ส่องแนวทางการทำธุรกิจให้ปังสำหรับคนรุ่นใหม่ ต้องทำอย่างไร เช็คที่นี่

นายสุวิทย์ เอื้อศักดิ์ชัย ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญการพัฒนากลยุทธ์แบรนด์และการตลาด เปิดเผยว่า การสร้างธุรกิจของคนรุ่นใหม่นั้น มักจะมีแนวคิดที่ต้องการจะทำธุรกิจเป็นของตัวเอง และมักจะใช้ความหลงใหล (passion) ในสิ่งนั้นมาเป็นจุดเริ่มต้น โดยใช้ตัวเองเป็นศูนย์กลาง ขาดการวิเคราะห์ข้อมูล ลืมนึกถึงตลาด หรือความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค จึงทำให้ธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ ดัง ปัง เพียงชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น

ทั้งนี้ ยังมีผู้ประกอบการรายย่อยอีกเป็นจำนวนมาก ที่ไม่เข้าใจเรื่องการสร้างแบรนด์ว่ามีความสำคัญอย่างไร จะทำให้ธุรกิจมีความยั่งยืนได้อย่างไร และไม่เห็นความสำคัญของการทำพีอาร์ ซึ่งการจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในยุคนี้นั้น ผู้ประกอบการจะต้องสร้างแบรนด์ และมีความรู้เรื่องแบรนด์

นอกจากนี้ยังมีตัวแปรที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ เงินทุน ซึ่งเงินทุนนี้จะมีเท่าไรก็ได้ แต่จะต้องมีแล้วนำเงินทุนจำนวนนี้มาวิเคราะห์ มาวางแผนว่าสเต็ปของการสร้างแบรนด์จากเงินทุนที่มีอยู่นี้ ควรจะทำอย่างไร มาดูว่าเงินทุนจำนวนที่มีนั้นจะช่วยอะไรในธุรกิจได้บ้าง 

การสร้างแบรนด์จะต้องมีเงินทุน แต่ไม่ได้หมายความว่า จะต้องใช้เงินหว่านไปหมด  แต่บางครั้งผู้ประกอบการก็หลีกเลี่ยงที่จะไม่สร้างแบรนด์ ไม่ประชาสัมพันธ์ เพราะคิดว่าแค่ไปโพสต์บนเฟสบุ๊ก ทำติ๊กต่อก เพื่อให้เกิดไวรัลก็พียงพอแล้ว แต่จะไม่ยั่งยืน 

สำหรับข้อผิดพลาดหนึ่งของผู้ที่ต้องการทำธุรกิจเป็นของตัวเองที่พบได้บ่อยคือ การใช้ตนเองเป็นศูนย์กลาง โดยขาดความรู้ และประสบการณ์ หลายธุรกิจเริ่มต้นจาก passion หรือการสร้างสินค้าคุณภาพ แต่ก็ไม่ยังปัง เพราะขาดความเข้าใจเรื่องการสร้างแบรนด์และการทำพีอาร์ 

บางรายต้องการสร้างแบรนด์สินค้า ต้องการให้หรูหราเทียบเท่าแบรนด์ดัง ก็จะมองว่าสินค้าของตัวเองใช้วัตถุดิบมาจากแหล่งเดียวกัน หรือมีคุณภาพเทียบเท่ากับแบรนด์ดัง โดยไม่ได้คำนึงว่าต้นทุน และระยะเวลาของการสร้างชื่อเสียงแบรนด์นั้น แตกต่างกัน เพราะแม้ว่าคุณจะเป็นเจ้าของ (owner) หรือผู้ร่วมก่อตั้ง (founder) แต่หากผู้บริโภคไม่รู้จัก 

ไม่เคยทำพีอาร์ให้โลกรู้ว่าเป็นใคร แค่รู้ว่านำวัตถุดิบมาจากแหล่งเดียวกับแบรนด์ดัง แค่นี้มันไม่พอ น้ำหนักไม่มากพอ เพราะผู้บริโภคหรือลูกค้าก็จะเกิดคำถามว่าเหตุใดจะต้องซื้อสินค้าในราคาแพงระดับเดียวกับแบรนด์ดัง ผู้บริโภคก็จะไม่เลือก

ความผิดพลาดในเรื่องนี้ก็คือ การไปมองว่าของตัวเองมีคุณภาพ แต่ลืมมองว่ายังไม่ได้สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองให้แข็งแรงพอ อย่าลืมว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นต้องการเสพแบรนด์ ให้คุณค่ากับแบรนด์ นี่คือมุมสะท้อนกลับของผู้บริโภค เพราะเป็นเรื่องของสถานภาพ เป็นค่านิยม
 

อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาสำหรับคนอยากทำธุรกิจของตัวเองให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนด้วย ได้แก่ 

• การหาจุด Pain Point ในตลาดและกลุ่มเป้าหมายให้ได้ ผู้ประกอบการต้องรู้ความต้องการของผู้บริโภค หากไม่รู้ว่าตลาดเป็นอย่างไร จะทำอย่างไรให้สินค้ามีความแตกต่าง และไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ ก็มีสิทธิ์ตกม้าตายตั้งแต่ต้น ดังนั้น การหาจุด Pain Point ให้เจอ จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของชัยชนะ
• การทำความเข้าใจสินค้าและบริการของตัวเอง ผู้ประกอบการต้องรู้จุดอ่อน จุดแข็ง กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และตัวตนของสินค้าตัวเอง เพื่อจะการทำตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• การตั้งราคาสินค้าหรือบริการ จะต้องมีความเหมาะสม และไม่ควรเริ่มจากราคาที่ต่ำสุดจนเสี่ยงต่อการขาดทุน หรือสูงสุดจนขายไม่ได้ 
• Team Work การสร้างธุรกิจจำเป็นต้องใช้ทักษะความรู้ความชำนาญจากคนหลายกลุ่ม จึงควรมีทีมทำงานที่ดีคอนสนับสนุนในการเริ่มต้นธุรกิจ
• คิดถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ มากกว่าเงินที่จะได้จากลูกค้า จะทำให้เกิดฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น และยังทำให้ลูกค้าเดินเข้าหาแบรนด์ด้วย
• ควรมีเงินสำรองในการทำธุรกิจอย่างน้อย 6 เดือน แต่จะให้ดีควรมีประมาณ 1 ปี เพราะการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ อาจจะยังไม่ได้รับผลกำไรหรือยอดขายตามที่คาดหวัง และต้องใช้เวลากว่าที่ลูกค้าจะรู้จัก วางใจ และให้การยอมรับ 
• ต้องมีแผนสำรอง ควรมีการวางแผน 2-3-4 สำรองไว้เสมอ และต้องคำนึงถึงจุดแย่ที่สุดของธุรกิจเผื่อไว้ด้วย เพื่อจะได้เตรียมแผนการรับมือ