อัปเดต ลดอัตราภาษีไวน์-สุราพื้นบ้าน 2567 กรมสรรพสามิต แจงมีผลสัปดาห์นี้

19 ก.พ. 2567 | 08:46 น.

อัปเดต ลดอัตราภาษีไวน์-สุราพื้นบ้าน 2567กรมสรรรพสามิต แจงมีผลสัปดาห์นี้ หลัง ครม.มีมติอนุมัติอย่างเป็นทางการตรวจสอบรายละเอียดอัตราภาษีใหม่ตรวจสอบรายละเอียดคลิกอ่านด่วน

จากกรณีที่ คณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ได้มีมติเห็นชอบ ปรับปรุงโครงสร้างและอัตราภาษีสรรพสามิตและภาษีประเภทอื่น รวมทั้งปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว

สรุปลดภาษีไวน์-สุราพื้นบ้าน และ รองรับสุราประเภทใหม่

สุราแช่อื่นๆ

  • อัตราเดิม 10%  ตามปริมาณ (บาท/ลิตร 100 ดีกรีแอลกอฮอล์) 150
  • อัตราภาษีใหม่ ตามมูลค่า 10%  ตามปริมาณ (บาท/ลิตร 100 ดีกรีแอลกอฮอล์) 150

 

พิกัดอัตราภาษีใหม่ ไวน์-สุราพื้นบ้าน 2567

สุราแช่พื้นบ้าน อาทิ อุ  กระแช่ สาโท ฯลฯ แอลกอฮอล์ไม่เกิน 7 ดีกรี

  • อัตราเดิม 10%  ตามปริมาณ (บาท/ลิตร 100 ดีกรีแอลกอฮอล์) 150
  • อัตราภาษีใหม่ ตามมูลค่า 0%  ตามปริมาณ (บาท/ลิตร 100 ดีกรีแอลกอฮอล์) 150

เก็บภาษีอัตราเดียว สอดคล้องมาตรฐานสากล ยกเลิกการแบ่งชั้นราคา

ไวน์และสปาร์กลิ้งไวน์ที่ทำจากองุ่น

  • ราคาเกิน 1,000 บาท อัตราภาษีเดิมตามมูลค่า  10% ตามปริมาณ (บาท/ลิตร 100 ดีกรีแอลกอฮอล์) 1,500
  • ราคาไม่เกิน 1,000 บาท อัตราภาษีเดิมตามมูลค่า  0%  ตามปริมาณ (บาท/ลิตร 100 ดีกรีแอลกอฮอล์) 1,500

สรุปลดภาษีสุราพื้นบ้าน-ไวน์ และ ภาษีสถานบริการ มัดรวมให้แล้ว

 

อัตราภาษีสรรพสามิตกิจการบันเทิง หรือ  หย่อนใจ (ถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึง 31 ธันวาคม 2567

ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ บาร์ ค็อกเทลเลาจน์ ฯลฯ

  • อัตราเดิม 10%
  • อัตราภาษีใหม่ 5%

ล่าสุดวันนี้ 19 กุมภาพันธ์ 2567 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า มาตรการที่รัฐบาลได้ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย ซึ่งมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติปรับโครงสร้างภาษีอากรและภาษีสรรพสามิต สุรา และไวน์ เมื่อวันที่ 2 ม.ค.67 นั้น คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในสัปดาห์นี้

อัตราภาษีไวน์ - สุราพื้นบ้าน 2567 จัดเก็บเพิ่มอีกปีละ 900 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามการปรับอัตราภาษีไวน์ - สุราพื้นบ้าน 2567 คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่รับประทานไวน์ และคาดว่าจะส่งผลให้ กรมสรรพสามิต สามารถจัดเก็บภาษีไวน์ได้เพิ่มขึ้นอีกปีละ 900 ล้านบาท เดิม 1,500 ล้านบาท.

ที่มา: กรมสรรพสามิต