‘กัญชง’ ตลาดพุ่ง 5 หมื่นล้าน ไทย-เทศ แห่ลงทุน จ่อฮับส่งออก

28 ส.ค. 2565 | 01:22 น.

ตลาดกัญชงคึกคัก คาด 3 ปีมูลค่าพุ่ง 5 หมื่นล้านหลังรัฐปลดล็อกจากบัญชียาเสพติด ไฟเขียวนักธุรกิจแห่ลงทุนเพิ่ม “88 แคนนาเทค” ส่งเครื่องสำอาง/คลินิกทางเลือกชิมลางตลาด เล็งทุ่ม 120 ล้านขยายเพาะปลูก โรงงานสกัดเพิ่ม “ไทย ลีฟ” เดินหน้าเพิ่มทุน เตรียมพร้อมขยายตลาดทั่วโลก

หลังปลดล็อกกัญชา-กัญชงออกจากบัญชีรายชื่อยาเสพติดประเภทที่ 5 ผลักดันให้ “กัญชง” กลายเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ที่สามารถนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้มหาศาล ทั้งจากต้นกัญชง ที่สามารถนำเส้นใยไปใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ หรือการนำผลกัญชงไปสกัดน้ำมันเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล หรือเพอร์ซันนอลแคร์ การนำกากไปใช้เป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์ และที่นิยมมากสุดเห็นจะหนีไม่พ้นการนำ CBD ไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย ถือเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจเป็นตลาดเกิดใหม่ที่ทั่วโลกจับจ้อง

              

นายพรประสิทธิ์ สีบุญเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท 88 แคนนาเทค จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังลงทุนต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบันบริษัทเริ่มมีผลผลิตออกมาในปีนี้ และจะทำรายได้เข้ามาในไตรมาส 4 ของปีนี้ จากผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายได้แก่ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ภายใต้ชื่อ “แคนน์บี” (Cann BE) และมีแผนเปิดให้บริการคลินิกทางเลือก สำหรับให้บริการด้านการดูแลสุขภาพจากกัญชง การให้บริการรักษาผู้ป่วยโรคต่างๆ อาทิ โรคนอนไม่หลับ เป็นต้น ในไตรมาส 4 ของปีนี้ด้วย

  พรประสิทธิ์ สีบุญเรือง              

โดยในปีหน้าจะเป็นปีที่บริษัทเริ่มทำรายได้ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมกับมีแผนลงทุนเพิ่มอีก 120 ล้านบาท แบ่งเป็นการตั้งโรงงานสารสกัดแห่งใหม่ 60% และการขยายแปลงเพาะปลูก 40% เพื่อเพิ่มกำลังการเพาะปลูกจากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 6 หมื่นต้น เป็น 3-5 แสนต้น เพื่อรองรับการนำไปใช้เป็นสารสกัดในการผลิตผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันพบว่า โรงพยาบาลเอกชนกว่า 300 แห่ง รวมถึงคลินิกเวชกรรม ต่างสนใจและต้องการนำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ CBD จากกัญชงไปใช้ในการรักษา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้กับผู้ป่วยมากขึ้น

 

“ในปลายปีนี้คาดว่าจะเริ่มมีรายได้เข้ามา และเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีหน้าโดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้ราว 1,200 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,500 ล้านบาทในปี 2567 หรือมีส่วนแบ่งตลาดราว 5% จากมูลค่าตลาดกว่า 5 หมื่นล้านบาท”

‘กัญชง’ ตลาดพุ่ง 5 หมื่นล้าน ไทย-เทศ แห่ลงทุน จ่อฮับส่งออก               

สำหรับแผนการลงทุนในอนาคตบริษัทเตรียมพร้อมขยายการลงทุนเพื่อรองรับการขยายตลาดส่งออกไปยังอาเซียน เอเชีย และตลาดทั่วโลก โดยจะระดมทุนผ่านคลาวนด์ฟันดิ้ง พร้อมกับการระดมทุนในตลาดหลัก ทรัพย์ ที่เปิดในหมวดสตาร์ทอัพและกลุ่มเอสเอ็มอี โดยจะยื่นไฟล์ลิ่งในต้นปีนี้

              

ทั้งนี้มองว่าตลาดกัญชงยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก นอกจากผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล เครื่องสำอาง อาหารเสริม แล้ว ยังสามารถนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาและเครื่องดื่ม โดยทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของอย. ซึ่งผู้ดำเนินการจะต้องยื่นขอจดทะเบียนอย่างถูกต้อง โดยมีนักธุรกิจต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนจำนวนมาก เพราะมองว่าไทยมีความพร้อมหลังเปิดเสรี ขณะที่ในหลายประเทศยังไม่เปิดเสรี จึงเป็นโอกาสของประเทศไทย ในขณะที่นักลงทุนไทยเองหากลงทุนในเวลานี้ ถือว่าช้าไป เพราะต้องใช้เวลาเตรียมตัวอีกระยะหนึ่ง

  ‘กัญชง’ ตลาดพุ่ง 5 หมื่นล้าน ไทย-เทศ แห่ลงทุน จ่อฮับส่งออก              

ด้านนายยิ่งยศ จารุบุษปายน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการเติบโตของตลาดกัญชงโลกรวมถึงประเทศไทยยังมีอีกมาก โดยเฉพาะประเทศไทยถือเป็นตลาดเกิดใหม่ และการที่ไทยมีกฎหมายรองรับที่ชัดเจน ทั้งในด้านการเพาะปลูก การผลิต การแปรรูป จนได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ จะทำให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลกมากขึ้น เพราะสารสกัด CBD ของกัญชงสามารถนำไปใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่ม Health Care & Wellness

              

ขณะที่แนวโน้มการส่งออกไปต่างประเทศ กำลังถูกจับตามองโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่างสปป.ลาว กัมพูชา สิงคโปร์ อินโดนีเซีย รวมถึงเวียดนาม ที่สนใจนำผลิตภัณฑ์ไปต่อยอด แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับข้อกฎหมายของไทยและแต่ละประเทศด้วย

ยิ่งยศ จารุบุษปายน               

อย่างไรก็ดี บริษัทไทย ลีฟเตรียมความพร้อมในการองรับในรูปแบบ One Stop Service ที่พร้อมพัฒนาตลาดกัญชงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ด้วยการผนึกกับผนึกพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้แก่ คานาร์ฟามา อินเวสต์เมนต์ส อิ้งค์ (Cannapharma Investments Inc.) บริษัท ออริจิ้น เฮลท์แคร์ จำกัด ในเครือ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

 

และบริษัท เอราเลียน แคปิตอล จำกัด (Aralian Capita) ตั้งแต่การนำเข้าเมล็ดพันธุ์ การปลูก และการสกัด เพื่อให้ได้คุณภาพที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก โดยปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาและพร้อมออกวางจำหน่ายกว่า 29 รายการ รวมทั้งยังมีสินค้าที่พร้อมพัฒนาอีกกว่า 1,000 รายการ

              

สำหรับแผนลงทุน บริษัทจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 120 ล้านบาทในปีหน้า เพื่อนำไปพัฒนาสินค้าและขยายการลงทุนเพิ่ม โดยในเสตทแรกบริษัทมีแผนวางจำหน่ายสินค้าใน 3 หมวด คือ เครื่องดื่ม, อาหารเสริมและเวชสำอาง เพื่อจำหน่ายทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยจะผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปทั้งในเอเชียและยุโรป

‘กัญชง’ ตลาดพุ่ง 5 หมื่นล้าน ไทย-เทศ แห่ลงทุน จ่อฮับส่งออก               

“ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่เปิดเสรีกัญชา-กัญชง ทำให้ทุกประเทศหันมาสนใจและศึกษาอย่างจริงจัง จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะสร้างโอกาสใหม่ๆ และทำให้ตลาดกัญชงเติบโตได้อีกมาก โดยประเมินว่าในปีนี้ตลาดกัญชงซึ่งมีมูลค่าราว 7,200 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 1 หมื่นล้านบาทในปีหน้า ขณะที่บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้ราว 700 ล้านบาทในปีแรก และเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านบาทใน 3-5 ปีข้างหน้า”

              

“ในปีหน้า จะเห็นภาพการแข่งขันและการลงทุนของตลาดกัญชงในตลาดอาหารเสริม และตลาดเฮลธ์แคร์ที่ชัดเจนมาก ซึ่งปัจจุบันไทยเป็น Medical Hub ของโลกและเอเชีย มีการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบ มีอุตสาหกรรมการแพทย์ที่ก้าวหน้า และเชื่อว่าจะได้เห็นการแข่งขันจากธุรกิจต่างๆ ที่เข้ามาในตลาดนี้อย่างคึกคักแน่นอน”

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,812 วันที่ 25 - 27 สิงหาคม พ.ศ. 2565