“คลาเรียนท์” ชูสารสกัดธรรมชาติบุกตลาดเครื่องสำอาง

ตลาดสุขภาพและความงามเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจอย่างมากในปีนี้ จากดีมานด์หลังโควิดที่ผู้คนเริ่มออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น เครื่องสำอางจึงกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งรวมทั้งผลิตภัณฑ์ Personal Care ที่แก้ปัญหาสุขภาพความงามที่เกิดจากโควิดด้วย

ทั้งนี้เทรนด์เครื่องสำอางมีการเปลี่ยนแปลงตามพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปีนี้เมกะเทรนด์ที่มาแรงอย่างมากคือ "คลีนบิวตี้" แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่แต่จะเป็นการขยายขอบเขตจากปีนี้ที่มีการใช้สารจากธรรมชาติ ออแกนิกหรือสารที่ไม่ทำอันตรายผิวไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ แต่ปี 2566 จะมีการขยายคำจำกัดความมากขึ้นนอกจากดีต่อผู้ใช้แล้วต้องดีต่อโลกด้วยและเน้นย้ำเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น 

เช่นครีมกันแดดที่สามารถปกป้องผิวผู้ใช้และใช้สารที่ไม่ทำลายปะการังด้วย หรือแม้กระทั่งสารทำความสะอาดเช่นครีมอาบน้ำจะต้องไม่ใช้พืชที่มาจากการรุกล้ำป่ามาผลิต รวมทั้งการใช้ขยะจากอุตสาหกรรมหนึ่งมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมหนึ่ง เช่นการใช้เปลือกส้มแมนดารินซึ่งเป็นขยะจากอุตสาหกรรมอาหารมาสกัดเป็น whitening ในเครื่องสำอางซึ่งเป็นเทรนด์แนวใหม่ที่มีความน่าสนใจ

แน่นอนว่าผู้เล่นหลายรายในอึตสาหกรรมความงามทั่วโลกต่างตื่นตัว กับเทรนด์นี้อย่างมากหนึ่งในนั้นคือ "คลาเรียนท์" ซึ่งให้ความสำคัญกับส่วนผสมที่เป็นออแกนิกส์และสารสกัดจากธรรมชาติรวมไปถึง
นวัตกรรมและความยั่งยืน โดยเปิดตัว วัตถุดิบธรรมชาติกลุ่ม Prunizen สารออกฤทธิ์จากธรรมชาติเพื่อการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะโดยเฉพาะ และผลิตภัณฑ์สารกันแดด ปกป้องรังสี UV และเน้นในเรื่องของความยั่งยืนในแง่ของผลิตภัณฑ์และภาพรวม ผ่านผลิตภัณฑ์เบอร์ราก้า (Beraca)จากแหล่งอเมซอน 

นายวิปุล ภัตติ หัวหน้าฝ่ายขายและฝ่ายการประยุกต์ใช้งาน สำหรับผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลส่วนบุคคลและผลิตภัณฑ์อุปโภคในครัวเรือนประจำเอเชียแปซิฟิค เปิดเผยว่า หลังจากความต้องการด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและหนังศีรษะลดลงอย่างเนื่องจากการล็อกดาวน์และการเว้นระยะห่างทางสังคมในช่วงที่เกิดสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ผู้บริโภคหลายคนต่างต้องประสบปัญหาจากการกักตัวอยู่แต่ในบ้าน ซึ่งนําไปสู่สภาวะอารมณ์ที่ไม่ดีต่อสุขภาพจิตใจ และเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดผมร่วง

ในปัจจุบันนี้ อุตสาหกรรมดังกล่าวมีความพร้อมแล้วที่จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องด้วยผู้บริโภคต่างกําลังมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพผิวและเส้นผมเพิ่มมากขึ้น "คลาเรียนท์" มีแผนเปิกตัว Prunizen ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์จากธรรมชาติ ผ่านการคิดค้นและพัฒนาเพื่อการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะโดยเฉพาะ โดยเป็นสารสกัดจากดอกแฮ่โกวเฉ่า (Prunella vulgaris) สมุนไพรที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการแพทย์แผนเอเชียในการจัดการกับปัญหาผมร่วงที่เกิดจากความเครียดของจิตใจ ช่วยกระตุ้นการเกิดเส้นผมใหม่

โดยสาร Prunizen มีกลไกการทำงานด้วยการออกฤทธิ์ต่อต้านความเครียด ช่วยยับยั้งการผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือ ฮอร์โมนแห่งความเครียดและเพิ่มระดับฮอร์โมนออกซิโตซินที่ส่งผลต่อต้านความเครียดทางสรีรวิทยาที่มีศักยภาพสูง

