“ท็อปส์” ผนึก ‘ดีเอชแอล’ ปักธงค้าปลีกสีเขียว

05 ธ.ค. 2566 | 07:50 น.

ท็อปส์ ผนึกกำลัง ดีเอชแอล ยกระดับสู่การเป็น “Green & Sustainable Retail” เปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าตอกย้ำจุดยืนผู้นำแห่งอุตสาหกรรมค้าปลีกอาหาร

การทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ถูกหยิบยกขึ้นเป็นโจทย์หลักของการทำธุรกิจในปัจจุบัน นอกจากจะมีสินค้าบริการตอบโจทย์ผู้บริโภคแล้วจะต้องส่งผลดีต่อกับทุกภาคส่วนรวมถึงสิ่งแวดล้อม ธุรกิจค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่าง เซ็นทรัล รีเทล ส่ง ‘ท็อปส์’ ธุรกิจกลุ่มฟู้ดในเครือ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนเพื่อเป้าหมายเป็นองค์กรค้าปลีกสีเขียว

นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ท็อปส์มีความมุ่งมั่นในการเป็นต้นแบบองค์กรค้าปลีกสีเขียวที่ยั่งยืน หรือ Green & Sustainable Retail ตามเจตนารมณ์ของเซ็นทรัล รีเทล ที่ได้ตั้งเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593

“ท็อปส์” ผนึก ‘ดีเอชแอล’ ปักธงค้าปลีกสีเขียว

ล่าสุดท็อปส์ร่วมมือกับ ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ เดินหน้าร่วมกันสร้างความยั่งยืนด้วยการเปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ จำนวน 10 คัน โดยจะเริ่มนำร่องใช้ในการขนส่งกระจายสินค้าของร้านท็อปส์ เดลี่ ในพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ  เพื่อขนส่งกระจายสินค้าจากดีเอชแอล บางนา โลจิสติกส์ แคมปัส ไปยังร้านท็อปส์ เดลี่ จำนวน 25 สาขา ทั่วกรุงเทพฯ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ท็อปส์ ตั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์ สร้างภาพใหม่ชิงตลาดฟู้ด รีเทลไทย https://www.thansettakij.com/business/marketing/556823

สำหรับรถขนส่งพลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถวิ่งได้ในระยะทางสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยใช้เวลาในการชาร์จพลังงานเต็มประสิทธิภาพเพียง 40 นาที และไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยดีเอชแอลได้ติดตั้งสถานีชาร์จ 3 จุดในบางนา โลจิสติกส์ แคมปัส ซึ่งตอกย้ำถึงการให้ความสำคัญในกระบวนการขนส่งและการปฏิบัติการอย่างยั่งยืน

“ท็อปส์” ผนึก ‘ดีเอชแอล’ ปักธงค้าปลีกสีเขียว

“ท็อปส์วางเป้าขยายจำนวนรถเพิ่มเติมรวม 29 คัน ภายในปี 2567 ทั้งรถขนส่งอุณหภูมิปกติและรถขนส่งควบคุมอุณหภูมิ และวางแผนความร่วมมือกับพันธมิตรทลายขีดจำกัดด้านสถานีชาร์จเพื่อรองรับการขนส่งและกระจายสินค้าในระยะทางไกลในพื้นที่ต่างจังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น นครสวรรค์ และเชียงใหม่ โดยคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 2,667 ตันต่อปี และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 13,335 ตัน ในระยะเวลา 5 ปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 1.5 แสนต้น”

การเปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าในครั้งนี้เป็นแผนใหญ่ส่งท้ายปีของสองยักษ์ใหญ่สะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ร่วมกันขององค์กรที่มีเป้าหมายเดียวกันคือเรื่องของความยั่งยืนที่ครอบคลุมทุกภาคส่วน