svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม thansettakij

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
thansettakij

ตลาดเครื่องสำอาง ฟื้นตัว อินฟอร์มาฯ ดึงพันแบรนด์ร่วมงานแฟร์

12 มิถุนายน 2566

อินฟอร์มาฯ เด้งรับเทรนด์ตลาดเครื่องสำอางโลกฟื้นตัวแรง เดินหน้าดึงผู้ประกอบการทั่วโลกกว่า 1,000 ราย จาก 15 ประเทศ จัดงาน cosmoprof CBE ASEAN 2023 โชว์นวัตกรรม พร้อมเจรจาธุรกิจ คาดผู้เข้าร่วมงานกว่า 1.2 หมื่นคน

ตลาดเครื่องสำอางทั่วโลกเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังโควิดตามดีมานด์ของผู้บริโภคที่ต้องการเสริมภาครัฐให้ดูดีโดยมีอานิสงส์จากการเปิดประเทศ โดยคาดว่าในปี 2573 ภาพรวมตลาดเครื่องสำอางทั่วโลกจะมีมูลค่าขึ้นไปแตะระดับ 3.64 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 12.38 ล้านล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 4.2%

นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า กระแสความนิยมทั่วโลกทำให้อุตสาหกรรมความงามเติบโตขึ้นอย่างมาก เห็นได้จากในปีที่ผ่านมาบริษัทได้จัดงานแสดงสินค้า cosmoprof CBE ASEAN ซึ่งเป็นงานจัดแสดงสินค้าความงามที่รวบรวมตัวแทนอาสาทำทุกภาคส่วนในกลุ่มสายการผลิตสินค้าความงามไปจนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปแบบ B2B แม้ในการจัดงานจะมีการติดขัดจากการเปิดประเทศที่ยังไม่เต็มที่ แต่ยังสามารถแสดงศักยภาพในการเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมความงามโดยมีผู้ชมงาน 8,000 คน ผู้ประกอบการร่วมแสดงสินค้ากว่า 500 บูธ เกิดการจับคู่ธุรกิจมากกว่า 600 แมชชิ่ง

ตลาดเครื่องสำอาง ฟื้นตัว อินฟอร์มาฯ ดึงพันแบรนด์ร่วมงานแฟร์

สำหรับปีนี้บริษัทได้จัดงาน cosmoprof CBE ASEAN 2023 อีกครั้งโดยมีผู้ร่วมออกงานแสดงสินค้าจากกลุ่มสายการผลิตในตลาดเครื่องสำอางเข้าร่วม 60% และผู้ร่วมออกงานในกลุ่มของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามสำเร็จรูปชั้นนำของโลก 40% คาดว่าจะสามารถดึงดูดผู้เยี่ยมชมงานได้มากกว่า 1.2 หมื่นคน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อจากภูมิภาคอาเซียนและเอเชียทั้งประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม สิงคโปร์ รวมทั้งอินเดีย นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์ม match&meet เข้ามาช่วยในการนัดหมายเจรจาธุรกิจและค้นหาคู่ค้าที่เหมาะสมอีกด้วย

“ความแตกต่างและจุดเด่นที่ทำให้งานของเราต่างจากงานอื่นคือมาตรฐานการจัดงานและมีฐานลูกค้าที่สามารถเชิญให้เข้ามาชมงานของเรา สำหรับการจัดงานในปีนี้ความพร้อมในการจัดงานคืบหน้าเกือบ 100% และคาดว่าจะเติบโตจากปีที่แล้ว 100% มีผู้ประกอบการร่วมออกงาน ถึง 1,000 ราย จาก 15 ประเทศรวมถึงกรุ๊ปพาวิลเลี่ยนจาก 7 ประเทศชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์ความงามเช่น เกาหลี จีน ญี่ปุ่นอิตาลี และประเทศอื่นๆ ซึ่งตอนนี้ถูกจับจองพื้นที่ไปแล้วกว่า 72% และผู้ชมงาน 1.2 หมื่นคน

สรรชาย นุ่มบุญนำ

โดยรูปแบบงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วน finish product และ supply chain และจะเป็น destination สำหรับธุรกิจในอุตสาหกรรมความงามที่ครบวงจรมากที่สุด ผู้ประกอบการรายย่อยใช้งานนี้เป็นฐานสำคัญในการแสดงสินค้าให้เป็นที่รู้จัก และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการสนับสนุนของภาครัฐและสมาคมการค้า”

ด้านนางเกศมณี เลิศกิจจา นายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกให้ความสนใจประเทศไทยโดยเฉพาะเรื่องของ Health Wellness and Beauty ซึ่งเป็นธุรกิจที่สร้างเงินจำนวนมาก จากความเชื่อของผู้บริโภคที่เชื่อว่าสุขภาพและความงามที่ดีจะต้องแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก ทำให้มีการดูแลตัวเองให้สวยงามเพิ่มมากขึ้น แล้วส่งผลให้ Personal care and Beauty เติบโตขึ้น

ขณะเดียวกันดีมานด์เรื่องการชะลอวัย ยังเติบโตมากขึ้นจากจำนวนผู้สูงอายุที่มากขึ้นในปัจจุบันและคาดว่าในอนาคตจะขยายตัวเป็น 1 ต่อ 4 ของประชากรโลกโดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 9.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่อาหารเสริมและการดูแลน้ำหนักเพื่อสุขภาพเป็นเทรนด์ที่มาแรงอีก รวมทั้งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่มีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญโดยมีมูลค่าตลาดสูงถึง 4.36 ล้านดอลลาร์ในปี 2563

และคาดว่ามูลค่าจะขึ้นไปถึง 1.59 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2573 โดยปัจจุบันประเทศไทยเป็น medical hub ของภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากเครื่องสำอางปัจจุบันไม่ใช่แค่ความสวยความงามแต่ก็ต้องส่งเสริมสุขภาพควบคู่ด้วย โดยเศรษฐกิจสุขภาพความงามในประเทศไทยมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านบาทโดยมีเครื่องสำอางเป็นสัดส่วนใหญ่ 30% รองลงมาเป็นอาหารและอาหารเสริม 25%

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,895 วันที่ 11 - 14 มิถุนายน พ.ศ. 2566