นอกจากนี้ยีงมีสกินแคร์สูตรที่เน้นการปกป้องผิวเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการยกเลิกข้อจำกัดด้านการเดินทางต่างๆ หลังสถานการณ์โควิดได้ผ่อนคลายลง ทำให้ส่วนผสมจากซีรีส์ Eclipsogen ของคลาเรียนท์ จะเข้ามาเป็นหนึ่งในตัวชูโรงที่พลาดไม่ได้อย่างแน่นอน โดยสารกันแดด Eclipsogen SX ให้การปกป้องรังสียูวีเอในระดับสูงที่ไม่เหมือนใคร โดยเป็นสูตรน้ำที่ช่วยให้เกลี่ยง่าย ให้ความรู้สึกสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ

อีกทั้งยังเป็นสารออกฤทธิ์ที่มีความสามารถในการผสมผสานเข้ากันได้สูงกับส่วนผสมในเครื่องสําอางส่วนใหญ่ นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปผ่านการแปรรูปด้วยความเย็น ช่วยเพิ่มประโยชน์ให้ผู้กําหนดสูตรให้มีข้อได้เปรียบเพิ่มเติมในการสร้างสูตรใหม่ที่ง่ายยิ่งขึ้น 

"ปีนี้คลาเรียนท์จะเน้นในส่วนของเทรนด์ใหม่ๆ โฟกัสในส่วนของ วัตถุดิบธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น active กลุ่ม Prunizen ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์จากธรรมชาติ เน้นควบคุมการผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือ ฮอร์โมนแห่งความเครียด และกระตุ้นฮอร์โมนความสุข ทำให้ผมร่วงน้อยลง และมีการผลิตเส้นผมได้ดีและมากขึ้น และผลิตภัณฑ์สารกันแดด ปกป้องรังสี UV และเน้นในเรื่องของความยั่งยืนในแง่ของผลิตภัณฑ์และภาพรวม โดยปีนี้จะมีผลิตภัณฑ์เบอร์ราก้า (Beraca) ที่มาจากแหล่งอเมซอนออกสู่ตลาด 

ผลิตภัณฑ์ที่สองได้แรงบัลดาลใจมาจากพืชในทะเลทราย เรียกว่า resurrections plants พืชที่สามารถทนสภาวะรุนแรงได้ เช่นพืชในทะเลทรายที่อยู่ในอุณหภูมิสูง หรือพืชที่อยู่ในภูมิอากาศหนาวมาก ทนกับอุณหภูมิ ซึ่งจะเป็นพีชที่สามารถปรับโหมดให้อยู่ในสภาวะจำศีล และเมื่อมีน้ำหรือสารอาหารมาล่อเลี้ยงก็จะสามารถเติบโตขึ้นได้อีกครั้ง โดยเมื่อคลาเรียนท์วิเคราะห์ก็เจอสาร GALACTINOL จึงใช้ไบโอเทคโนโลยีในการสกัดเอาสาร GALACTINOL มาเพื่อประโยชน์กับผิวในเรื่องของความชุ่มชื่น ชั้นผิวแข็งแรงขึ้น และช่วยลดริ้วรอย และทำให้สภาพผิวกระชับมากขึ้น เป็นสารที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์กลุ่ม เวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging)

สุดท้ายคือ active ที่มาจากพืช โดยผลิตที่ฝรั่งเศส และมีเทคโนโลยีเฉพาะในการเพาะปลูกเรียกว่า Plant Milking Technology เป็นการเพาะปลูกโดยที่ไม่ได้ใช้ดิน ปล่อยรากให้เติบโตลงมาข้างล่าง และหล่อเลี้ยงโดยการพ่นไอน้ำและสารอาหารเข้าไปที่ราก วิธีการนี้จะทำให้ได้สารที่ต้องการเยอะกว่าปกติ เนื่องจากการปลูกพืชโดยใช้ดินจะได้สารอาหารที่รากน้อยมากและอาจจะไม่มีสาร active ที่ต้องการ ซึ่งตัวที่ทางคลาเรียนท์ โปรโมทตอนนี้คือตัว  Rootness® Awake ซึ่งเป็นวิธีการปลูกที่เน้นความยั่งยืน

เนื่องจากเวลาสกัดสารจะทำการตัดเพียงรากเท่านั้นทำให้พืชยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ผลิตภัณฑ์ Rootness® Awake จะเป็นสารที่ช่วยบริเวณรอบดวงตา ใต้ตาดำ ถุงใต้ตา สารชื่อ DCQE สกัดจากรากของมันหวาน ซึ่งจะช่วยลดอาการอักเสบ ควบคุมระดับเม็ดสีบริเวณใต้ตา เพิ่มการหมุนเวียนของเส้นเลือดบริเวณใต้ตาเพื่อไม่ให้น้ำมาคั่งบริเวณใต้ตาส่งผลให้เกิดเกิดอาการบวม"