"วีแกน" โตแรงคาดปีหน้ามูลค่าตลาดทะลุ 200,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน "วีแกน" หรือกลุ่มคนที่เลือกบริโภคสินค้าที่ไม่มีส่วนผสมหรือวัตถุดิบที่มาจากสัตว์ ไม่ใช้สัตว์ในกรรมวิธีการผลิต รวมไปถึงการเลือกใช้สินค้าผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย เครื่องสำอาง รวมไปถึงสินค้าแฟชั่นที่ใช้กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กำลังเติบโตและขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว

สืบเนื่องจากวิถีชีวิตของคนในสังคมปัจจุบันให้ความสนใจและตระหนักต่อการเลือกสรรอุปโภคบริโภคอาหารและสินค้าที่มีผลกระทบต่อปัจจัยด้านต่างๆ เช่น ด้านสุขภาพ ด้านสิ่งแวดล้อม และศีลธรรมอย่างมาก

ทั้งนี้ข้อมูลจาก The Vegan Society ได้เผยถึงแนวโน้มความนิยมการเป็นวีแกนจากทั่วโลกเพิ่มสูงมากถึง 987% จากปี 2560 โดยในปี 2561 ยอดขายของอาหารวีแกนเติบโตสูงถึง 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 530,000 ล้านบาท ขณะที่ Markets and Markets คาดการณ์ว่า ตลาดวีแกนจะเติบโตขึ้นสูงถึง 200,000 ล้านบาทภายในปี 2566 และในปี 2567 คาดการณ์ว่าเทรนด์การเลือกรับประทานอาหาร Planted-based จะทำให้มูลค่าตลาดสูงถึง 45,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นจากปี 2019 ถึง 10%

นอกจากนี้ในวันที่1 พ.ย. ของทุกปียังถูกยกให้เป็นวัน World Vegan Day ทำให้ตลาดผลิตภัณฑ์วีแกนและแพลต์เบสมีความตื่นตัวและโหมการตลาดอย่างหนักเพื่อปั๊มยอดขายในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้ง "แอมเวย์" หนึ่งในผู้เล่นตลาดขายตรงที่ระยะหลังให้น้ำหนักกับผลิตภัณฑ์แพลต์เบส อย่างมีนัยสำคัญ

และในช่วง "วันวีแกนโลก" นี้ แอมเวย์ ได้ดึง  5 ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม “PLANT TO TABLE by Nutrilite” ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ทำมาจากพืช ขึ้นมาทำตลาด โดยชูความเชี่ยวชาญทางพฤกษศาสตร์และวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มาจากพืชสามารถทานง่าย มีรสชาติอร่อย และดีต่อร่างกายได้ประโยชน์

โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม PLANT TO TABLE by Nutrilite ประกอบไปด้วย ขนมขบเคี้ยว ฟองเต้าหู้และกระเทียม ผสมมันหวานสามสีทอดอบกรอบ และ ผักและผลไม้รวมห้าสีทอดอบกรอบ  , ชา เครื่องดื่มผงชาอู่หลงผสมสารสกัดจากโสม และ เครื่องดื่มผงชาขาวผสมดอกเก๊กฮวยและโกจิเบอร์รี่ ,เครื่องดื่มนิวทริไลท์ นมถั่วเหลือง ผสมอัลมอนด์และข้าวโอ๊ต เจาะกลุ่ม Community รักสุขภาพที่ชื่นชอบการรับประทานอาหาร Plant-based และส่งเสริมวิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม