทย โดยเปิดโอกาสให้เป็นนักลงทุนเจ้าของสิทธิ์สามารถขยายกิจการแฟรนไชส์ชาพะยอมเพียงรายเดียวในประเทศนั้นๆ จะไม่มีเรียกเก็บค่าใช้จ่ายต่างๆ นอกจากค่าวัตถุดิบ ซึ่งการบุกตลาดต่างประเทศครั้งนี้ ชาพะยอมได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากราคาที่เข้าถึงง่ายเหมาะกับกลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัย ประกอบกับกระแสความนิยมในชาไทยที่เพิ่มสูงขึ้นในต่างประเทศ”

นายเพทาย กล่าวอีกว่า ในปีที่ผ่านมา ชาพะยอมมีการลงทุนราว 5 ล้านบาทในการเพิ่มเครื่องจักรใหม่ในโรงงานผลิตที่หาดใหญ่ และลงทุน 2-3 ล้านบาทในการปรับภาพลักษณ์องค์กร (รีแบรนด์) การปรับเว็บไซต์ รวมถึงบรรจุภัณฑ์ของชาพะยอมให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น พร้อมเน้นทำการตลาดออนไลน์ ทั้งช่องทางโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อช่วยขยายฐานลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งมั่นใจว่ากลยุทธ์ที่ชัดเจน จุดเด่นของสินค้า จะทำให้ชาพะยอมสามารถขยายสาขาเพิ่มได้ตามเป้าหมาย

เจน 2 ‘ชาพะยอม’  สยายปีกลุย ขยายแฟรนไชส์ไทย-ต่างประเทศ

นอกจากนี้ชาพะยอมยังมีแผนมุ่งขยายฐานลูกค้าและเพิ่มการใช้จ่ายผ่าน “แอปพลิเคชันชาพะยอม” ที่จะเชื่อมต่อลูกค้ากับร้านชาพะยอมทั่วประเทศ โดยแอปพลิเคชันชาพะยอมพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคดิจิทัล ลักษณะหลักของแอปพลิเคชันเป็นการสะสมคะแนนจากการซื้อสินค้าและ แลกคะแนนเป็นสิทธิพิเศษต่างๆ รวมถึงค้นหาร้านชาพะยอมสาขาใกล้เคียง ซึ่งเป้าหมายของแอปพลิเคชัน คือเพิ่มจำนวนลูกค้าประจำ ดึงดูดให้ลูกค้าใช้กลับมาจ่ายมาซื้อซ้ำ เพื่อสร้างความภักดีต่อแบรนด์ โดยจะเริ่มเปิดให้บริการในต้นปี 2568

เจน 2 ‘ชาพะยอม’  สยายปีกลุย ขยายแฟรนไชส์ไทย-ต่างประเทศ

อย่างไรก็ดี หลังการเปิดตัวกลุ่มอาหารพร้อมทานในปี 2565 ภายใต้แบรนด์ “เชฟเท่ง แกงใต้สำเร็จรูป” โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว พร้อมวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น ช่องทางออนไลน์ และป๊อปอัพ สโตร์ ในอนาคตชาพะยอมมีแผนจะแตกไลน์เครื่องดื่มประเภทกาแฟเพิ่มขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาชาพะยอมมีรายได้รวม 30 - 35 ล้านบาท ส่วนไตรมาสแรกนี้มีการตอบรับที่ดี เนื่องจากใกล้ฤดูร้อน ทำให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องการเตรียมตัวก่อนที่จะเข้าเทศกาลสงกรานต์

พฤติกรรมการบริโภคชาไทยของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยผู้บริโภคเริ่มมองหาชาไทยที่มีคุณภาพสูง ใบชาสดใหม่ กรรมวิธีการผลิตที่พิถีพิถัน รวมไปถึงรสชาติที่หลากหลาย หรือแม้กระทั่งชาไทยเพื่อสุขภาพกระแสรักสุขภาพทำให้ผู้บริโภคหันมาเลือกชาไทยที่มีส่วนผสมของสมุนไพร ดอกไม้ หรือผลไม้ ที่น่าจับตามองคือชาไทยในรูปแบบใหม่ ชาไทยที่ผสมผสานกับวัตถุดิบอื่นๆ เกิดเป็นเมนูใหม่ เช่น ชาไทยลาเต้ ชาไทยมัทฉะ ชาไทยไข่มุก

 “ชาพะยอม ถือแบรนด์ชาไทยที่ครองใจผู้บริโภคมายาวนานกว่า 15 ปี ด้วยกลยุทธ์ “ราคาเข้าถึงง่าย” เริ่มต้นเพียง 25 บาท ทุกเมนู ตอบโจทย์ทุกความต้องการ โดยจุดแข็งที่ทำให้ชาพะยอมกลายเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคนึกถึง นั้นก็คืออายุแบรนด์กว่า 15 ปี ซึ่งสร้างการจดจำและความคุ้นเคยของชาไทยแท้รสชาติเข้มข้นมีความหลากทำให้ถูกใจทั้งคนไทยและต่างชาติ อีกทั้งร้านชาพะยอมมีสีเขียวสดใส สร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์จดจำได้ง่าย” นายเพทาย กล่าว 

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,972 วันที่ 7 - 9 มีนาคม พ.ศ. 2567