ไอคอนสยามฉลอง 5 ปีทุ่ม 500 ล้าน ปลุกเศรษฐกิจท่องเที่ยว

13 ต.ค. 2566 | 05:12 น.

“ไอคอนสยาม” ฉลองครบรอบ 5 ปี ตอกย้ำเป็น Global Destination อันดับหนึ่งในใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก ทุ่ม 500 ล้าน ชู Soft Power ไทย จัดยิ่งใหญ่กว่า 100 อีเวนท์กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เปิดเผยว่า ไอคอนสยาม เดินหน้าภารกิจสำคัญตามวิสัยทัศน์ของผู้ร่วมลงทุนทั้ง 3 บริษัทได้แก่ สยามพิวรรธน์, บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัดและบริษัทแม็กโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้อย่างสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยสร้างแม่เหล็กดึงดูดให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายที่ครองความเป็นที่หนึ่งในใจผู้คนทั่วโลก จนปัจจุบันไอคอนสยามได้รับการยกย่องทั้งจากนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกให้เป็น Global Destination

ตลอดระยะเวลา 5 ปี “ไอคอนสยาม” ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นผู้พลิกเกมครั้งยิ่งใหญ่และเป็นภาคส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้แข็งแกร่งขึ้นหลังวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมา สร้างศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ บนพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและฝั่งธนบุรี

สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล

ทำให้ความเจริญรุ่งเรืองกระจายผลประโยชน์ในวงกว้างไปได้มาก ไอคอนสยามสามารถดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติได้มากกว่า 5,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานมากกว่า 3 แสนอัตรา เพิ่มมูลค่าของที่ดินบริเวณถนนเจริญนครและใกล้เคียงจากตารางวาละ 1.5 แสนบาท ในปี 2561 กลายเป็น 6.4 แสนบาทต่อตารางวาในปี 2566

นอกจากนี้ ภาครัฐบาลยังได้เข้ามาสานต่อในการปรับโครงสร้างพื้นฐาน วางระบบขนส่งเชื่อมต่อคมนาคมขนาดใหญ่ของรถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าสายสีทอง แผ่ขยายการเดินทางครอบคลุมทั้ง “รถ-ราง-เรือ” ช่วยให้ประชาชนและกลุ่มนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้หลากหลาย สร้างสีสันให้ธุรกิจการค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยากลับมาคึกคัก

สำหรับในปี 2567 ไอคอนสยาม ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อให้เกิดประโยชน์นานาประการแก่ชุมชนที่รายล้อมและบรรดาธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยา

“ไอคอนสยามถือเป็นหนึ่งในโครงการสุดยอดไอคอนิค นำสิ่งที่ดีที่สุดของไทยมาบรรจบกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลก ‘The Best of Thailand Meets The Best of The World’ เป็นการนำเสนอคุณงามความดีในทุกมิติของความเป็นไทย พร้อมความยิ่งใหญ่ของสิ่งมหัศจรรย์จากทุกมุมโลก รวมกันให้ปรากฎเกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร

ไอคอนสยามฉลอง 5 ปีทุ่ม 500 ล้าน ปลุกเศรษฐกิจท่องเที่ยว

เราเป็นต้นแบบการพัฒนาโครงการเมืองด้วยแนวคิดความยั่งยืน เติบโตและทำธุรกิจภายใต้กลยุทธ์การร่วมกันรังสรรค์ (Co-Creation) และการสร้างประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย (Creating Shared Value) ทำให้เราเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนกับทุกภาคส่วน เกิดผลตอบรับเชิงบวกสู่สังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนสำคัญที่นำไอคอนสยามก้าวสู่ความยิ่งใหญ่บนเวทีโลกได้สำเร็จ

นายสุพจน์ กล่าวอีกว่า สำหรับ ผลประกอบการของไอคอนสยามในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา มีรายได้เติบโตขึ้น 25% โดยประสบความสำเร็จในการสร้างฐานลูกค้าประจำทั้งที่เป็นคนไทยที่มีกำลังซื้อสูงและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยกลยุทธ์การส่งมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมาย การจัด World Class Event อย่างสม่ำเสมอ

และการเป็นศูนย์รวมงานศิลปะไทยและศิลปะระดับโลก ภายใต้แนวคิดการทำงานแบบ Collaborate to Win ทำให้ไอคอนสยามประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ส่งผลให้ธุรกิจของคู่ค้าพันธมิตรภายในศูนย์การค้าเติบโตได้ดีไปพร้อมกัน

เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นเศรษฐกิจดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและทั่วโลกตามนโยบายของภาครัฐ ไอคอนสยามจัดแคมเปญฉลองครบรอบ 5 ปีด้วยการทุ่มงบประมาณ 500 ล้านบาท จัดเตรียมแผนการตลาดทั้งกิจกรรมมหาปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่ World Class Event โปรโมชั่นเร้าใจ และกิจกรรมต่างๆกว่า 100 อีเวนท์

ไอคอนสยามฉลอง 5 ปีทุ่ม 500 ล้าน ปลุกเศรษฐกิจท่องเที่ยว

โดยนำ Soft Power ของไทยในด้านต่างๆ มาเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้ทุกคนมาเยี่ยมชม รวมถึงร่วมมือกับททท. และกทม. จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในช่วงปลายปี เช่น การแสดงแสงสี วิจิตร เจ้าพระยา งาน Amazing Thailand Countdown 2024 เป็นต้น แคมเปญจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เป็นระยะเวลา 5 เดือน จึงมั่นใจอย่างยิ่งว่า ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะมีผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 70%

“ในวาระพิเศษครบรอบ 5 ปีของไอคอนสยามครั้งนี้ บริษัทจัดงานภายใต้แนวคิด “The 5th Anniversary of The ICON Unrivaled” เพื่อร่วมกันตอกย้ำให้ทุกคนรู้ว่า ประเทศไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก โดยร่วมกับบัตรเครดิตกสิกรไทย จัดแคมเปญโปรโมชั่นสุดพิเศษ “ICONSIAM-The 5th Anniversary of The ICON Unrivaled” ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566-14 มกราคม 2567

พร้อมผนึกกำลัง 5 พันธมิตร 5 ประเทศ สร้างปรากฏการณ์ ‘World Collaboration’ งานฉลองความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ในช่วงเดือนตุลาคม 2566-กุมภาพันธ์ 2567 โดยจะจัดกิจกรรมการตลาดอัดแน่นตลอด 5 เดือนเต็ม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดนักท่องเที่ยว ตอกย้ำจุดแข็งในการเป็น Global Destinations อันดับหนึ่งของประเทศไทย ด้วยสุดยอดมหกรรมความบันเทิงระดับโลกที่หลากหลายและครบครันมากที่สุด”