ตลาดปลากระป๋อง แข่งดุ ‘ปุ้มปุ้ย’ เพิ่มวาไรตี้ จับคนรุ่นใหม่

นางปวิตา โตทับเที่ยง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหาร กว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ ปุ้มปุ้ยมีแผนปรับขนาดบรรจุภัณฑ์ใหม่ของกระป๋องบางรสชาติ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น และคาดหวังว่าจะเติบโตในตลาดมากขึ้นเช่นกัน โดยยังคงทำการผลิตเต็มกำลังจากโรงงานที่จังหวัดตรังซึ่งมีกำลังการผลิตเฉลี่ย 9 ล้านกระป๋องต่อเดือน

สำหรับแบรนด์ปุ้มปุ้ย ยังคงครองตลาดเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยในกลุ่มสินค้าปลากระป๋องปรุงรส ด้วยมาร์เก็ตแชร์ 80% และมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 ในตลาดรวมของปลากระป๋องซึ่งมีมูลค่าตลาดรวม 7,000-9,000 ล้านบาท โดยแบรนด์ปุ้มปุ้ยมีสัดส่วนการขายในประเทศทั้งหมด 80% โดยขายผ่านร้านค้าทั่วไป รวมไปถึงโมเดิร์นเทรด ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต รวมไปถึงร้านค้าท้องถิ่น และส่งออกไปขายต่างประเทศ 20% ภายใต้ชื่อแบรนด์ “Smiling Fish” ในกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา, สปป. ลาว, เมียนมา และ เวียดนาม) ยุโรปและอเมริกา โดยตลาดส่งออกหลัก คือ1.มาเลเซีย 2.ฮ่องกง 3.ยุโรป

“ตลาดปลากระป๋องในประเทศไทยถือว่าแข่งขันกันดุเดือด มีผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มเข้ามาทุกปี ส่วนตลาดในต่างประเทศก็ยังสามารถขยับขยายได้อีก โดยปุ้มปุ้ยพยายามชูจุดแข็งในส่วนของปลากระป๋องปรุงรสให้มีรสชาติหลากหลายมากขึ้น และพยายามพยายามผลิตปลากระป๋องรสชาติประจำถิ่นในแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นจุดเด่นในแต่ละพื้นที่ เพื่อตอบสนองต่อผู้บริโภคให้ได้”

นอกจากนี้ปุ้มปุ้ยยังเป็นเจ้าตลาดแบรนด์เดียวในประเทศไทยที่ผลิตปลากระป๋องหอยลาย มี 4 รสชาติคือ คั่วกลิ้ง ผัดขี้เมา ผัดฉ่า และน้ำพริกเผา เพื่อให้เป็นทางเลือกกับผู้บริโภค ทั้งแตกไลน์การผลิตหอยลายอบกรอบเพิ่มอีก เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ชอบรับประทานเป็นอาหารว่างหรือสแน็ค (Snack) รวมถึงมีกลุ่มสินค้าที่เพิ่มเข้ามาคือข้าวสวยพร้อมทาน และ “ปุ้มปุ้ย Ready to Eat and Ready to Cook” เช่น แกงเขียวหวานไก่ แกงส้มปลา สามารถฉีกซองพร้อมทานได้เลย หรือสามารถเพิ่มเติมเนื้อสัตว์หรือผักในน้ำแกงได้ในการปรุง

นางปวิตา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสินค้าทั้งหมดของปุ้มปุ้ยรวมอยู่ประมาณ 50 รายการ ส่วนใหญ่ปรุงรสชาติแบบที่คนไทยนิยมรับประทาน โดย 5 สินค้าที่ขายดีที่สุด ได้แก่ 1. ปลาแมคเคอเรลทอดราดพริก 2. หอยลายทอดรสเผ็ด 3. ปลาทอด รสเผ็ด 4. ปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ 5. ปลาซาร์ดีนสับปรุงรส โดยปลาที่ใช้ในการผลิตสูงสุดคิดเป็นปลาแมคเคอเรล 70% ปลาซาร์ดีน 30% ซึ่งมีปลานำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นด้วยส่วนหนึ่ง เพราะปลาในประเทศไม่เพียงพอต่อการผลิตและความต้องการของผู้บริโภค

“อย่างไรก็ตาม ปลากระป๋อง ถือว่าตอบโจทย์ผู้คนในกลุ่มคนที่ต้องการความสะดวกสบาย แน่นอนว่าการแข่งขันในตลาดค่อนข้างดุเดือดและเปลี่ยนแปลงตลอดผู้ผลิตต้องปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ ซึ่งปุ้มปุ้ยก็คาดหวังว่าปลากระป๋องปรุงรสและปลากระป๋อง หอยลายที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ จะคงครองตลาดเป็นอันดับ 1 ในเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง โดยพยายามขยายฐานลูกค้าให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น”