ปุ้มปุ้ย SAVE THE OCEAN สร้างสมดุลนิเวศทางทะเล

06 ม.ค. 2567 | 22:19 น.

"ปุ้มปุ้ย” ปักหมุดหมายพื้นที่ตรัง จับมือกลุ่มชาวประมง เร่งสร้างสมดุลระบบนิเวศทางทะเล เพิ่มพื้นที่ดูดซับคาร์บอน ช่วยบรรเทาปัญหาโลกรวน

ปุ้มปุ้ย โดยบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ร่วมกับกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านบ้านน้ำราบและองค์กรชาวประมงพื้นบ้านในเขตทะเลเสบ้านจัดกิจกรรม “ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ปลูกหญ้าทะเลสร้างสมดุลระบบนิเวศทะเลและชายฝั่ง” โดยผนึกกำลังกับภาครัฐ ภาคเอกชนและเครือข่ายประมงพื้นบ้าน 40 ชุมชน

“ปวิตา โตทับเที่ยง” ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) เล่าให้ฟังว่า ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล มีความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชน จึงปักหมุดหมายในการเร่งสร้างสมดุลระบบนิเวศทางทะเลจังหวัดตรัง ปลูกหญ้าทะเล ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ

ปุ้มปุ้ย SAVE THE OCEAN สร้างสมดุลนิเวศทางทะเล

พร้อมกับปลูกจิตสำนึกคนในชุมชน คนในจังหวัตรัง ให้ตระหนักรู้ถึงประโยชน์และความสำคัญของระบบนิเวศทางทะเล จากนั้นจะเกิดจิตสำนึกในการดูแลรักษา ระบบนิเวศก็จะสมบูรณ์ ในที่สุดก็เป็นผลดีกลับมายังชาวบ้านเอง

ทั้งนี้ตรังเริ่มเกิดความเสื่อมโทรมของแหล่งหญ้าทะเลจากหลายปัจจัย ทั้งเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ มรสุม การเปลี่ยนแปลงตะกอนทรายชายฝั่งทำให้เกิดการทับถมของตะกอนทรายในพื้นที่แหล่งหญ้าทะเล เป็นเหตุให้สัตว์น้ำเศรษฐกิจ เช่น ปูม้า หอย กุ้ง ลดจำนวนลงเนื่องจากไม่มีแหล่งเพาะพันธุ์อนุบาลสัตว์น้ำ

รวมถึงไม่มีแหล่งอาหารให้กับพะยูน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดตรัง จึงมีความจำเป็นต้องปลูกหญ้าชะเงาใบยาวเพื่อฟื้นฟูแหล่งอนุบาลและเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ แหล่งอาหารที่สำคัญของพะยูน พร้อมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเพิ่มปริมาณ

ปุ้มปุ้ย SAVE THE OCEAN สร้างสมดุลนิเวศทางทะเล

ในปี 2567 บริษัทมุ่งปลูกหญ้าทะเลในพื้นที่จังหวัดตรังจำนวน 10,000 ต้น โดยเน้นความร่วมมือในระยะยาวกับพันธมิตรจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และชุมชน เพราะระบบนิเวศทางทะเลเป็นเรื่องใหญ่ของทุกภาคส่วน ปุ้มปุ้ยเองเป็นเพียงกลไกหนึ่งที่พร้อมสร้างสมดุลระบบนิเวศทางทะเลจังหวัดตรังกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการร่วมกันปลูกหญ้าทะเลกว่า 3,000 ต้น เพื่อเร่งสร้างสมดุลระบบนิเวศทางทะเลที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเพิ่มพื้นที่ Blue Carbon เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่มีประสิทธิภาพ มีความสามารถในการกักเก็บคาร์บอนสูงกว่าป่าไม้ถึงเกือบ 10 เท่า

 

หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,954 วันที่ 4 - 6 มกราคม พ.ศ. 2567