มัดรวม 2 เทรนด์ฮอท ‘สัตว์เลี้ยง-Essental Oil’ สู่เครื่องหอมมีดีไซน์

09 ต.ค. 2565 | 07:20 น.

Herthera สร้างโอกาสธุรกิจ จับ 2 เทรนด์ดัง “สัตว์เลี้ยง” มัดรวม Essental Oil ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ “เครื่องหอมมีดีไซน์” ชูจุดแข็งงานคราฟ สร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์เครื่องหอม เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่-ทาสหมา เผยกระแสตอบรับดี เตรียมพัฒนาขายผ่านหน้าร้าน-เวิร์คช้อป

จากกระแสความนิยมเลี้ยงสัตว์เพื่อแก้เหงา และเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ทำให้จำนวนผู้เลี้ยงสัตว์และสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายสร้างโอกาสจากกระแสนิยมนำไปผนวกรวมกับจุดขายอื่นคือ Essential Oil พร้อมต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อรองรับผู้บริโภคที่ต่างมีความชื่นชอบที่แตกต่างกัน จนพัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องหอมที่มีดีไซน์เอาใจทาสหมา ทาสแมว

              

นางสาวธนวรรณ ภัทรสัตยากร เจ้าของแบรนด์ Herthera เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า Herthera เป็นธุรกิจเกี่ยวกับ Essential Oil หรือเรื่องของความหอม product เริ่มแรกคือกลิ่นอโรม่า ลาเวนเดอร์ ที่ช่วยในการนอนหลับ ก่อนจะต่อยอดออกมาเป็นลูกกลิ้งบำบัดใช้แต้มหน้ากากอนามัยหรือใช้เป็นยาหม่อง ซึ่งตอบโจทย์พนักงานออฟฟิศที่ต้องการหาไอเทมที่สามารถพกติดตัวได้เหมือนยาหม่องสมัยใหม่ ด้วยจุดเด่นเรื่องของกลิ่นและและ packaging รูปลักษณ์น่ารักเป็นงาน artwork ที่วัยรุ่นใช้ได้ ก่อนจะต่อยอดไปเป็นเทียนหอม ช่วยในเรื่องของออโรม่าและรูมสเปรย์ซึ่งในอนาคตมีแผนจะขยายไปยังผลิตภัณฑ์ก้านไม้หอมเพิ่มเติม

ธนวรรณ ภัทรสัตยากร

“หลักๆสินค้าของเราจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับความหอม โดยใช้กลิ่นจากธรรมชาติจริงๆ ช่วยบำบัดอารมณ์ คลายเครียดได้โดยเป็นกลิ่นที่นำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด และนำกลิ่นอโรม่าเทอราพีมาผสมผสานจนออกมาเป็นกลิ่นเฉพาะทั้งหมด5 กลิ่นตามคอนเซ็ปต์แต่ละซีซั่น เช่นกลิ่น snow เป็นกลิ่นเย็นๆ ยูคาลิปตัสสามารถใช้แก้หวัดคัดจมูกได้ ซึ่งจะมีจุดประสงค์ของการทำแต่ละกลิ่นด้วย

              

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ปูนหอมรูปหมา เพราะเราต้องการทำผลิตภัณฑ์ที่ไม่ซ้ำกับคนอื่น เราอยากเอาใจทาสหมา ทาสแมว โดยมีโจทย์คือสินค้าที่ออกมานอกจากจะน่ารักยังสามารถใช้ประโยชน์ ส่งกลิ่นหอมได้ด้วย ซึ่งเราเห็นโอกาสในตลาดนี้จึงนำความหอมมาผสมผสานกับงานศิลปะ จนออกมาเป็นปูนหอมปรับอากาศในรถยนต์ใช้เสียบกับช่องแอร์ ซึ่งตอนนี้มีหลายสายพันธุ์มากที่ขายดี อาทิ ไซบีเรียน คอร์กี้ เฟรนช์ บูลด็อก และพุดเดิ้ล เป็นต้น”

  มัดรวม 2 เทรนด์ฮอท ‘สัตว์เลี้ยง-Essental Oil’ สู่เครื่องหอมมีดีไซน์              

นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปแล้ว Herthera ยังมีเซต D.I.Y สำหรับลูกค้าที่ต้องการระบายสีตามสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ซึ่งในเมืองไทยยังไม่ค่อยมีคนทำในขณะที่ต่างประเทศผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้ได้รับการตอบรับที่ดีและมีราคาที่สูงมาก ซึ่งหลังจากที่เปิดตัวได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มของคนรักสัตว์ ซึ่งบางคนตัดสินใจซื้อทันทีที่เห็นผลิตภัณฑ์โดยไม่สนใจกลิ่นด้วยซ้ำ

              

“เรายังทำในเรื่องของเรซิ่น สเปรย์แอลกอฮอล์ด้วย เพราะโควิดยังอยู่แม้จะเบาบางลงแต่คนส่วนใหญ่ก็ยังพกสเปรย์แอลกอฮอล์ ซึ่งที่ผ่านมาขายดีมากโดยคนส่วนใหญ่ซื้อเพื่อใช้เองและซื้อเป็นของขวัญ เพราะฉะนั้นสินค้าและหลักก็จะยังอยู่ในเรื่องของความหอมและงานคราฟงานศิลปะ ตอนนี้เราทำออกมาเป็นคอลเลคชั่น แต่ละซีซั่น ซึ่งปีหน้ามีแผนจะทำในธีมท่องเที่ยวหรือสถานที่ท่องเที่ยวเด่น artwork น่ารักๆ”

มัดรวม 2 เทรนด์ฮอท ‘สัตว์เลี้ยง-Essental Oil’ สู่เครื่องหอมมีดีไซน์               

ปัจจุบัน Herthera มีวางจำหน่ายในช่องทางออนไลน์เป็นหลักทั้งใน marketplace และ social commerce รวมทั้งช่องทางออฟไลน์เช่น การออกบูธต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากคนที่ชอบงานกลิ่นหอมและงานคราฟ อย่างไรก็ตาม Herthera ยังไม่สามารถขยายธุรกิจได้มากนักเนื่องจาก เจ้าของแบรนด์ยังคงทำงานประจำและควบคุมดูแลธุรกิจด้วยตัวเอง

มัดรวม 2 เทรนด์ฮอท ‘สัตว์เลี้ยง-Essental Oil’ สู่เครื่องหอมมีดีไซน์

“ในอนาคตมีแผนเปิดหน้าร้าน stand alone เพราะตอนนี้เราทำ workshop คลาสเรซิ่นดอกไม้แห้งผลตอบรับค่อนข้างดี เรารู้สึกว่าเราอยากขยายหน้าร้านให้คนมาลองกลิ่นและมี workshop ในตัวเพื่อให้คนมาทำ D.I.Y ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ก็ยังมีโรงแรมติดต่อมาให้ทำเทียนหอมเสนอเข้าตามโรงแรม ซึ่งเราสนใจและอยากต่อยอดไปจนถึงน้ำมันนวดแต่ด้วยความที่เรายังทำงานประจำอยู่จึงโฟกัสได้เฉพาะแค่หลังเลิกงานและวันหยุดทำให้ยังลุยได้ไม่เต็มที่ แต่เท่านี้เราก็รู้สึกว่าเราทำได้ดีระดับหนึ่งแล้วเราก็รู้สึกโอเคกับมันเพราะงานของเราเป็นงานทำมือทุกชิ้น มันมีมูลค่ามากกว่าของที่เราไปซื้อมาแล้วขายไป”

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,822 วันที่ 29 กันยายน - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565