สายมูฟีเวอร์ เนรมิต “นานาทอง” เจาะนักท่องเที่ยวไทย-เทศ

10 ก.ย. 2566 | 07:36 น.

ตลาดสายมูแรงเกินต้าน “ฟูจิครีมฯ” ล้อนซ์ “นานาทอง” ชูจุดขายสมุนไพร ความเชื่อ ปลุกเสก นำร่องขายผ่านโลตัส พร้อมร่วมเทรดแฟร์ในงาน “อะเมซิ่ง มูติเวิร์ส” หวังขยายตลาดต่างประเทศ

นางสาวสุธีตา บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิครีม ดอทคอม จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เดิมเครือฟูจิ เป็นเจ้าตลาดเครื่องสำอางในโมเดิร์นเทรดทั้งเซเว่น อีเลฟเว่น, แม็คโคร, โลตัส และวัตสัน นับตั้งแต่วิกฤตการณ์โควิดพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง บริษัทจึงพัฒนาแบรนด์ “นานาทอง” ภายใต้คอนเซ็ปต์คือเครื่องสำอางสายมูบวกกับความเป็นสำเร็จรูปที่จับต้องได้ เชื่อถือได้และหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อหรือในโมเดิร์นเทรด

แบรนด์ “นานาทอง” จึงใช้ส่วนผสมหลักที่เป็นทองคำบวกกับส่วนผสมจากสมุนไพรไทยที่อยู่ในตำรับยาไทยมาเป็นร้อยปี เช่น ทองพันชั่ง เกสรบัวหลวง ว่านหางจระเข้ นางพญาหน้าขาว และผลิตในโรงงานที่ผ่านการตรวจสอบและได้รับมาตรฐานไม่ว่าจะเป็นเลขที่จดแจ้งทะเบียนอย. มาตราฐาน GMP และ ISO 22716 ในปัจจุบัน ที่สำคัญคือทั้งวัตถุดิบโรงงาน เครื่องจักร ตัวสินค้าหรือแพ็คเกจจิ้งที่ผ่านพิธีปลุกเสกสายขาว

สายมูฟีเวอร์ เนรมิต “นานาทอง” เจาะนักท่องเที่ยวไทย-เทศ

โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์ไม่ได้จำกัดด้วยอายุ แต่เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบเครื่องสำอางสมุนไพรไทยและมีความเชื่อโบราณ และมีความเชื่อมั่นในเรื่องของสกินแคร์ ซึ่งอาจจะไม่ใช่คนกลุ่มคนมีอายุ วินเทจหรือแต่งตัวเชยๆโบราณ แต่เป็นคนทั่วไปที่อัพเดทตัวเองในเรื่องของแฟชั่นและมีความเชื่อเรื่องนี้เพราะเราไม่ได้ขายแค่ความเชื่อแต่เราขายสินค้าที่มีคุณภาพดี และเป็นกลุ่มคนที่มีความสุขแนวความคิดผสมผสานได้

ปัจจุบัน นานาทอง มีพอร์ตผลิตภัณฑ์ 15 รายการ ใน 2 เซ็กเมนต์คือ 1. สกินแคร์ ดูแลตั้งแต่ใบหน้าไปถึงลำตัว อาทิ โรลออน, คอสเมติกส์เช่น แป้งฝุ่นผสมทองคำ, ครีมกันแดด, ลิปสติก เป็นต้น โดยเบื้องต้นจะวางจำหน่ายเฉพาะห้างโลตัสทุกสาขา ก่อนที่จะกระจายไปช่องทางอื่นๆ ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าด้วย

นอกจากนี้นานาทอง ยังได้รับการคัดเลือกจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้จัดแสดงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากทองคำบริสุทธิ์นะหน้าทอง และสมุนไพรในงาน “อะเมซิ่ง มูติเวิร์ส เปิดจักรวาลสายบุญ” ถือเป็นด่านแรกในการเปิดตลาดต่างประเทศอีกด้วย เพราะหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์คือ ชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยว ซึ่งให้ความสำคัญและสนใจสมุนไพรไทย และคอนเซ็ปต์ไทยๆอย่างมาก

“เป็นความโชคดีที่ททท.เลือกเราไปออกบูธในงาน “อะเมซิ่ง มูติเวิร์ส” ที่เซ็นทรัลเวิลด์เพราะเป็นแหล่งรวมของนักท่องเที่ยวที่ต้องมาเช็คอินกัน ทำให้คนนอกจากคนไทยที่รู้จักเราผ่านข่าวประชาสัมพันธ์ แล้วเรายังได้ลูกค้านักท่องเที่ยวที่เข้ามาเป็นกลุ่มทัวร์และชาวต่างชาติที่เป็นผู้ประกอบการ เข้ามาติดต่อเจรจาทางธุรกิจใน 2 รูปแบบ

คือนำสินค้าของเราไปขายในประเทศของเขา และรูปแบบที่ 2 OEM ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า ทำให้เรามีโอกาสที่จะขยายไปต่างประเทศได้อย่างแน่นอนโดยเฉพาะจีนและสิงคโปร์ที่ให้ความสนใจอย่างมาก ตอนนี้มีลูกค้าที่สนใจเข้ามาผลิตกับเราแล้ว 2 รายคือผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการจากจีนที่อยู่ระหว่างการเจรจา”

สำหรับแผนธุรกิจระยะ 1-3 ปีนี้เบื้องต้น นานาทองจะมุ่งไปที่การตอบรับนโยบาย “เที่ยวสายบุญ มูเตลู” เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้รู้จักวัฒนธรรม ความเชื่อ ความศรัทธา โดยผลักดันการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ที่มีคุณค่า และความหมายให้แก่นักท่องเที่ยว

ซึ่งจะรวบรวมสินค้าท่องเที่ยวกลุ่มศรัทธาความเชื่อ และภูมิปัญญาที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ และเอกลักษณ์ของประเทศไทย ประกอบด้วย ศาสนสถาน สิ่งเคารพและศรัทธา วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยที่แฝงในสินค้า และออกแบบเส้นทางการท่องเที่ยวด้านความเชื่อไปด้วยกัน ของททท.

โดยนานาทองจะทำการตลาดผ่าน รายการ “คชาภาพาไปมู” ภายใต้คอนเซ็ปต์พาเที่ยวภายใต้ความเชื่อ การทำให้ชาวบ้านมีงานทำ และสนับสนุนสินค้าในตำบลหรือในพื้นที่ และในเฟสต่อไป บริษัทมีแผนขยายช่องทางจัดจำหน่ายนอกโมเดิร์นเทรด ด้วยการเปิดช้อปในลักษณะของคีออสตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งทำโฆษณากับชาวต่างชาติเป็นการต่อยอดจากปัจจุบันที่แบรนด์ได้รับความสนใจจากสื่อต่างประเทศที่ลงข่าวและบทความของแบรนด์ทั้งในจีน สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง ซึ่งบริษัทเชื่อว่าการเป็นที่รู้จักในต่างประเทศจะเป็นใบเบิกทางให้บริษัทสามารถต่อยอด ในเรื่องอื่นๆ ได้เพิ่มเติม

“ปีนี้เราตั้งเป้าการเติบโตและยอดขาย 5% ของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทย เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของเรา และตั้งเป้าเปิดรับและคัดเลือกไกด์ทัวร์และเอเจนซี่ท่องเที่ยว สถานที่จัดจำหน่าย เช่น คิงพาวเวอร์ รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ในไทย จีน และประเทศที่สนใจด้วย”

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,920 วันที่ 7 - 9 กันยายน  พ.ศ. 2566